Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไฉไลเป็นบ้า
•
ติดตาม
14 เม.ย. 2021 เวลา 03:24 • ประวัติศาสตร์
เสด็จพระองค์ใหญ่ของชาววัง
(ตอน2 -จบ)
พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี
เมื่อครั้งที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 4 ทรงประทับอยู่ ณ พระตำหนักสวนกุหลาบ ภายในพระบรมมหาราชวัง เมื่อหม่อมแพใกล้จะคลอดพระหน่อ จึงต้องหาสถานที่คลอดนอกพระบรมมหาราชวัง เนื่องจากตามพระราชประเพณีนั้น นอกจากเชื้อพระวงศ์ที่จะมีประสูติกาลพระราชโอรสและพระราชธิดาแล้ว แม้จะเป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามก็ไม่สามารถที่จะคลอดลูกภายในพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชเมตตาพระราชทานวังนันทอุทยาน ให้เป็นสถานที่ในการคลอดพระหน่อ
ซึ่งหม่อมแพ ก็ทรงครรภ์เพียง 7 เดือนก็ให้ประสูติพระหน่อก่อนกำหนด
เมื่อแรกประสูตินั้น พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ ยังอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ทำให้หมอตำแยเข้าใจว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ จึงหาหม้อขนันเพื่อเอาร่างใส่ถ่วงน้ำตามประเพณี แต่เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ขรัวตาอยากรู้ว่าเป็นพระองค์หญิงหรือพระองค์ชายจึงให้ฉีกถุงน้ำคร่ำออก แล้วพบว่ายังหายพระทัยอยู่ จึงช่วยกันประคบประหงมเลี้ยงดูจนสามารถมีพระชนม์อยู่ได้
ต่อมา หม่อมแพและพระธิดาจึงย้ายกลับเข้ามาประทับ ณ พระตำหนักสวนกุหลาบตามเดิม
เมื่อแรกประสูตินั้นพระองค์มีพระอิสริยยศที่ หม่อมเจ้าศรีวิไลยลักษณ์ ต่อมา เมื่อพระราชบิดาขึ้นครองราชสมบัติแล้ว พระองค์จึงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี
หลังจากที่ได้รับพระราชทานยศ สถาปนาเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายในเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2446 มีพระนามว่า "พระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี หลังจากนั้นเพียง 1 ปีเศษ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ ก็สิ้นพระชนม์ภายในพระบรมมหาราชวัง วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2447 หลังประชวรเรื้อรังมานาน รวมสิริพระชันษา 36 ปี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า ต้นศรีมหาโพธิ์ซึ่งพระองค์ทรงได้พืชพันธุ์มาจากพุทธคยา แล้วทรงเพาะและปลูกไว้ที่วัดนิเวศธรรมประวัติเป็นวันเดียวกับวันประสูติของพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิกัลยาวดี กรมขุนสุพรรณภาควดี ดังนั้น จึงงมีพระบรมราชโองการให้จัดการพระราชทานเพลิงพระศพที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดนิเวศธรรมประวัติ โดยให้ตั้งพระศพทรงบำเพ็ญพระราชกุศลที่พระราชวังบางปะอิน โดยใช้พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์เป็นที่ประดิษฐานพระศพ
ในการนี้ รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบางปะอินก่อนล่วงหน้า 1 วัน เมื่อพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดีมาถึงสถานีรถไฟบางปะอินในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ รอรับพระศพ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระศพประดิษฐานเหนือชั้นแว่นฟ้าในเรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชยเพื่อเชิญพระศพไปยังพระราชวังบางปะอิน การจัดขบวนเรือ
ครั้งนี้ โปรดฯ ให้จัดขบวนเรือยาวอย่างขบวนเรือถวายผ้าพระกฐิน หลังจากขบวนเรือถึงพระราชวังบางปะอินแล้ว เจ้าหน้าที่เชิญพระศพขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เหนือแว่นฟ้าทองคำ 1 ชั้น มีฐานเขียวรอง มีบัวกลุ่มรองพระโกศ ห้อยฉัตรตาดทอง 5 ชั้น แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก จนเป็นที่กล่าวขานในหมู่ชาววังว่า ใครไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นคนนอกสังคมชาววัง
แต่อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปในงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพของกรมขุนสุพรรณภาควดี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ พระราชธิดาพระองค์ที่ 8 ในรัชกาลที่ 5 ก็ประชวรและสิ้นพระชนม์ ด้วยพระอาการไข้พิษ ณ วรนาฎเกษมสานต์ พระราชวังบางปะอิน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2448เวลาเช้า 2 โมง 21 นาที (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2448) เวลาบ่าย 5 โมงเศษ ด้วยพระชันษาเพียง 31 ปี 312 วัน
ยังความโศกพระราชหฤทัยแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น ที่สูญเสียพระราชธิดาไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
ซึ่งในนิยายสี่แผ่นดิน บทประพันธ์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ยังกล่าวถึงเหตุช่วงนี้ว่า
"ต้องเชิญพระศพพระเจ้าลูกเธอองค์หนึ่งลงมา แล้วเชิญพระศพของอีกพระองค์ขึ้นไป"
หลังจากเชิญพระอัฐิเสด็จพระองค์ใหญ่ลงประดิษฐานเหนือบุษบกเรือพระที่นั่งชลวิมานไชย แล้วจึงเชิญขึ้นประดิษฐานในบุษบกทองคำ ณ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เพื่อบำเพ็ญพระกุศลพระอัฐิ หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ซุ้มเรือนแก้วขึ้นภายในวัดนิเวศธรรมประวัติเพื่อใช้บรรจุพระอัฐิของพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี
ในงานพระศพครั้งนี้ พระพุทธเจ้าหลวงทรงฉลองพระองค์สีขาว ซึ่งถือว่าเป็นการพระราชทานพระเกียรติยศแก่พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์นี้อย่างสูง เนื่องจากโดยทั่วไปพระมหากษัตริย์จะทรงฉลองพระองค์สีขาวเฉพาะงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชบุพการี
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แปลนิทานนิบาตชาดกตอนต้น เพื่อพิมพ์เป็นหนังสือสำหรับแจกในงานพระศพครั้งนี้ ซึ่งแต่เดิมนั้นหนังสือสำหรับแจกในงานศพจะเป็นบทสวดมนต์หรือหนังสือที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พระองค์จึงมีพระราชดำริว่า หนังสือแจกซึ่งเป็นพระธรรมปริยายที่ลึกซึ้งคนไม่ชอบอ่าน ดังนั้น พระองค์จึงเปลี่ยนเป็นนิทานชาดกแทน พร้อมกันนี้ทรงแนะนำไว้ในคำนำตอนต้นว่า หนังสือแจกควรพิมพ์เรื่องที่คนชอบอ่าน
ใสนระหว่างมีพระชนม์ชีพ พระองค์ยังได้รับตำแหน่งให้เป็นอุปนายิกาสภาอุณาโลมแดง หรือสภากาชาดไทยในปัจจุบัน ร่วมกับเจ้านายฝ่ายในอีกหลายพระองค์
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย