ความจริงที่จำใจต้องรับทราบ !! วันนี้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1335 ราย สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของการระบาดในประเทศไทย
นับจากมีการระบาดของโควิดในประเทศไทย ตั้งแต่มกราคม 2563 เป็นต้นมา ทั้งระลอกหนึ่ง(สถานบันเทิงผับบาร์ทองหล่อและสนามมวยลุมพินี)
ตามด้วยระลอกสอง(ตลาดกลางค้ากุ้ง มหาชัย สมุทรสาคร)
ยังไม่เคยมีการติดเชื้อวันเดียว ที่เกินกว่า 1000 รายเลย ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ติดเชื้อทีเดียว 1335 ราย
ในการระบาดรอบใหม่ของระลอกที่สองนี้ หรืออาจจะเรียกว่าระลอกที่สามก็ตามที (ไม่ควรเสียเวลาถกเถียงกันว่าระลอกไหนกันแน่) เริ่มต้นจากสถานบันเทิงผับบาร์ย่านทองหล่อ
และด้วยความที่เป็นไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ
(UK Variant B.117) ซึ่งมีความสามารถในการแพร่เชื้อกว้างขวางมากกว่าเดิมถึง 70%
โดยได้รับการยืนยันจากหลายประเทศในทวีปยุโรปจึงทำให้เกิดการติดเชื้อนับล้านคนในประเทศที่มีขนาดพลเมืองเท่ากับประเทศไทย
นับถึงวันนี้ เป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์ที่เริ่มมีการระบาดในคลัสเตอร์ทองหล่อ ตัวเลขได้พุ่งสูงขึ้นเป็นลำดับ และวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1335 รายแล้ว
โดยเป็นการตรวจพบจากในระบบปกติ 789 ราย ค้นหาเชิงรุก 537 รายและมาจากต่างประเทศ 9 ราย
ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมของประเทศไทยทั้งหมดรวม 35,910 ราย
เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 32,689 ราย
จากต่างประเทศ 3221 ราย
ตัวเลขที่น่าสนใจได้แก่
จำนวนเตียงว่างของประเทศไทยในขณะนี้ ที่พอที่จะสามารถรองรับผู้ป่วยติดโควิดได้ อยู่ที่ประมาณ 20,000 เตียง
ก็จะสัมพันธ์กับจำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาและยังไม่ได้รับการอนุญาตให้กลับบ้าน ซึ่งตัวเลขล่าสุดของผู้ที่นอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาลคือ 7491 ราย
เป็นนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 6914 ราย
กักตัวดูแลอาการอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม 577 ราย
ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยหนัก 36 รายและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 9 ราย
โดยมียอดเสียชีวิตขณะนี้ 97 ราย เมื่อดูจากตัวเลขผู้ป่วยหนักและที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คาดว่าเราจะมีผู้เสียชีวิตเกิน 100 รายแน่นอน
ที่ต้องย้ำกันตรงนี้อีกครั้งก็คือ สถานการณ์ของโควิดในรอบนี้ คลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ เป็นไวรัสที่แตกต่างจากเดิม มีความสามารถในการแพร่เชื้อกว้างและเร็วขึ้น 70%
มาตรการต่างๆทั้งของภาครัฐ เอกชน ตลอดจนวินัยของประชาชนจึงต้องยกระดับหรือยกการ์ดตัวเองขึ้นอีกอย่างน้อย 70% จึงจะสามารถทำให้รองรับสถานการณ์และควบคุมได้ดีเหมือนในระลอกหนึ่งและระลอกสอง
ถ้าเราทำตามมาตรการเท่าเดิม เกรงว่าจะคุมไม่อยู่
และจุดที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อเราคุมไม่อยู่ แต่จะยังไม่ทราบชัดเจนถึงความกว้างขวางของการระบาด จนกว่าจะผ่านไปหนึ่งรอบระยะฟักตัวคือ 14 วัน จึงจะปรากฏตัวเลขแบบก้าวกระโดด( คือช่วงตั้งแต่จบสงกรานต์เป็นต้นไป)
ซึ่งในทางสถิติวิชาการ เมื่อตอนเกิดเรื่องระบาดรอบหนึ่ง พอเราพูดถึงการมีผู้ติดเชื้อนับ 10,000 คน หลายคนก็จะตกใจ และไม่มีพื้นความเข้าใจที่มากพอ ก็กล่าวว่าเป็นตัวเลขเกินจริง วันนี้เราก็พบตัวเลขติดเชื้อ 35,910 คนแล้ว
วันนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรเพิ่มเติมให้ชัดเจนจริงจัง โดยใช้การแพทย์นำการเมือง
( แน่นอนว่าจะมีผลกระทบที่จะต้องเดือดร้อนและเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันตามสมควร ซึ่งรัฐก็จะต้องเยียวยากันต่อไป)
ก็ต้องบอกกล่าวกันตรงนี้ว่า เราอาจเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในระดับ 1-5 แสนคนได้ ซึ่งก็จะมีคนบอกว่าเกินจริงอีก
แต่ต้องขอเรียนว่า ตัวเลขเหล่านี้ เป็นตัวเลขที่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าทุกฝ่ายไม่ช่วยกัน
แต่ถ้าทุกฝ่าย ตั้งแต่รัฐบาล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน ภาคประชาสังคม สื่อสารมวลชน ตลอดจนประชาชนทุกคน ร่วมมือร่วมใจ
โดยใช้ทั้งสติและปัญญา ประกอบกับข้อมูลที่มีความถูกต้องทันสมัย ก็จะทำให้ตัวเลขไม่ขึ้นไปสูงตามที่คำนวณไว้
ไม่อยากเห็นตัวเลขสูงๆดังกล่าวเลย และอยากให้การคาดคะเนดังกล่าวผิดโดยสิ้นเชิงครับ
Reference
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
- 28
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
