ลิโป้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว
เศรษฐศาสตร์แห่งความรัก
"ยอดคนต้องลิโป้ ยอดม้าต้องเซ็กเธาว์"
ลิโป้ เป็นขุนศึกที่มีความเก่งกาจในการรบมาก
มีฝีมือระดับพระกาฬ ไม่มีใครในแผ่นดินสู้ได้
แม้แต่ 3 พี่น้องร่วมสาบาน เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ช่วยกันรุมกินโต๊ะ
ก็ยังไม่สามารถจะเอาชนะได้
และยังมียอดม้าชื่อเซ็กเธาว์เป็นม้าคู่ใจ
พร้อมทั้งทวนกรีดนภาเป็นอาวุธคู่กายด้วย
มีทั้งสุดยอดฝีมือ สุดยอดม้า สุดยอดอาวุธ อยู่ในตัวคนเดียวกัน
จึงไม่แปลกเลยที่ได้ฉายาว่า "เทพแห่งสงคราม"
เป็นขุนศึกที่อยู่เคียงข้างตั๋งโต๊ะ ที่มีอำนาจล้นฟ้า คับแผ่นดิน
ซึ่งลิโป้นับถือเป็นพ่อบุญธรรม
ให้ลิโป้หมดทุกอย่างทั้ง เงินทอง ลาภยศ ตำแหน่ง สิ่งต่าง ๆ มากมาย
แม้แต่ม้าเซ็กเธาว์ ซึ่งเป็นม้าตัวโปรดของตั๋งโต๊ะก็ยังให้ลิโป้ได้
เปย์ให้ทุกอย่างมากกว่าคนอื่น ๆ จนเป็น "ลูกรัก" ในก๊วนตั๋งโต๊ะ
ถ้าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เกิดเหตุพลิกผันเสียก่อน
ไม่แน่ว่าแผ่นดินจีนทั้งแผ่นดิน อาจจะตกอยู่ในมือตั๋งโต๊ะได้เลย
เหตุการณ์พลิกผัน คือ การที่ลิโป้ลงมือฆ่าตั๋งโต๊ะ
ฆ่าตั๋งโต๊ะ ทั้ง ๆ ที่ลิโป้นับถือเป็นพ่อบุญธรรม
ที่ให้สิ่งต่าง ๆ แก่ลิโป้มากมาย ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
เพียงเพราะผู้หญิงที่ชื่อ "เตียวเสี้ยน" เพียงคนเดียว
เป็นเพราะอะไร?......หากใช้หลักเศรษฐศาสตร์ในการหาคำตอบ
ก็พอจะมี "แรงจูงใจ" อยู่บ้าง เช่น
1. อุปทาน (Supply)
จะมีค่ามากก็ต่อเมื่อ สิ่งนั้นมีจำนวนน้อยและเป็นที่ต้องการมาก
หากมีจำนวนน้อยแต่ไม่เป็นที่ต้องการ หรือ เป็นที่ต้องการแต่มีจำนวนมาก
อุปทานของสิ่งนั้น ก็จะมีค่าไม่มากนัก
แต่เตียวเสี้ยนมีรูปโฉมสวยมาก เอาใจเก่ง สามารถทำให้ลิโป้เชื่อว่านางรักลิโป้
รวมทั้งเป็นผู้หญิงที่มีเกียรติ เพราะเป็นลูกสาวบุญธรรมของอ้องอุ้น
ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนัก
จึงทำให้เตียวเสี้ยนเป็น "ของแพง" ในความรู้สึกของลิโป้
ที่มีเพียงคนเดียวและมีความต้องการมาก
2. การจับคู่ใน “ตลาดสองด้าน” (two-sided matching market)
เดิมทีความเป็นพ่อลูกระหว่างตั๋งโต๊ะและลิโป้
ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างราบรื่นหมด
เพราะเป็นการจับคู่ (Matching) ที่ลงตัว
ตั๋งโต๊ะก็พอใจที่จะมีลิโป้ ลิโป้ก็เต็มใจที่จะรับใช้ตั๋งโต๊ะ
แต่ในความเป็นจริงใน"ตลาดสองด้าน" นั้น
มักจะมีตัวแปรอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ซึ่งตัวแปรในที่นี้หมายถึง เตียวเสี้ยน
ซึ่งหากมีตัวแปรอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
จะทำให้การจับคู่ในตลาดสองด้านเพี้ยนไป
ในที่นี้จะทำให้เกิดตลาดสองด้าน ทั้ง สองตลาดในเวลาเดียวกัน
คือ ตลาดตั๋งโต๊ะ และ ตลาดเตียวเสี้ยน โดยมีลิโป้อยู่ตรงกลาง
ทำให้ลิโป้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสองตลาด ว่าจะไปทางไหนดี
ระหว่างตลาดเตียวเสี้ยนที่มีความรักให้ (ลิโป้คิดไปเอง)
กับตลาดตั๋งโต๊ะที่มีทุกอย่างให้
บางทีตลาดที่มีความรักให้อย่างตลาดเตียวเสี้ยน
อาจมีความสำคัญไม่แพ้ไปกว่า ตลาดที่มีให้ทุกอย่าง
เช่นเดียวกับตลาดตั๋งโต๊ะ ก็เป็นได้
3. ต้นทุน (Cost)
ลิโป้ใช้เวลาในการฝึกฝนฝีมือและสั่งสมผลงานมาเป็นเวลานาน
จนเป็นขุนศึกที่มีฝีมือในการรบเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดิน
มีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วแผ่นดิน
จึงทำให้มีเกียรติและศักดิ์ศรีในฐานะนักรบมาก
ซึ่งความมีเกียรติและศักดิ์ศรีถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง
แต่การที่ถูกตั๋งโต๊ะซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมแย่งคนรักของตัวเองไป
ทำให้ลิโป้รู้สึกเสียเกียรติและศักดิ์ศรีมาก
ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาตินักรบยอมไม่ได้
นอกจากนี้สิ่งต่าง ๆ มากมายที่ลิโป้ได้รับมาจากตั๋งโต๊ะ
ก็เป็นสิ่งที่ตั๋งโต๊ะให้ลิโปไปแล้ว เป็นของลิโป้แล้ว
หากไม่มีตั๋งโต๊ะ สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นก็ยังเป็นของลิโป้อยู่ดี
และเมื่อฆ่าตั๋งโต๊ะไปแล้ว ก็ยังสามารถไปอยู่กับอ้องอุ้นได้
ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนัก
รวมทั้งตำแหน่งของลิโป้ ก็ยังคงอยู่
แถมได้รับการสรรเสริญจากคนทั่วแผ่นดินด้วย
ในฐานะวีรบุรุษโค่นทรราช กอบกู้ราชบัลลังก์
ดังนั้น การที่ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะ ลิโป้แทบจะไม่เสียอะไรเลย
และกอบกู้เกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองกลับคืนมาได้
แถมยังได้เตียวเสี้ยนมาครอบครองด้วย
สรุปคือ เมื่อคิดในแง่ของต้นทุนแล้ว
การที่ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะ.....ลิโป้ได้มากว่าเสียด้วยซ้ำ
เมื่อมองในมุมของ "แรงจูงใจ" ทั้ง 3 ข้อ ข้างต้น
ก็น่าจะเป็นแรงจูงใจที่มากพอ
ที่จะทำให้ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะได้
ความไม่มีเหตุผลในความรัก ก็เป็น เหตุผลอย่างหนึ่ง
#เศรษฐศาสตร์สามก๊ก
#เศรษฐศาสตร์
#สามก๊ก
#ลิโป้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
