16 เม.ย. 2021 เวลา 01:00 • นิยาย เรื่องสั้น
The Cat Who Loved to Protect Books
"ปาฏิหาริย์ แมวลายส้ม ผู้พิทักษ์หนังสือ"
เรื่องราวของเด็กหนุ่มจอมเก็บตัวกับการผจญภัยที่เค้าเองก็คิดไม่ถึง ใครจะคิดว่าหนังสือที่ตัวเองอ่านอยู่ทุกวัน จะต้องการ การปกป้องจากภัยอันตรายที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา...
The Cat Who Loved to Protec Books
The Cat Who Loved to Protec Books หรือชื่อไทยเท่ๆว่า "ปาฏิหาริย์ แมวลายส้ม ผู้พิทักษ์หนังสือ" เป็นผลงานการประพันธ์ของ คุณหมอนัตซึคาวะ โชสุเกะ และเล่มภาษาไทยนี้ได้รับการแปลอย่างบรรจง โดยคุณฉัตรขวัญ อดิศัย
เรื่องโดยย่อคือ
เรื่องเล่าชีวิตของหนุ่มน้อย นัตซึกิ รินทาโร่ หลานชายคุณปู่เจ้าของร้านหนังสือมือสอง ผู้ชอบเก็บตัว หลังจากคุณปู่เสียชีวิตได้ไม่กี่วัน หนุ่มน้อยที่ต้องจัดการกับชีวิตของตัวเองก่อนที่จะย้ายบ้านไปอยู่กับคุณป้า ได้พบกับแมวสามสีพูดได้!?
แมวประหลาดได้ขอให้เด็กหนุ่มเข้าสู่โลกเขาวงกต เพื่อไปปลดปล่อยหนังสือ เด็กชายจอมเก็บตัวผู้แม้แต่โรงเรียนยังไม่ยอมไป จะสามารถทำภารกิจนี้สำเร็จได้หรือไม่ ใครกันที่อยากทำร้ายหนังสือ อ่านต่อได้ในเล่ม "ปาฏิหาริย์ แมวลายส้ม ผู้พิทักษ์หนังสือ"
และใช่ ถ้าคุณเป็นคนรักหนังสือต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง
หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป :)
หลังจากนี้คือการสปอยล์ เนื้อหาทั้งสำคัญและไม่สำคัญ
เรื่องราวเริ่มขึ้นด้วยการจากไปอย่างสงบของคุณปู่ เจ้าของร้านหนังสือมือสอง
"ร้านหนังสือนัตซึกิ" ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับกับตัวเองของเรื่องของเรา "นัตซึกิ รินทาโร่" เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ตัวเล็ก ผิวขาว ใส่แว่น ความเสียใจของเค้าไม่ได้กลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตา หรือถ้อยคำมากนัก
คุณป้าที่พึ่งเคยเจอกันครั้งแรก เป็นธุระให้กับรินทาโร่อย่างคล่องแคล่ว และจะมารับรินทาโร่ไปอยู่ด้วยกัน ในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น
"ร้านหนังสือนัตซึกิ" ยังคงเปิดในตอนเช้าเป็นปรกติ เว้นเสียแต่ว่าคนที่จัดแจงทุกอย่างแทนคุณปู่ คือรินทาโร่ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับเด็กชายนัก รุ่นพี่ที่โรงเรียน "อากิบะ เรียวตะ" แวะมาหาเพื่อซื้อหนังสือมือสองอีกเช่นเคย เด็กหนุ่มสุดฮอต ที่ทั้งเรียนดี กีฬาเก่ง เค้าหยิบหนังสือหลายเล่ม เพราะรินทาโร่บอกว่ากำลังเซล เพราะว่าจะปิดร้าน แต่ก็ต้องงงกับราคาที่ลดลงเพียงแค่ 10% เท่านั้น รินทาโร่ให้เหตุผลว่า รุ่นพี่ซื้อแต่ผลงานชิ้นเอก และเค้าไม่สามารถลดได้มากกว่านี้
นอกจาก อากิบะแล้ว ยังมี "หัวหน้าห้อง ยูซุกิ ซาโยะ" ที่แวะเอา "สมุดสื่อสาร" มาให้รินทาโร่ที่บ้าน เพราะรินทาโร่ขาดเรียนมาหลายวัน และยังคงย้ำให้รินทาโร่ไปเรียนหน่อย ถึงแม้ว่าอีกซักพักก็จะต้องย้ายบ้านก็เถอะ
ร้านหนังสือนัตซึกิ มีลักษณะไม่ใหญ่มาก มีทางเดินเล็กๆทอดยาวไปหลังร้าน แต่ด้านหลังร้านเป็นทางตัน ประดับด้วยโคมไฟตามจุดต่างๆ สองข้างทางเป็นตู้หนังสือขนาดใหญ่จรดเพดาน มีหนังสืออัดแน่นอยู่เต็ม ด้านหน้ามีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับคิดเงิน
วันถัดมาขณะที่ร้านปิดลงแล้ว มีเสียงเรียกที่ทำให้รินทาโร่ ประหลาดใจดังขึ้นภายในร้านของตัวเอง และพบว่าเจ้าของเสียงคือแมวสามสี ขนปุกปุย มันแนะนำตัวว่าชื่อ "โทระ" (โทระ แปลว่า เสือ ในภาษาญี่ปุ่น)
โทระเรียกรินทาโร่ว่า "รุ่นที่สอง" (รุ่นที่หนึ่งคือคุณปู่ของรินทาโร่ไม่ผิดแน่) มันกึ่งขอแกมบังคับให้รินทาโร่ ไปช่วยปกป้องหนังสือด้วยกัน รินทาโร่ จำใจรับปากเสียไม่ได้ (งุนงง ว่าคนแบบตัวเองจะช่วยเหลือใครได้อย่างไรกัน แต่ก็ให้ความร่วมมือด้วยความรักหนังสือ)
เขาวงกตแห่งที่ 1
เจ้าโทระพารินทาโร่ มุ่งเดินทางไปยังหลังร้าน โดยที่รินทาโร่ก็ไม่รู้ว่ามันเดินต่อไปได้อย่างไร จากทางตันด้านในร้าน ผ่านนู่น ผ่านนี่ มาเรื่อยจนมาเจอคฤหาสถ์ ที่มีการตกแต่งแปลกตา เป็นการผสมผสานทางด้านสถาปัตยกรรม ทั้ง ยุโรป เอเชีย หลากหลายสัญชาติ จนกระทั่งไปถึงห้องโถงขนาดมหึมา ห้องสุดท้าย
ณ ที่นั้น รินทาโร่ ได้พบกับชายชุดขาว นั่งอ่านหนังสือ อยู่กลางห้อง รอบๆห้องเต็มไปด้วยชั้นหนังสือสูงเต็มเพดาน และมีหนังสือแน่นไปหมด
แต่ชั้นหนังสือทุกชั้นถูกปิดล็อคไปด้วยกุญแจแน่นหนา ราวกับว่าจะไม่ได้รับการเปิดออกมาอีก
จากกาสนทนาได้ความว่า ชายผู้นี้เป็นผู้ที่อ่านหนังสือ ได้ต่อปีเยอะที่สุด ปีละหลายหมื่นเล่ม และเค้าไม่เคยอ่านหนังสือ "ซ้ำ" เพราะเค้าเชื่อว่าการอ่านหนังสือให้ได้มากที่สุดจะเป็นคนเก่งที่สุด และนั่นทำให้เค้าต้องแข่งกับเวลา
ภาพประกอบในจินตนาการผู้เขียนบทความ
รินทาโร่ต้องงงงวยกับคำพูดของชายชุดขาว ที่จะเรียกได้ว่าจริงก็จริง แต่จะไม่จริงก็ไม่จริงซะทีเดียว เด็กหนุ่มครุ่นคิด และต่อกรกับชายชุดขาว โดยจับพิรุจในการจัดวางหนังสือ ที่ดูเผินอาจจะมีครบทุกเรื่อง แต่บางเรื่องก็มีไม่ครบทุกเล่มที่เป็นชุดสมบูรณ์ และสภาพของหนังสือที่บางเล่มแทบไม่มีการแตะต้องเลย ราวกับว่าใส่ตู้โชว์ไว้เป็นแค่งานศิลปะเท่านั้น
นอกจากนั้น เค้ายังมีตู้หนังสือใหม่ที่ยังไม่เคยอ่าน ไว้เพื่อโอ้อวด ว่าตนเองมีหนังสือมากมายอีกด้วย
คุณปู่ของรินทาโร่ เคยสอนเรื่องหนังสือ กับการใช้ชีวิตให้รินทาโร่ฟัง ว่าถ้าเราไม่ใช่ชีวิตของเราไปด้วย ลำพังแต่การอ่านหนังสือก็จะไม่ได้ก่อเกิดพลังอะไร
ชายชุดขาว พ่ายแพ้ต่อความเข้าใจในการอ่านของรินทาโร่ และยอมรับว่าตนเองก็รักหนังสือเช่นกัน เค้ายินยอมที่จะ ช้าลง และลิ้มรสหนังสือให้มากขึ้น
เหล่าหนังสือในตู้ ถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ และนั่นเป็นการปิดฉากลงของภารกิจแรกในการช่วยเหลือหนังสือของรินทาโร่
เขาวงกตแห่งที่ 2
ด้วยความบังเอิญ "หัวหน้าห้อง ยูซุกิ ซาโยะ" แวะมาเพื่อบอกให้รินทาโร่ ไปโรงเรียนอีกครั้ง และได้พบเข้ากับ รินทาโร่ และโทระ พอดิบพอดี กับช่วงเวลาที่ โทระต้องการให้รินทาโร่เข้าไปช่วยเหลือ หนังสือ ที่เขาวงกตอีกครั้ง
ซาโยะ เห็นโทระ และตัดสินใจ ตาม 2 คู่หู เข้าไปในเขาวงกตด้วย
ทั้งสาม พบกับห้องแล็บขนาดใหญ่ และได้ทราบว่าสถานที่นี้คือ "สถาบันวิจัยการอ่าน" ที่มีนักวิชาการมากมาย กำลังค้นคว้าศึกษา วิธีอ่านหนังสือ รูปแบบต่างๆ ทั้งสามคนตามหานักวิชาการคนนึง ที่กำลังทำร้ายหนังสือ...
พวกเค้ามาถึงห้องค้นคว้าขนาดใหญ่ พบกับเสียงเพลงดังก้องกังวาน เป็นเพลงคลาสสิคที่คุ้นหูอย่าง Symphony no.9 ของบีโธเฟ่น
เสียงเพลงดังกระหึ่มภายในห้อง พร้อมกับภาพนักวิชาการตัวใหญ่ มือนึงถือหนังสือ อีกมือนึงถือกรรไกร กำลังตัดหนังสือออก ฉับๆ กระดาษชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ ปลิวว่อน
จากการสอบถามได้ความว่า เค้ากำลังค้นคว้าวิจัยการอ่านหนังสือ ให้ได้เร็วขึ้น ด้วยการย่อยจากหนังสือทั้งเล่ม ให้เหลือเพียงแค่ประโยคเดียว
เป็นการรวบรัดตัดความเพื่อให้ทุกคนสามารถทำความเข้าใจ หนังสือที่ยากจะเข้าใจ ให้จบได้ด้วยเวลาอันสั้น และมีเวลาที่จะทำอย่างอื่นไปพร้อมๆกัน ไม่เสียเวลาในการอ่านหนังสือทั้งเล่ม
ภาพประกอบในจินตนาการผู้เขียนบทความ
ซาโยะ เห็นด้วย และเริ่มคล้อยตามหลักการคิดของนักวิชาการ เธอเหมือนกำลังถูกสะกดจิต รินทาโร่ เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ไม่ถูกต้องยังไงล่ะ...
ในที่สุดรินทาโร่ตรงดิ่งไปที่เครื่องเสียงที่กำลังบรรเลงเพลง บีโธเฟ่น รอบที่ล้านแปด เค้าเอื้อมมือไป แต่ถูกสกัดไว้ได้โดยนักวิชาการตัวใหญ่ เค้าคำรามห้ามรินทาโร่ปิดเพลง รินทาโร่บอกเค้าไปตามตรงว่า เค้าไม่ได้ต้องการปิดเพลง...
ทันใดนั้น ในขณะที่นักวิชาการไม่ได้ระวัง รินทาโร่ กดกรอเพลงไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 3 เท่าของเพลงปรกติ ทำเอาเพลงคลาสสิคเร่งจังหวะ เสียงแหลมสูง ไม่คุ้นหู
นักวิชาการถึงได้เข้าใจว่า การเร่งอ่านหนังสือให้จบ โดยที่ไม่ได้อ่านเนื้อหาภายในนั้น ก็เหมือนกับการฟังบทเพลงคลาสสิคที่ไม่ถูกหลักนั่นเอง ผู้อ่านจะไม่ได้ดื่มด่ำกับเนื้อหาและอรรถรสที่แท้จริงในการเสพย์ เค้าหยุดตัดหนังสือทั้งหมด กระดาษที่ปลิวว่อนกลับมารวมเป็นแผ่น เป็นเล่มหนังสืออีกครั้ง
เขาวงกตแห่งที่ 3
ซาโยะ เข้ามาร่วมในการผจญภัยครั้งนี้กับ รินทาโร่ และโทระอีกครั้ง
คราวนี้โทระบอกว่าจะเป็นการผจญภัยครั้งสุดท้าย และอันตรายกว่าที่เคย เจ้าเหมียวเดินนำทั้ง คู่ ไปยัง "สำนักพิมพ์อันดับหนึ่งของโลก" เพื่อไปช่วยเหลือหนังสือทั้งหลายอีกครั้ง ทั้งหมดขอเข้าพบท่านประธานบริษัท ที่อยู่บนตึกชั้นบนสุด
สามสหายผ่านด่านรักษาความปลอดภัย ด่านแล้ว ด่านเล่า จนมาถึงทางขึ้นด่านสุดท้าย และจุดรักษาความปลอดภัยนี้ ห้ามนำสัตว์เข้าไป และนั่นรวมไปถึง แมวเหมียวอย่าง "โทระ" ด้วย
โทระกล่าวลา รินทาโร่ และซาโยะ ถึงจะเป็นห่วงทั้งคู่ แต่ก็อุ่นใจที่รินทาโร่ มีซาโยะ และเชื่อมั่นว่าทั้งสองจะผ่านพ้นเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้
ทั้งคู่ขึ้นไปยังชั้นบนสุดของอาคาร และได้พบกับท่านประธานบริษัท ด้านหลังนอกหน้าต่าง เป็นห่าฝนของหนังสือที่ถูกโยนลงจากอาคาร ไปกองรวมกันเป็นเศษขยะอยู่พื้นเบื้องล่างอย่างไม่ใยดี
1
ภาพประกอบในจินตนาการผู้เขียนบทความ
ประธานชี้แจงว่า ไม่มีใครต้องการอ่านหนังสือที่อ่านยาก หนังสืออ่านยากขายไม่ออก ไม่มีใครต้องการหนังสือที่ไม่น่าสนใจ แล้วหนังสืออะไรล่ะที่ขายออก ก็หนังสือขายดีไงล่ะ หนังสือขายดี ความต้องการในตลาดก็ยิ่งมาก สำนักพิมพ์นี้ ผลิตแต่หนังสือที่ตลาดต้องการ
ใครอยากอ่านหนังสือที่ต้องอ่านนานๆล่ะ ทุกคนอยากอ่านหนังสือที่เป็นบทสรุปเข้าใจง่าย สำหรับนักอ่านที่ขาดจินตนาการ สำนักพิมพ์ก็จะใส่คำว่า "เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นจริง" สำหรับคนที่ไม่อยากอ่านหนังสือ อาจจะต้องการอะไรที่รวดเร็วอย่าง "5 ข้อสู่ความสำเร็จ" และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังสือขายดี
นัตซึกิ ต้องปวดหัวกับคำพูดของท่านประธานที่ถึงแม้จะสุดโต่ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ โชคยังเข้าข้างเด็กหนุ่มเพราะเค้ายังมี ซาโยะที่อยู่ข้างๆ และเตือนสติ ให้มองหาความจริงด้านอื่นของเรื่องราวทั้งหมดนี้
นัตซึกิพบความจริงที่ว่า ท่านประธาน ยังอยากให้หนังสือคงอยู่ต่อไป จึงต้องการเปลี่ยนรูปแบบหนังสือ เป็นเรื่องย่อก็ดี ยกคำว่า best seller ขึ้นมาก็ดี และเมื่อยังชอบหนังสืออยู่ ก็ไม่มีทางที่จะผลิตหนังสือที่ตัวเองไม่ชอบขึ้นมา
ห่าฝนหนังสือหยุดลง...
ทั้งสามกลับมายัง ร้านหนังสือนัตซึกิ อย่างปลอดภัย
เจ้าเหมียวจากไป พร้อมกับรอยยิ้ม และคำขอบคุณจากรินทาโร่
ไม่กี่วันถัดมา หลังจากที่จากที่โทระจากไป
คุณป้ามาบ้านรินทาโร่ พร้อมกับจัดแจง เตรียมการ
แจ้งกำหนดเวลา ให้รินทาโร่ เตรียมพร้อมย้ายบ้านในวันรุ่งขึ้น
1
มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับ รินทาโร่ อีกครั้ง หลังจากคุณป้ากลับไป
โทระ ปรากฎ ตัวขึ้นต่อหน้า รินทาโร่ อีกครั้ง
เขาวงกตแห่งที่ 4
โทระ บอกข่าวว่า ตัวเองไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้กลับมาเจอรินทาโร่เร็วขนาดนี้ แต่มีเรื่องที่รอไม่ได้เกิดขึ้น และรินทาโร่ ต้องไปทำภารกิจอีกครั้ง
คราวนี้รินทาโร่ตกลงอย่างกระฉับกระเฉง และบอกโทระให้รีบไป ก่อนที่ ซาโยะ จะแวะมาหาที่ร้านหนังสือนัตซึกิ วันนี้ เค้าไม่อยากให้ ซาโยะ ต้องไปเสี่ยงกับเค้าอีกแล้ว...
แต่เรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เพราะโทระบอกว่า
คราวนี้ สิ่งที่ต้องไปช่วยไม่ใช่หนังสือ แต่เป็น ซาโยะ ต่างหาก
ซาโยะถูกจับตัวไป...
โทระ บอกว่าภารกิจครั้งนี้ยากลำบากกว่าครั้งไหนๆ และมันไม่สามารถไปเป็นเพื่อนของรินทาโร่ ได้จนสุดทาง รินทาโร่ต้องไปต่อเองคนเดียว
ภาพประกอบในจินตนาการผู้เขียนบทความ
ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า อยากอ่านเรื่องราวทั้งหมดต่อ แนะนำว่าให้ไปหาเล่มเต็มๆอ่าน ก่อนสปอยล์ถัดไป เพราะในหนังสือมีรายละเอียดที่เห็นภาพ และได้อรรถรสมากกว่าเรื่องย่อแน่นอน
แต่ถ้าใครอยากบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดก็อ่านช่วงถัดไปได้เลย
ต้องบอกไว้ก่อนว่า เตือนแล้วนะ
(ด้วยน้ำเสียงหม่อมป้อม)
เค้าพบว่า สถานที่คราวนี้ไม่ใช่ที่ไหน
เป็นสถานที่ ที่คุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคย
"ร้านหนังสือนัตซึกิ" ร้านหนังสือร้านเดิมที่เค้าอยู่กับคุณปู่มาตั้งแต่เด็ก
ผิดเสียแต่ว่า ชั้นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือนั้นว่างเปล่า
หญิงชรา ที่หน้าไม่คุ้นเคยนั่งอยู่กลางร้าน
พร้อมฉายภาพ ผู้คนที่นัตซึกิ เคยไปช่วยหนังสือมาจากดินแดนเขาวงกตทั้ง 3
ชายชุดขาว ที่บัดนี้แต่งตัวสบายๆ นั่งจิบชาอ่านหนังสืออย่างช้า ซ้ำไปซ้ำมา หญิงชราเล่าว่า จากชายที่เคยเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะที่สุดในโลก บัดนี้มีคนแซงหน้า เค้าสูญเสียทั้งตำแหน่งนักอ่านชั้นยอด และหน้าที่การงานที่มาจากการอ่านหนังสือมากมาย จากการช่วยเหลือเหล่าหนังสือของรินทาโร่
ภาพถัดมาเป็นภาพของนักวิชาการตัวใหญ่ ที่อ่านหนังสืออย่างสงบอยู่ที่่มุมห้อง งานวิจัยของเค้าจบลง การศึกษาที่จะย่อยหนังสือให้ง่ายที่สุดนั้นจบลงแล้ว เค้านั่งอ่านหนังสือเงียบๆอยู่มุมห้องอย่างช้าๆ ทุกคนในสถาบันวิจัยหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงเค้าแต่เพียงผู้เดียว
สถานที่สุดท้าย ไม่ต้องเดาให้ยาก สำนักพิมพ์อันดับหนึ่ง เกิดการประท้วงขึ้นจากบันดาพนักงานของบริษัท เนื่องจากประธานพิมพ์หนังสือที่ขายไม่ออก ออกมามากมาย และนั่นทำให้รายได้ของบริษัทลดลง
หญิงชราทำให้รินทาโร่ เห็นผลกระทบที่ตามมาของการปลดปล่อยหนังสือของเค้า
หญิงชราที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ และไม่ได้มีคำถามอะไร ทำให้รินทาโร่ ถึงกับไปไม่เป็น และถูกไล่ให้กลับโลกแห่งความเป็นจริง
แต่ความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือซาโยะ นั้นเป็นของจริง รินทาโร่ขอโอกาสอีกครั้ง เพื่อบอกกับหญิงชราว่า พลังของหนังสือคืออะไรกันแน่
ภาพของ ชายชุดขาว นักวิชาการ และท่านประธานบริษัท โผล่ขึ้นมากลางห้องอีกครั้ง พร้อมกับถ้อยคำให้กำลังใจ รินทาโร่ ชายชุดขาวบอกว่า เค้าได้เห็นอะไรที่มากกว่าในหนังสือ หลังจากที่เค้าลองอ่านหนังสืออีกครั้ง เค้าพบว่า ชาที่ภรรยาของเค้าชงให้นั้นอร่อยมากเหลือเกิน
ส่วนนักวิชาการ ก็เชียร์ให้รินทาโร่เอาชนะหญิงชรา และบอกว่าเค้าไม่เสียใจเลยกับงานวิจัยที่ไม่สำเร็จ สิ่งที่เค้าได้อ่านอยู่มันทำให้เค้าเพลิดเพลิน และตระหนักได้ว่าเราไม่ควรพลาดรายละเอียดของหนังสือไป
ส่วนท่านประธาน เรียกรวมพนักงาน และแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ถ้าพวกเค้ารักหนังสือ และมีอุดมการณ์เดียวกับท่านประธาน พวกเค้าจะเข้าใจ และสามารถผลิตหนังสือที่มีคุณค่า และเป็นที่ต้องการของผู้อ่านได้อีกครั้ง
รินทาโร่ พร้อมพลังใจเต็มเปี่ยม กล่าวกับหญิงชราว่า เค้าไม่แน่ใจนักหรอก แต่คิดว่าสิ่งที่เป็นพลังให้กับหนังสือคือ "ความห่วงใยต่อผู้อื่น"
หนังสือเล่านี้บรรจุ ความคิด ความเข้าใจ ความสุข ความเศร้า ของผู้เขียน และมันทำให้เราคล้อยตาม และทำให้เรารับรู้ได้ผ่านหนังสือ
คำพูดของรินทาโร่ ทำให้หญิงชรา มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
และยอมแพ้ให้กับความมุ่งมั่นของรินทาโร่ในครั้งนี้
เธอบอกให้รินทาโร่โล่งใจเรื่อง ซาโยะ เด็กสาวจะกลับไปยังโลกปัจจุบันแน่นอน
ซาโยะ มาเยี่ยมรินทาโร่ที่ร้านเหมือนเคย
เธอบ่นอุบเรื่องหนังสือเล่มใหม่ที่รินทาโร่แนะนำ ว่ามันอ่านยากซะเหลือเกิน
วันนี้เป็นวันที่รินทาโร่ต้องย้ายบ้านแล้ว...
เค้าตัดสินใจโทรหาคุณป้า ว่าจะขอใช้ชีวิตอยู่ที่ร้านหนังสือนัตซึกิด้วยตัวคนเดียว
การตัดสินใจอย่างมุทะลุ แต่เด็ดขาดในครั้งนี้ ได้รับการยอมรับจากคุณป้า
แต่มีข้อแม้เล็กน้อยว่า หนึ่ง รินทาโร่ ต้องไปโรงเรียน
และต้องโทรมารายงานป้า อาทิตละ 3 วัน (ซึ่งเด็กหนุ่มก็ต้องรับปากแต่โดยดี)
ซาโยะแวะมาเยี่ยมอีกครั้งในตอนเย็น พร้อมกับชวนรินทาโร่ไปกินข้าว
เธอบอกว่า เป็นเพราะรินทาโร่ ไม่ชวนซักที แต่เธอก็จะอดทนแล้วกัน
หลังจากซาโยะจากไปไป
รินทาโร่ก็ได้ยินเสียงแว่วทุ้มที่คุ้นเคยว่า
"รักษาความสัมพันธ์เอาไว้ให้ดีล่ะ รุ่นที่สอง"
จบ./
/// ควาคิดเห็นเพิ่มเติม :
สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะทุกคน ช่วงสงกรานต์นี้ได้แวะไปซีเอ็ดและเจอหนังสือเล่มนี้ ก็หยิบติดมือ มาทันทีเลย ต้องยอมรับว่าโดนตกตั้งแต่ปกหนังสือ ชื่อหนังสือ คำโปรย ก็คือ ไม่หยิบมาก็คือไม่ได้แล้ว
ต้องบอกว่าจริงๆในเล่มจะมีเนื้อหาที่สละสลวย ลุ้นระทึก และน่าติดตาม ของนายรินทาโร่ กับเจ้าเหมียวโทระ อีกมากมาก ส่วนด้านเนื้อหาของการเคลียร์เขาวงกตในแต่ละด่าน มีอะไรที่ลึกซึ้งกว่าที่ย่อออกมาเยอะมากค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย งานร้อนมากค่ะ อ่านจบละรีบมาเขียนเลย เพราะกลัวจำรายละเอียดไม่ได้ ต้องขอบคุณผู้แปลด้วยจริงๆที่เขียนให้เข้าใจได้ง่ายขนาดนี้ รอบนี้ทำปก พร้อมวาดรูปประกอบไปด้วย เนื่องจากในเล่มไม่มีภาพ และอยากให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น (หรือเข้าใจยากขึ้นกันแน่ 555)
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากเชื้อโควิดค่ะ
อ่านบทความนี้แล้ว ขอให้อยากหาหนังสือมาอ่านค่ะ :)
Qwa (Before you go)
15.04.2021
โฆษณา