16 เม.ย. 2021 เวลา 13:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
5 เหรียญ Cryptocurrencies ที่น่าสนใจไม่แพ้ Bitcoin
หลังจากที่ Bitcoin มูลค่าราคาขึ้นแตะหลัก 2,000,000 บาท หรือ 64,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้วงการ Cryptocurrencies ลับมาคึกคักอีกครั้ง และปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาของ Bitcoin มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้
แต่ทั้งนี้ ยังมี Cryptocurrencies อีกหลายตัวที่มีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าเติบโตไม่แพ้ทาง Bitcoin เลย ผมจึงจะขอแนะนำ
5 เหรียญ Cryptocurrencies ที่มีแนวโน้มจะราคาพุ่งพรวดเหมือนจะรวดไปอวกาศเลยครับ 555 ไม่ให้เรามาเริ่มกันเลยครับ
1) Ethereum ( ETH )
Ethereum (ETH) เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล (Cypto currency) ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ทำงานอยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ สกุลเงิน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Vitalik Buterin เด็กหนุ่มอัจฉริยะชาวรัสเซีย ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่ในทีมพัฒนาของ Bitcoin ก่อนจะแยกตัวออกมาสร้าง Ethereum ในปี 2556
โดยทีมพัฒนาต้องการให้ Ethereum สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับ Bitcoin แต่ปรับปรุงข้อบกพร้องต่าง ๆ และเพิ่มความสามารถของเหรียญให้หลากหลายขึ้น ทำอะไรได้มากกว่า Bitcoin ซึ่งก็ทำได้จริง ๆ เพราะปัจจุบัน Ethereum เป็นสกุลเงินที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจประเภทต่าง ๆ ไม่จำกัดแค่การใช้ในธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น
2) Cardano ( ADA )
Cardano คือ แพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแทรคท์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2015 เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนา Cryptocurrency ให้มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม
ทางผู้พัฒนากล่าวว่า Cardano เป็นบล็อกเชนเจเนอเรชันที่ 3 ที่ระบุและแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นในบล็อกเชนยุคก่อนๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ความสามารถในการเพิ่มขยาย (Scalability), ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) และ ความยั่งยืน (Sustainability) ผ่านสถาปัตยกรรมแบบเป็นลำดับชั้น (layered architecture)
โดยปกติแล้ว White paper ทั่วไปจะประกอบไปด้วยโค้ด (Code) เป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างจากของ Cardano ตรงที่มันจะประกอบไปด้วย แนวคิดของหลักการดีไซน์, การดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็น Cryptocurrency ตัวแรกๆเลยที่สร้างขึ้นมาจากแนวคิดปรัชญาที่อิงหลักการทางวิทยาศาสตร์และประกอบไปด้วยงานวิจัยทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เอง ทีมงานผู้พัฒนา Cardano จึงมั่นใจได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวิจัยหรือวิศวกรรมจะได้อ่าน ทบทวน และมีความเห็นที่ตรงกันต่อผลลัพธ์ที่สามารถเป็นไปได้
3) Uniswap ( UNI )
Uniswap คือแพลตฟอร์มสำหรับแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลที่ใช้มาตรฐาน ERC20 เช่น Ethereum (ETH), Basic Attention Token (BAT), หรือ OmiseGO (OMG) โดย Uniswap ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และใช้ Smart Contract การแลกเปลี่ยนเหรียญจึงเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง โดยมีค่าธรรมเนียมเป็นเหรียญ ETH ประมาณ 0.3% ของมูลค่าการแลกเปลี่ยน
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถจ่ายเหรียญให้กับแพลตฟอร์ม Uniswap เพื่อช่วยเรื่องสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์ม ซึ่งผู้ใช้ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นเป็นค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยนเหรียญนั่นเอง
Uniswap ถูกสร้างขึ้นในปี 2018 โดยนาย Hayden Adams ที่ได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนเหรียญมาจากนาย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum อีกทีหนึ่ง
4 ) DOGE COIN ( DOGE )
Dogecoin ถูกสร้างโดยโปรเเกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Billy Marcus โดยในตอนนั้น Bitcoin ถูกนำไปใช้ในตลาดมืดอย่าง Silkroad ทำให้มันมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี Billy จึงอยากสร้าง Cryptocurrency ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ Dogecoin จึงถือกำเนิดขึ้นโดย Fork Litecoin ออกมาและนำรูปหมาชิบะอินุมาเป็นโลโก้
Dogecoin นั้นมีแนวคิดแตกต่างจาก Bitcoin โดยสิ้นเชิงเนื่องจากผู้สร้างต้องการให้มันมีความตรงข้ามกัน Bitcoin เหรียญ Dogecoin นั้นจะเป็นเหรียญที่ไม่มีจำนวนจำกัดต่างจาก Bitcoin และมีการผลิตที่ไม่ลดลงไม่มีการ Halving เหมือน Bitcoin ในวันที่ 8 มกราคม 2013 ทีมพัฒนาของ Dogecoin ได้สร้างเหรียญ Dogecoin ถึง 50000 ล้านเหรียญขึ้นมาในทันที แตกต่างจาก Bitcoin ที่จะได้มาโดยการขุด
5 ) RIPPLE ( XRP )
หากพูดถึงคำว่า Ripple มีความหมายตามการนำไปใช้อยู่ 2 ความหมาย ได้แก่ การใช้เป็นชื่อเรียกของ Digital Currency มีอักษรย่อคือ XRP อีกทั้งยังเป็น Open Payment Network หรือ Platform สำหรับรับและส่งเงินในรูปแบบของ Digital Asset ต่าง ๆ ด้วยการนำแนวคิดของ Blockchain มาปรับใช้ โดยมุ่งเป้าไปที่การรับส่งเงินหรือทรัพย์สินอิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มธุรกิจการเงิน พร้อมผลักดันให้เกิดการรับ-ส่งเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ เพื่อเป็นช่องทางที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป้าหมายของ Ripple คือการสร้างรูปแบบในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อลดต้นทุน ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายส่วนอื่น พร้อมทั้งช่วยให้การโอนเงินข้ามประเทศที่เคยยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่าย ถือเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้แก่แวดวงการค้าระหว่างประเทศ และเป็นสัญญาณแห่งการก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยีในทุกมิติ
โฆษณา