17 เม.ย. 2021 เวลา 08:33 • ท่องเที่ยว
Musée du Louvre ( มูเซ่ ดู ลูฟวร์ ) พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แหล่งสะสมงานศิลปะของโลก
ผลงานทางศิลปะที่สำคัญมากกว่า 35,000 ชิ้น ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก โดยถูกสร้างขึ้น ตั้งแต่ ค.ศ. 1793 และสถานที่แห่งนี้ก็คือ พิพิธภัณฑ์ ลูฟวร์ นั่นเอง
สถานที่นี้ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวฝรั่งเศส ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ให้มารวมตัวกันใน Rue de Rivoli, Paris ( คู เดอ คิโวลี, ปาคี ) ถนนคิโวลี ในปารีส ที่ตั้งของลูฟวร์นี้เอง
รูปด้านบนนี้ เป็นภาพส่วนหนึ่งจากทางด้านหน้า ก่อนจะฝ่าฝูงชนเข้าไปชมงานศิลปะ แสดงให้เห็นถึงความใหญ่โตของสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งมองไปเห็นท้องฟ้าสีน้ำเงินจางๆ อยู่กับพีรามิดใสในอาณาเขตของพระราชวังหลวงเก่า สมัยราชวงศ์กาเปเซียง แล้ว ยิ่งทำให้ลูฟวร์ดูเลอค่ามากยิ่งขึ้น
ถึงเวลาเข้าชมภายในแล้ว ก็เข้ามาในพีรามิดใส ด้วยวิธีการจองตั๋วล่วงหน้าเช่นเดิม ไม่ต้องรอคิวนาน เดินลงมาจะเห็นล็อบบี้แจกโบร์ชัวร์หลากหลายภาษา แต่ที่แน่ๆไม่มีภาษาไทย ถ้าไม่มีโบว์ชัวร์คงหลงแน่ๆ ไม่ใช่หลงไหลความหรูหราหมาเห่าหรอก แต่จะหลงทางเอาน่ะสิ
เคยถามตัวเองอยู่เหมือนกัน ทำไมถึงอยากมาลูฟวร์ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เข้าใจงานศิลปะมากมายนัก หรืออาจจะเป็นเพียงเพราะว่า เราอยากมาหาผู้หญิงคนหนึ่ง!!!
และคำตอบคือ " ใช่ " เธอคือ โมนาลิซา ( La Joconde )
( ลา ฌอกง ) คือชื่อฝรั่งเศสของเธอ
และไม่ได้มีเพียงผู้เขียนที่อยากเห็นรอยยิ้มปริศนานี้เท่านั้น แต่ยังมีผู้คนมากมาย หลากหลายภาษา ที่มาต่อคิวกันนับร้อยเพื่อจะมองเธอให้ใกล้ที่สุด และผู้เขียนก็ได้เห็นเธอใกล้ที่สุดแล้ว ผ่านตู้กระจกปรับอากาศกันกระสุนนี้ เรามาดูกันให้ชัดกว่านี้อีกหน่อยนะคะ
ถ้าไม่ได้อ่านโบว์ชัวร์ จะไม่รู้เลยว่ารูปนี้ยังวาดไม่เสร็จ เราจะสังเกตได้จากช่วงด้านหลังขวามือของเธอ แม้จะใช้เวลาวาดถึง4 ปีก็ตาม
( 1503 - 1507 ) โดยจิตรกรหัวกะทิสมัยเรเนสซองส์ ( Léonard de Vinci ) เลโอนาร์ เดอ แว็งซี หรือชื่อภาษาอังกฤษ เลโอนาร์โด ดา วินชี ที่พวกเราคุ้นเคย
รูปของเธอมีความสูงเพียง 77 ซม. และ กว้างเพียง 53 ซม. เท่านั้น ไม่ใหญ่เลยเมื่อเทียบกับชื่อเสียงของเธอ ที่ทำให้ใครหลายๆคนต้องบินข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาหา และนักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อของที่ระลึกเกี่ยวโมนาลิซ่าได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด เกมส์ สมุด และอื่นๆอีกมากมาย หากยังไม่หายคิดถึงเธอ
เรามาดูศิลปะอื่นๆกันบ้าง ผู้เขียนถ่ายรูปไว้เยอะ แต่ด้วยความที่นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ บางรูปก็ไม่ชัด บางรูปก็ติดหน้าคนชัดเกินไป เลยขอเอามาให้เพื่อนๆดู พอเป็นน้ำจิ้ม
เรามาเริ่มกันที่ศิลปะของฝรั่งเศสกันดีกว่า
รูปภาพผู้หญิงซาบีนกำลังหยุดสงครามระหว่างชาวโรมันและชาวซาบีน ผลงานของ David ( Jacques Louis ) ฌัก หลุยส์ ดาวีด ศิลปินชาวฝรั่งเศสยุคนีโอคลาสสิก รูปนี้ใหญ่พอสมควร รอคิวนานพอดูกว่าจะถ่ายได้
นี่ก็ส่วนหนึ่งของเพดานในพิพิธฑภัณฑ์ สวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย
มองภาพนี้ทีไร คิดถึงทับหลังของประเทศไทยทุกที
แค่ห้องรับประทานอาหารก็กินขาดละ
ชอบความแชนเดอเลียร์ แน่นอน ความหรูหราของประเทศนี้
และสิ่งที่ชอบที่สุด ก็หนีไม่พ้น นำ้หอม และ เครื่องประดับ
รูปภาพบุคคลมีชื่อเสียงสมัยก่อน ถูกบรรจุไว้อย่างดี
แม้แต่โรงศพก็ยังถูกตกแต่งเป็นอย่างดี
ภาพเหล่านี้ถูกจัดแสดงอยู่ในหมวด Richelieu ( คิเชอลีเยอ )
งานศิลปะของฝรั่งเศสนั่นเอง
ต่อมา ขอพูดถึงงานศิลปะอียิปต์บ้าง
หลายๆคนคงจะพอนึกออกว่า เราอาจจะได้เจอรูปปั้นสฟิงซ์ เครื่องประดับสมัยอียิปต์อันเลอค่า โรงศพโบราณ และอื่นๆอีกมากมาย ใช่เลย!! เราจะมาดูรูปกัน
สฟิงซ์สภาพแทบจะสมบูรณ์นี้ ขนาดใหญ่พอสมควร
มองเครื่องประดับสวยทะลุกระจก
แม้กระทั่งโรงศพ ก็ยังสวยงามปราณีต
บทความนี้ค่อนข้างยาวเสียหน่อย และแน่นอนว่า ผู้เขียนเดินวนไปวนมามากกว่า 4 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถจะชมความงามได้หมด เพราะใหญ่มากจริงๆ ไม่มีแรงแม้แต่จะเข้าไปร้านของที่ระลึกอันโอ่อ่าก่อนประตูทางออก
และแล้วเราก็ออกมาจนได้ และเห็นความงามอีกด้านหนึ่งของลูฟวร์
ด้านหน้ารูปภาพนี้ จะมีแท่งปูนให้ขึ้นไปถ่ายรูป กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ ก็เรียกว่าหอบเลยทีเดียว ในอุณภูมิ 5-6 องศาขณะนั้น
ไหนจะต้องผ่านพ่อค้าผิวดำ ที่ส่วนตัวแล้ว คิดว่าหน้าตาไม่เป็นมิตรนัก ก็ให้ระวังกระเป๋าไว้เหมือนเดิม เพราะคนเยอะ อันตรายก็แยะ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่ติดตามเรื่องราวต่างๆของผู้เขียน แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า จะพาไปที่ไหน ติดตามกันได้เลยค่ะ
โฆษณา