วิเคราะห์ !! ว่าทำไมสองประเทศที่ฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมากแล้ว จึงมีผลแตกต่างกัน อิสราเอลถึงขั้นประกาศให้ประชาชนเลิกใส่หน้ากากอนามัยได้ในบางสถานการณ์ ในขณะที่ชิลีกลับต้องมาประกาศล็อกดาวน์ใหม่อีกรอบ
มีรายงานข่าวความคืบหน้าของประเทศชั้นนำ ที่ประสบความสำเร็จในการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก
ซึ่งพบว่า อิสราเอลเป็นอันดับที่หนึ่งของโลก สามารถฉีดวัคซีนคิดเป็นร้อยละต่อประชากรได้สูงที่สุด
และยังมีประเทศที่ฉีดได้ในอันดับต้นต้นอีก เช่นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และชิลีประเทศในทวีปอเมริกาใต้ก็เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำดังกล่าว
แต่ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ของอิสราเอลพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล และจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
คอนเสิร์ตในอิสร
ทำให้ทางการอิสราเอล สามารถประกาศผ่อนคลายให้คนอิสราเอลสามารถออกมาทานอาหารนอกบ้าน มาพักผ่อนในบาร์ ชมคอนเสิร์ต และมีการเปิดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยได้ใหม่
รวมทั้งให้ใส่หน้ากากอนามัย เฉพาะในบริเวณที่การระบายอากาศไม่ดี ส่วนอยู่ในที่กลางแจ้งภายนอกไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย
แตกต่างอย่างมากกับประเทศชิลี ซึ่งก็ฉีดวัคซีนได้ในจำนวนที่มากพอสมควร แม้จะน้อยกว่าอิสราเอลก็ตาม
แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ชิลีมีจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น จนทางการชิลีต้องกลับมาประกาศล็อกดาวน์อีกครั้ง
เราจะมาวิเคราะห์เปรียบเทียบ หาเหตุผล ว่าทำไมทั้งสองประเทศจึงแตกต่างกัน
ประการแรก ตามข่าวที่บอกว่าทั้งสองประเทศมีจำนวนร้อยละของผู้ได้รับวัคซีนค่อนข้างสูงด้วยกันทั้งคู่นั้น เมื่อวิเคราะห์ตัวเลขดูแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เพราะอิสราเอลซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรเพียง 9 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งไปแล้วถึง 61% ของประชากร และครบสองเข็ม 56.5%
ในขณะที่ชิลี ซึ่งมีประชากร 19,000,000 คน ฉีดเข็มหนึ่งไปแล้ว 36.31% และฉีดครบสองเข็มไปเพียง 20.12% มีความแตกต่างกันประมาณครึ่งหนึ่ง
2) ชิลีเป็นหนึ่งในประเทศของทวีปอเมริกาใต้ที่มีไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์บราซิล ติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก และมีการดื้อต่อวัคซีนสูงกว่าไวรัสสายพันธุ์ปกติที่พบในประเทศอิสราเอล
3) อิสราเอลใช้มาตรการผ่อนสั้นผ่อนยาวมาโดยตลอด ทำให้ประชาชนไม่เครียดต่อมาตรการดังกล่าว
ในขณะที่ชิลีมีมาตรการที่เข้มข้นต่อเนื่องกันหลายเดือน ประชาชนจึงเริ่มเบื่อหน่าย และวินัยตกลง
4) ทางการชิลี ประกาศดีใจและผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป ให้คนเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วประเทศในช่วงฤดูร้อน นับเป็นการส่งสัญญาณที่ผิด เพราะยังฉีดวัคซีนได้ไม่ถึงภูมิคุ้มกันหมู่
5) วัคซีนที่ใช้ของทั้งสองประเทศแตกต่างกัน ของอิสราเอลฉีดของ Pfizer และ Moderna เป็นหลัก
ส่วนของชิลีฉีดของ Pfizer เป็นส่วนน้อย Sinovac เป็นส่วนใหญ่
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ทั้งสองประเทศมีลักษณะของการติดเชื้อ การเจ็บป่วย การเสียชีวิตที่แตกต่างกัน
แต่ในขณะเดียวกัน บางประเทศที่เพิ่งเริ่มฉีดวัคซีนแต่อัตราการติดเชื้อและการเจ็บป่วยก็น้อยมาก เช่นประเทศนิวซีแลนด์ ทั้งนี้เกิดจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดกวดขันปิดประเทศโดยรวดเร็วและต่อเนื่อง
ประกอบกับเป็นประเทศที่เป็นเกาะ จึงคุมเหตุการณ์ได้ดี โดยที่วัคซีนยังไม่ได้เข้ามามีผลแต่อย่างใด
จึงเป็นข้อมูลที่ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า วัคซีนไม่ใช่คำตอบเดียวหรือคำตอบทั้งหมดว่า เมื่อฉีดแล้วจะทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
คงจะต้องมีวินัยในการใส่หน้ากากอนามัย ในการเว้นระยะห่างทางสังคม การไม่เข้าไปอยู่ในที่แออัดยัดเยียดการระบายอากาศไม่ดี
มิฉะนั้นก็จะเกิดตัวอย่างเช่นเดียวกับประเทศชิลี
Reference
- 87
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
