ถึงแม้สภาพห้องน้ำจะดูย่ำแย่นักแต่ก็ยังถือว่าใช้การได้ แม้จะไม่สะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนปั้ม ปตท.ที่ได้มาตรฐานทั่วไป และแม้จะมีกลิ่นอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่ถึงกับเหม็นมากนัก ด้านหลังที่ผมและพี่ๆทั้งสองคนทำธุระส่วนตัวอยู่นั้นเป็นสวนยางพาราหนาทึบสูงชะรูด บริเวณพื้นดินมีหญ้าขึ้นรกเหมือนถูกทิ้งร้างมานาน ถ้าไม่เห็นต้นยางที่ถูกปลูกเรียงเป็นแถวแล้วสภาพมันก็คือป่าทึบดีๆนั่นเอง ดูจากสภาพแล้วเหมือนจะไม่มีใครมากรีดเอาน้ำยางจากต้นมานาน กะลาที่เคยใช้รองน้ำยางที่ผูกติดกับต้นหลายใบหลุดร่วงหายไป มีบางส่วนที่ยังติดห้อยต่องแต่งอยู่แต่ก็คงใช้การอะไรไม่ได้ หลังห้องน้ำกับสวนยางอยู่ติดกันโดยที่ไม่มีรั้วกัน ห่างกันเพียงสองสามก้าวเท่านั้นเอง...
ขณะที่พวกเรากำลังทำธุระกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีลมพัดมาจากในสวนยางวูบหนึ่ง เสียงใบของต้นยางที่ถูกลมพัดดังซู่ขึ้นมาทันทีท่ามกลางความเงียบ...!!!
พร้อมกับกลิ่นสาบสางปนอับทึบที่โชยมาปะทะกับโสตนาสิก...!!!
มันเป็นกลิ่นของอะไรผมก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน ไม่มีใครพูดอะไร พวกเรารีบทำธุระให้เสร็จและเดินออกมาที่หน้าห้องน้ำทันที ซึ่งก็สวนกับพี่เอที่เดินเข้าไปปัสสาวะด้านหลังเช่นกัน สองสาวยังทำธุระไม่เสร็จ และยังได้ยินสียงสนทนาในห้องน้ำหญิงแว่วดังมาให้เราได้ยินเป็นระยะ
“เห็นแล้วนึกถึงห้องน้ำในหนังที่ไอ้เปิ้ลกับไอ้หอยเล่นเลย”
พี่หยก ผจก.ทั่วไปฝ่ายการตลาด เอ่ยขึ้นเหมือนจะชวนคุยเพื่อรอคนขับรถและสองสาวทำธุระให้เสร็จ
เรายืนคุยกันอยู่ที่ข้างรถ เพราะว่ารถถูกล็อคประตูไว้ทำให้ยังขึ้นรถไม่ได้ ซึ่งมีพี่แชมป์ยืนมองสำรวจสถานที่อยู่ใกล้ๆ
“เอ หนังเรื่องอะไรนะ ที่ไอ้เปิ้ลกับไอ้หอยเล่นน่ะ สภาพห้องน้ำแบบนี้เลย” พี่หยกพยามทบทวนความจำ
“โกยเถอะเกย์ พี่” ผมเพิ่งนึกออก
“เออ ใช่ๆ ที่มันไปเข้าห้องน้ำกัน สภาพแบบนี้แหละ” พี่หยกสำทับมาอีกครั้ง
พี่หยกพูดไม่ทันขาดคำ พี่ดากับน้องเกียร์ ผู้หญิงเพียงสองคนของทีมงานก็เดินออกมาจากห้องน้ำ โดยมีน้องเกียร์เดินจ้ำนำมาข้างหน้าเนื่องจากเป็นคนที่ขี้กลัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ยิ่งทำให้คิดไปได้ต่างๆนาๆ
พร้อมกัน พี่เอ สารถีแห่งเมืองโอ่ง ก็เดินออกมาจากด้านหลังของห้องน้ำผู้ชายเช่นกัน สรุปว่าทุกคนทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตำแหน่งที่ผมยืนคุยกับพี่หยกนั้น อยู่ตรงหน้าห้องน้ำผู้ชายพอดี ห่างกันประมาณ 5 เมตรเห็นจะได้
ผมมองไปที่พี่เอที่กำลังเดินมาที่รถ พร้อมกับมือที่กำลังล้วงกุญแจรถเพื่อกดรีโมทเปิดประตู
แต่...ทันใดนั้น...!!!!
สิ่งที่ผมเห็นด้านหลังพี่เอ ในห้องน้ำชายที่ประตูเปิดกว้างอยู่ มันทำให้ผมเย็นวาบไปทั้งตัวตั้งแต่หัวยันปลายเท้า
อณูขนทุกเส้นในร่างกายตั้งชูชันไปหมด ผมยืนนิ่ง เหงื่อเริ่มซึมออกมา ทั้งๆที่ผมรู้สึกหนาวสั่นเหมือนจะเป็นไข้ .....
สิ่งที่ผมเห็นคือ ผู้หญิงในชุดสีขาวเปื้อนโคลนขมุกขมอม ผมหยักศกยาวสีดำสนิทห้อยลงมาปิดใบหน้าด้านข้างทั้งหมด นั่งอยู่บนขอบของอ่างน้ำหันด้านข้างมาทางประตูห้องน้ำ หัวตั้งตรงหันหน้าไปที่ผนังด้านซ้ายของห้องน้ำ มือสีขาวซีดห้อยอยู่ที่ข้างลำตัว เท้าทั้งสองข้างตั้งชันกับพื้นห้องน้ำ ทั้งตัวของเธอเปียกโชก ผมเห็นแม้กระทั่งน้ำที่หยดลงมาจากปลายเส้นผมของร่างนั้น ภาพที่เห็นทำให้ผมยืนนิ่งเป็นเหมือนถูกสาปให้เป็นหิน เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่ผมรู้สึกว่าเหมือนผมจะถูกตรึงให้อยู่ในสภาพนั้นนานนับปี ในใจเต้นระทึกและอยากจะร้องตะโกนออกมาดังๆ แต่ในลำคอแห้งผาก ปากเหมือนถูกยึดไว้ด้วยกาวตราช้าง ไม่สามารถจะเปล่งอะไรออกมาได้แม้แต่เสียงอุทาน...!!
ร่างนั้นค่อยๆขยับ...!!! และเริ่มหันหน้ามาทางผมช้าๆ.....ช้าๆ...
ผมไม่อยากเห็นภาพนั้น แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะหลับตา...!!!
ก่อนที่ผมจะทันเห็นใบหน้าของร่างนั้นอย่างชัดเจน
ทันที สติของผมก็กลับคืนมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพี่แชมป์เรียกให้ขึ้นรถ ผมหันหลังกลับรีบก้าวขึ้นรถในทันที
มือซ้ายที่สั่นระริกรีบเอื้อมไปปิดประตูรถ ขนที่แขนยังลุกตั้งอยู่ไม่หาย มือขวาที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อและสั่นไม่แพ้มือซ้ายกุมพระห้อยคอที่แกะจากไม้พญางิ้วดำไว้แน่น.....“คิดว่าจะไม่กลับ มัวทำอะไรอยู่”
พี่แชมป์ที่นั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสารข้างหลังผมถามมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก
ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพราะในใจตอนนี้มันสับสนกระเจิดกระเจิงไปหมด แต่