Mode of transport มีอะไรบ้างนร้า
จากที่เกริ่นไปแล้วใบบทความ เรื่อง การลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้าและส่งออก
วันนี้ ภานิ เลยจะมาแชร์ 3 Mode of transport นั่นก็คือ!!!
1. การขนส่งทางเรือ
2. การขนส่งทางอากาศ
3. การขนส่งทางรถยนต์
แต่เดี๋ยวก่อน รูปแบบการขนส่งไม่ได้มีแค่นี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ต้องไปศึกษาเพิ่มกันเอาเองนร้า
1. การขนส่งทางเรือ
การขนส่งทางน้ำ หรือที่เรียกกันทั่วไปคือ การขนส่งทางเรือ เป็นการใช้เส้นทางทางทะเลในการลำเลียงสินค้า เหมาะแก่การขนส่งระยะไกล นิยมใช้สำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเหมาะกับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ ขนส่งในปริมาณมาก และเป็นสินค้าที่ยากต่อการเสียหาย โดยการขนส่งทางเรือจะมีต้นทุนในการขนส่งต่ำกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น จึงเป็นโหมดการขนส่งที่ได้รับความนิยมในการขนส่งระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมีข้อดีก็ย่อมที่จะต้องมีข้อเสีย นั่นก็คือ ไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนในการขนส่งได้ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศ และ ภูมิประเทศเท่านั้น
สรุปข้อดี
1. อัตราค่าขนส่งถูกกว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งทางอื่น
2. ขนส่งสินค้าได้ขนาดใหญ่และปริมาณที่มาก
3. สามารถส่งได้ระยะไกล ๆ
สรุปข้อเสีย
1. เหมาะกับสินค้าที่ยากต่อการเสียหายเท่านั้น
2. อาจมีความล่าช้าในการขนส่งตามสภาพอากาศ
3. ในฤดูน้ำลดหรือฤดูร้อน น้ำอาจมีน้อย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขนส่ง เพราะเรือเกยตื้นได้
4. ไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนในการขนส่งได้ขึ้นอยู่กับภูมิอากาศ และ ภูมิประเทศ
5. มีความเสี่ยงต่อความเสียหายของสินค้า เนื่องจากสภาพอากาศที่อาจเกิดพายุขึ้นได้
2. การขนส่งทางอากาศ
การขนส่งทางอากาศมีความสำคัญมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะการขนส่งระหว่างประเทศเพราะทำการขนส่งได้รวดเร็วกว่าการขนส่งประเภทอื่นๆ ไม่เสียเวลาในการขนส่งนาน สะดวก เหมาะกับการขนส่งสินค้าประเภทที่สูญเสียง่ายหรือการขนส่งที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่เหมาะกับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมากและสินค้าราคาถูก ที่ไม่รีบร้อนในการขนส่ง แต่การขนส่งทางอากาศนับได้ว่ามีต้นทุนการขนที่สูงกว่าในการขนส่งรูปแบบอื่นๆเป็นอย่างมาก
สรุปข้อดี
1. สะดวก และมีความรวดเร็ว
2. สามารถขนส่งกระจายไปทั่วถึงได้อย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
3. สามารถขนส่งไปในท้องถิ่นที่การขนส่งประเภทอื่นไปไม่ถึงหรือไปยากลำบาก
4. เหมาะกับการขนส่งระยะไกลๆ
5. เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่เสียง่าย จำเป็นต้องถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว
6. ขนส่งได้หลายเที่ยวในแต่ละวัน เพราะเครื่องบินขึ้นลงได้รวดเร็ว
7. ความแน่นอน มีตารางการบินที่แน่นอน สม่ำเสมอและตรงต่อเวลา
สรุปข้อเสีย
1. ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงกว่าประเภทอื่น
2. จำกัดขนาดและน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุก
3. บริการขนส่งได้เฉพาะเมืองที่มีท่าอากาศยานเท่านั้น
4. การขนส่งขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ
5. การลงทุนและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์สูง
3. การขนส่งทางรถยนต์
เป็นรูปแบบการขนส่งที่ได้รับความนิยมใช้ขนส่งสินค้าภายในประเทศมากที่สุด สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตและแหล่งบริโภคได้โดยตรง (door-to-door) เนื่องจากมีถนนที่เชื่อมต่อภูมิภาคต่าง ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศ มีหน่วยบรรทุก (unit load) ขนาดเล็ก และสามารถจัดหาพาหนะได้สะดวก ทำให้สามารถขนส่งสินค้าไปที่จุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันได้สะดวก ประกอบกับการขนส่งรูปแบบอื่น ๆ มีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่สามารถรองรับความต้องการขนส่งสินค้าได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ และไม่สามารถให้บริการขนส่งจากแหล่งผลิตถึงแหล่งบริโภคได้โดยตรง และจำเป็นต้องใช้การขนส่งทางถนนเป็น Feeder ดังนั้นโดยรวมแล้วการขนส่งสินค้าทางถนนจึงได้เปรียบการขนส่งรูปแบบอื่นๆ ในแง่ของการเป็นการขนส่งรูปแบบเดี่ยว (Single Mode) ที่สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตและแหล่งบริโภค ได้โดยตรง ทำให้สามารถให้บริการรวบรวมและกระจายสินค้าได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งรูปแบบอื่น ๆ
สรุปข้อดี
1. ประหยัด ขนส่งสินค้าได้จำนวนมากหลายชนิด
2. ขนส่งสินค้าได้ตลอดเวลาตามความต้องการของลูกค้า
3. เหมาะกับการขนส่งระยะสั้นและระยะกลาง
4. เป็นตัวเชื่อมในการขนส่งแบบอื่นที่ไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้โดยตรง
สรุปข้อเสีย
1. ค่าขนส่งสูงเมื่อเทียบกับการขนส่งทางรถไฟ
2. ความยืดหยุ่นมีน้อย เพราะมีเส้นทางตายตัว
3. กำหนดเวลาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและดินฟ้าอากาศ
4. ขนส่งสินค้าได้ในปริมาณและขนาดที่จำกัด