20 เม.ย. 2021 เวลา 05:06 • ปรัชญา
รู้จักกับหลักการ 80/20: ทำน้อยแต่ได้มาก
คุณเคยเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ในชีวิตบ้างไหม?
2
ลูกค้าที่สร้างรายได้ให้กับคุณเกือบทั้งหมด มาจากลูกค้าแค่ไม่กี่คน
สินค้าที่คุณขายได้เกือบทั้งหมด มาจากสินค้าแค่ไม่กี่รูปแบบ
ยอดขายเกือบทั้งหมด มาจากนักขายมือทองในบริษัทแค่ไม่กี่คน
และเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่องที่ฟังดูแล้วมันอาจจะขัดใจคุณ (คุณลงทุน ลงแรง ไปตั้งมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้เกิดผลลัพธ์จริงๆ กลับเป็นของหรือคนเพียงแค่หยิบมือเดียว)
1
ผมแค่จะบอกว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้แปลกครับ สิ่งที่คุณพบเจออยู่นี้เป็นไปตามหลักการ 80/20 ของ Pareto ครับ
2
รู้จักกับหลักการ 80/20 ของ Pareto
รูปจาก BetterExplained
หลักการของ Pareto กล่าวไว้ว่า ผลลัพธ์ประมาณ 80% นั้นมักจะมาจากเหตุการณ์หรือการกระทำอะไรบางอย่างแค่ 20%
ไอเดียที่คุณคิดมา 5 อย่าง อาจจะมีแค่ 1 อย่างที่เวิร์ค
2
ของที่คุณทำขึ้นมา 10 ชนิด อาจจะมีแค่ 2 ชนิดที่ขายดี
4
บทความที่คุณลงมือเขียนกว่า 100 บทความ อาจจะมีแค่ 10-20 บทความที่คนอ่านเยอะ (อันนี้เป็นจริงมากๆ สำหรับบล็อกของผม sitthinunt.com ฮา เพราะ ณ ปัจจุบัน ผมมีบทความในเว็บกว่า 70 บทความ แต่ในที่ปีที่แล้ว บทความที่มีคนอ่านมากกว่า 5,000 คน มีแค่ 7 บทความเท่านั้น)
ทั้งนี้หลักการ 80/20 นั้นไม่ได้บอกว่าทุกสิ่งจะเกิดตามสัดส่วนนี้เป๊ะ แต่ Pareto ต้องการจะสื่อว่า Input ของคุณ (ไม่ว่าจะเป็นแรงเงิน แรงงาน หรือความพยายาม) กับผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะไม่เท่ากันอยู่เสมอๆ
3
รู้จักกับหลักการของ Pareto แล้ว จะเอาหลักการนี้ไปใช้กับการทำงานหรือการใช้ชีวิตได้ยังไงบ้าง?
อย่างแรกเลย ผมแนะนำให้คุณลองกลับไปไล่ดูสิ่งสำคัญของชีวิตคุณครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องชีวิต ความสัมพันธ์ และครอบครัว
2
ไปดูว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ในปัจจุบันนั้นอะไรที่ให้ผลลัพธ์กับคุณมากที่สุดโดยที่คุณใช้แรง (งานและเงิน) น้อยที่สุด และสิ่งไหนที่ให้ผลลัพธ์กับคุณน้อยที่สุด โดยที่คุณใช้แรง (งานและเงิน) มากที่สุด
2
Note: ทั้งนี้ เรื่องบางเรื่องเช่นความสัมพันธ์และครอบครัว มันก็ตีค่าผลลัพธ์เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าจะวัดเรื่องผลลัพธ์ของความสัมพันธ์ ผมคิดว่าผลลัพธ์ที่ดีคือการที่คุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายแน่นแฟ้นขึ้น หรือคุณและอีกฝ่ายมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันมากขึ้นครับ
3
จากนั้นก็พยายามเลือกตัดสิ่งที่ใช้แรงเยอะแต่ให้ผลน้อยลง และเพิ่มสิ่งที่ใช้แรงน้อยแต่ให้ผลเยอะให้มันมากขึ้น
2
ว่าง่ายๆ คือพยายามทำสิ่งที่ "Low Input but High Output"
1
รูปจาก Steenschledermann
พยายามอย่างทำตัวเหมือนมนุษย์ยุคหินทางด้านบนที่ยุ่งกับการทำสิ่งต่างๆ (ในที่นี้คือขนของด้วยล้อสี่เหลี่ยม) จนลืมหันกลับมามองสิ่งที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า (ในที่นี้คือล้อกลม)
2
สรุป
แน่นอนว่าการเลือกตัดบางสิ่งและเลือกทำบางอย่าง มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายในชีวิตจริง แต่ถ้าคุณเอาหลักการของ Pareto ไปใช้ พยายามคิดถึงหลักการทำน้อยแต่ได้มากในทุกครั้งของการตัดสินใจ ผมเชื่อว่าคุณจะเลือกได้ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
2
บทความนี้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกที่ https://sitthinunt.com/productivity/pareto-principle/
1
ผมเขียนบทความเกี่ยวกับ Entrepreneurship, Self-Development, Talent Management & Productivity เป็นประจำ
ไม่พลาดบทความดีๆ ที่จะทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพียงเลือกติดตามผ่านทางช่องทางด้านล่าง :)
4. LINE: https://lin.ee/ac2WqRU หรือแอด LINE ID: @sitthinunt
หรือเข้าไปอ่านบทความที่ผมเคยเขียนไว้ในเว็บไซต์อื่นของผมได้ที่ https://magnetolabs.com/blog/ และ https://contentshifu.com/author/bank/
โฆษณา