Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Thinker Man
•
ติดตาม
18 เม.ย. 2021 เวลา 16:27 • ท่องเที่ยว
**คาวาอีเจี้ยน” (Kawah Ijen)** บ่อลาวาเพลิงสีน้ำเงินแห่งเดียวของโลก
หากใครได้ไปเยือน “ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน” (Kawah Ijen) ในเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย คงจะตื่นตาตื่นใจอย่างมากเมื่อได้เห็นเปลวไฟสีน้ำเงินพวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟลูกนี้ แต่อะไรทำให้เราเห็นปรากฏการณ์แบบนี้ เราจะมาหาคำตอบกัน
2
ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยนเป็นภูเขาไฟรูปกรวยขนาดใหญ่ที่สูงถึง 2,600 เมตร ก่อตัวขึ้นเมื่อราว 50,000 ปีก่อน ภูเขาไฟลูกนี้มีความพิเศษตรงที่มันคือที่เดียวในโลกที่เราจะได้เห็น “ลาวาสีน้ำเงิน” ซึ่งจริง ๆ แล้วมันกลับไม่ใช่ลาวาแต่เป็น “กำมะถัน” ที่หลอมเหลวและไหลลงมาตามผาชันของภูเขาไฟ
5
เปลวไฟสีน้ำเงินที่เกิดจากการเผาไหม้ก๊าซภูเขาไฟและกำมะถันหลอมเหลวบริเวณปากปล่องภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน Cr.Martin Rietze
ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อกำมะถันถูกหลอมละลายที่อุณหภูมิต่ำๆไม่เกิน 600 องศาเซลเซียสแลัวสัมผัสกับอากาศทำให้เกิดเปลวสีน้ำเงินนั่นเอง โดยลาวาสีน้ำเงินนี้จะสังเกตเห็นได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น เนื่องจากภูเขาไฟลูกนี้ยังคงตื่นตัวอยู่พวกมันจึงยังพ่นพวยกำมะถัน (Sulfur fumarole) ออกมาเป็นจำนวนมากตามรอยแยกของชั้นหิน จนทำให้เกิดก้อนกำมะถันดิบสะสมตามรอบๆรอยแยกพวกนี้
นอกจากลาวาสีน้ำเงินแล้ว ที่ปล่องภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยนยังมีทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (Caldera Lake) ที่ว่ากันว่ามีความเป็นกรดสูงที่สุดในโลก โดยวัดค่า pH ได้ประมาณ 0.5 ซึ่งเมื่อเทียบกับกรดในกระเพาะที่มีค่า pH ระหว่าง 1.5 ถึง 3.5 แล้วน้ำในทะเลสาบนี้มีความกรดสูงกว่าถึงราวๆ 1,000-10,000 เท่าเลยทีเดียว [1] [2]
ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ (Caldera Lake) สีฟ้าคราสดใสของคาวาอีเจี้ยน ในทางตะวันออกของชวาเกิดจากโลหะและก๊าซที่ละลายจนทำให้น้ำเป็นกรดสูง
ความสวยงามที่ซ่อนอันตรายร้ายแรงไว้
แม้ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยนจะได้ชื่อว่าสวยงามและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคนี้ แต่ที่นี้คือสถานที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่เพราะอะไรล่ะ?? คำตอบคือพิษจากสารกำมะถันที่พวยพุ่งอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ก๊าซกำมะถันมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวหนังรุนแรง อาจทำให้ผิวไหม้และอักเสบ อีกทั้งมันยังละลายน้ำได้ค่อนข้างดี เมื่อดูดซึมเข้าร่างกายมันจะไปทำลายเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ ทำให้แสบจมูก ระคายเคือง จนกระทั่งทำลายปอดและระบบหลอดลมได้ในระยะยาว
แต่สิ่งนี้ป้องกันได้เมื่อคุณสวมหน้ากากกันก๊าซพิษ ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เตรียมอุปกรณ์ป้องกันมาอย่างดีแล้วคงไม่ได้รับอันตรายมากนัก แต่ในทางกลับกันคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกลับเป็นชาวบ้านในละแวกนั้นที่ทำงานเป็นคนขุดกำมะถัน
พวยแก๊สกำมะถัน (Sulfur fumarole) รอบๆปากปล่องภูเขาไฟ พุ่งออกมาอย่างหนาแน่นตามรอยแยกของขั้นหินจนทำให้กำมะถันควบแน่นเป็นก้อนกำมะถันดิบ
เหมืองกำมะถันดิบแห่งคาวาอีเจี้ยน งานอันตรายที่ทำให้ตายได้ภายในไม่กี่ปี
ด้วยปริมาณกำมะถันดิบจำนวนมหาศาลรอบ ๆ พื้นที่ภูเขาไฟ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างนิยมทำอาชีพคนงานเหมืองกำมะถัน โดยส่วนมากจะเป็นผู้ชายในพื้นที่ พวกเขาจะเดินขึ้นไปปากปล่องภูเขาไฟเพื่อเก็บเอากำมะถันดิบราวๆ 100 กิโลกรัมต่อรอบมาขายข้างล่าง ซึ่งจะได้รับค่าแรงในอัตรากิโลกรัมละไม่กี่บาทเท่านั้น
ที่สำคัญคือคนงานเหมืองเหล่านี้ไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันแก๊สพิษขึ้นไปเลย!!! พวกเขาต้องสูดดมพิษเหล่านี้ทุกวันเพื่อแลกกับค่าแรงอันน้อยนิด แต่เมื่อไม่มีทางเหลือมากนักงานเหมือนที่อันตรายนี้จึงเป็นแหล่งรายได้เพียงไม่กี่แห่งของคนในพื้นที่ ว่ากันว่าผู้ชายที่ทำงานขนกำมะถันบนภูเขาไฟลูกนี้ เมื่อทำงานไปสักระยะต่างก็มีอาการปอดอักเสบและเสียชีวิตในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น
คนงานเหมืองกำมะถันต้องแบกกำมะถันดิบที่หนักกว่าร่างกายมาก แต่ปัจจุบันคนงานเหมืองมักติดตั้งท่อดักจับก๊าซภูเขาไฟเพื่อควบแน่นกำมะถันในพื้นที่ปลอดภัย
แม้ทุกวันนี้จะยังคงมีคนงานขนกำมะถันอยู่บ้างแต่ก็เหลือน้อยลงทุกที เพราะคนรุ่นใหม่หันไปทำอาชีพที่คุ้มค่าแรง การทำเหมืองกำมะถันยังพอมีอยู่บ้าง แต่คนงานจะเปลี่ยนจากการเดินขึ้นไปขุดเป็นการต่อท่อแก๊สจากปากปล่องภูเขาไฟเพื่อให้กำมะถันสะสมตัวเป็นก้อนที่ข้างล่าง เพื่ออำนวยความสะดวกในการรวบรวมและเตรียมพื้นที่ขนย้ายกำมะถันที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับคนงานเหมือง
youtube.com
Kawah Ijen: blue fire from burning sulfur
Burning sulfur on Kawah Ijen volcano in Indonesia. Fumaroles wind on daily 10 tons of volcanic gases from which condensed sulfur. The liqid sulfur is so hot ...
ปัจจุบันเหมืองกำมะถันที่คาวาอีเจี้ยนมีกำลังผลิตอยู่ที่ราวๆ 70,000 ตันต่อปี และถือเป็นส่วนน้อยของกำลังผลิตทั้งโลก (ซึ่งกำมะถันส่วนมากในปัจจุบันได้จากการขุดเจาะปิโตเลียม) นี้ล่ะมั่งครับที่เขาเรียกว่าสวยอันตราย หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวที่นี้อย่าลืมแวะชมความสวยงามของแดนอิเหนาแห่งนี้กันนะครับ
อ้างอิงข้อมูล
[1]
https://geology.com/volcanoes/kawah-ijen/
[2]
https://www.flagfrog.com/electric-blue-lava-erupt-volcano/
[3]
https://worldnewsroom.info/?p=1187&fbclid=IwAR0QHG5po-v_8cw6ZzrkiTnPpOYX1j7Tx9h8zfvO1tm-l7z7E17t8Uoitcw
[4]
https://en.wikipedia.org/wiki/Ijen
3 บันทึก
4
6
3
4
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย