ข่าวดี!! วัคซีน Pfizer มีประสิทธิภาพสูงต่อสายพันธุ์อังกฤษในผู้สูงอายุอิสราเอล
จากที่มีสถานการณ์ไวรัสก่อโรคโควิดกลายพันธุ์ต่อเนื่องมาโดยตลอด จนมีสายพันธุ์เด่นปรากฏขึ้นได้แก่
1) สายพันธุ์อังกฤษ
2) สายพันธุ์แอฟริกาใต้
3) สายพันธุ์บราซิล
4) สายพันธุ์แคลิฟอร์เนีย
5) สายพันธุ์ไนจีเรีย
และคงจะทยอยมีสายพันธุ์อื่นๆออกมาตามธรรมชาติของไวรัสโคโรนา ที่มีสารพันธุกรรมเดี่ยวหรืออาร์เอ็นเอ(RNA) ซึ่งง่ายต่อการกลายพันธุ์
ทำนองเดียวกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีการกลายพันธุ์ จนต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปี
กล่าวเฉพาะสายพันธุ์อังกฤษ (UK Variant : B.117) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายเป็นส่วนใหญ่ในทวีปยุโรป
โดยมีความสามารถในการแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์หลัก(Wild type) ถึง 70% ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่า
นอกจากความเร็วในการแพร่แล้ว จะมีผลต่อความรุนแรงของโรค และต่อประสิทธิภาพของวัคซีนหรือไม่อย่างไร
ในขณะนี้พบหลักฐานชิ้นแรกเชิงประจักษ์ สำหรับประสิทธิภาพของวัคซีน ต่อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ ให้สามารถสรุปเป็นเบื้องต้นได้ที่ประเทศอิสราเอล
โดยหลังจากที่อิสราเอล ได้ใช้มาตรการผ่อนหนัก
ผ่อนเบา ไม่ล็อกดาวน์ประเทศมาตั้งแต่ช่วงแรก
ซึ่งในระยะแรก ก็คุมสถานการณ์การระบาดอยู่ในระดับหลักพันคนไว้ได้ โดยเศรษฐกิจได้รับผลกระทบไม่มากนัก
แต่ต่อมาภายหลัง มาตรการดังกล่าวก็เอาไม่อยู่ ทำให้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็วรุนแรง พบว่ามีผู้ติดเชื้อหลายแสนคน ( 837,047 คน) และเสียชีวิต 6335 คน ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับประเทศที่มีประชากรเพียง 9.19 ล้านคน
แต่ก็โชคดีที่เริ่มมีวัคซีนเกิดขึ้น อิสราเอลจึงไม่มีทางเลือก ต้องทำทุกวิถีทางเพราะสถานการณ์รุนแรงมากแล้ว
แม้กระทั่งต้องยอมรับเงื่อนไขพิเศษของบริษัทไฟเซอร์ทั้งเรื่องราคาสูงกว่าราคาตลาด(ที่ทางการอิสราเอลเปิดเผยไม่ได้) และการต้องมีภาระยอมรับเก็บข้อมูลงานวิจัยเฟสสี่ (รวมทั้งการทดลองฉีดในเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี)
เพื่อแลกกับการได้วัคซีนจำนวนมาก มาฉีดโดยเร็ว
ขณะนี้มีรายงานว่าไวรัสสายพันธุ์อังกฤษในอิสราเอลได้แพร่กระจายไปในประชากรเป็นสัดส่วน 45 % ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดแล้ว
โดยมีรายละเอียดว่า จากการเก็บข้อมูล
24 ธันวาคม 2563 ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษยังเป็นส่วนน้อยในกลุ่มผู้ติดเชื้อชาวอิสราเอล
ถัดมาไม่ถึงหนึ่งเดือน 14 มกราคม 2564 ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษเริ่มเพิ่มมากขึ้น
และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษกลายเป็นไวรัสที่ครอบคลุมการติดเชื้อมากถึง 45%
อิสราเอลได้เร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อกันขนานใหญ่ ตลอดจนมีการเฝ้าระวังเนอร์สซิ่วโฮม(Nursing Home) ที่มีผู้สูงอายุเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง และระดมฉีดวัคซีนของ Pfizer เป็นจำนวนมาก
สุดท้ายก็พบข้อสรุปว่า วัคซีนของ Pfizer สามารถลดอัตราการเจ็บป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิตในผู้สูงอายุได้สำเร็จ
โดยการแบ่งกลุ่มประชากร ผู้สูงอายุที่มากกว่า 60 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งไปแล้วมากกว่า 50% พบการติดเชื้อและการป่วยลดลงอย่างชัดเจน
เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนเข็มหนึ่งน้อยกว่าร้อยละ 10% ของจำนวนประชากร ยังคงมีการติดเชื้อและเจ็บป่วยค่อนข้างสูง
ซึ่งก็นับว่าเป็นข่าวดีมาก ที่วัคซีนสามารถคงประสิทธิภาพต่อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษได้
Reference
- 31
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
