วิเคราะห์ดุหลังเกม!
ลิเวอร์พูลออกไปเจ๊าลีดส์ ยูไนเต็ดที่ถิ่นเอล แลนด์โรด 1-1 ทำให้หงส์แดงพลาดโอกาสคว้าพื้นที่ศึกยุโรปเร็วขึ้น โดยตามหลังสิงห์บลู เชลซีที่รั้งอยู่อันดับ 5 อยู่ 1 แต้ม แต่เล่นมากกว่า 1 นัด
ในนัดนี้ 'ราฟินญ่า' ปีกตัวเก๋าของยูงทอง หายไม่ทันอดดวลกับหงส์อีกแล้วเป็นนัดที่ 2 เขาได้รับอาการบาดเจ็บที่ต้นขาหลังจากการปะทะกับเฟอร์นันดินโญ่ในนัดที่พบแมนเชสเตอร์ซิตี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตอนแรกทางต้นสังกัดออกมาพูดให้ความหวังกับแฟนๆยูงทองว่าราฟินญ่าอาจหายกลับมาทันท้าทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุด แต่สุดท้ายมาร์เซโล บิเอลซาก็ตัดสินใจพักเขา เพื่อรอความพร้อมของสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบ
จากการแข่งขันเมื่อคืน การขาดหายไปของปีกชาวบราซิลไม่ได้ส่งผลร้ายต่อความดุดันของลีดส์แต่อย่างใด นักเตะของพวกเขาสามารถทดแทนกันได้และเล่นยึดตามระบบและแบบแผนได้อย่างรัดกุม
"ระบบการเล่น"
4-1-4-1
ตัวจริง: เมส์ลิเยร์, เอย์ลิง, ยอเรนเต้, สเตราค์, อลิออสกี้, ฟิลลิปส์, ดัลลาส, แฮร์ริสัน, เอลแดร์ คอสต้า, โรเบิร์ตส, แบมฟอร์ด
การวางตัว 4-1-4-1 เป็นแผนการเล่นที่ทีมต่างๆมักใช้แก้เกมกับลิเวอร์พูล เพราะลิเวอร์พูลมักเล่นบุกด้วยแผงหน้าทั้ง 3 พวกเขาจึงจัดกองหลังมา 4 พร้อมกับกองกลางตัวรับอีก 1 ใช้ปีกทั้ง 2 และกองหน้าหน้าเป้าทำจังหวะเกมบุก ส่วนกองกลาง 2 รายนั้นจะยืนเพื่อกดระยะไม่ให้กองหลังลิเวอร์พูลขึ้นสูง
"ดีเอโก้ ยอเรนเต้" เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นของลีดส์ในนัดนี้ เขามีทักษะจ่ายบอลที่ดี เมื่อคืนเขาแตะบอลมากถึง 114ครั้ง และชนะการดวลลูกกลางอากาศถึง 4 ครั้ง
การที่ลิเวอร์พูลขาดกองกลางตัวรับที่คอยตัดบอล ทำให้ยอเรนเต้เล่นง่ายขึ้นและทำประตูได้ในจังหวะที่หลบหาพื้นที่จากด้านหลังของแนวรับลิเวอร์พูล กระโดดขึ้นโหม่งโดยที่ไม่มีใครคอยยืนประกบหรือกล้ากระแทกเขาเลย
ลิเวอร์พูลส่งติอาโก้ อัลกันตาร่าและดีโอโก้ โจต้าลงประเดิมสนามเป็นตัวจริงสักที แต่อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลเสียฟิลลิปส์ไปด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อยและตัดสินใจแปลกไม่ส่งซาลาห์ลงเป็นตัวจริงในนัดสำคัญ
แข้ง 11 ตัวจริงของลิเวอร์พูล: อาลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ดีโอโก้ โจต้า, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่
ลิเวอร์พูลเลือกเล่นในระบบ 4-3-3 ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันจนถึงช่วงท้ายๆของเกมในนาที 80 ในช่วงครึ่งแรก ทีมเยือนสร้่งโอกาสการทำประตูได้เหนือกว่ามาก โดยหาโอกาสยิงได้ถึง 10 ครั้งและการเตะมุมไป 4 ครั้ง จนได้ประตูจากซาดิโอ มาเน่ ทั้งๆที่เสียเปรียบในด้านการครองบอลและโดนสะกัดบอลไปมากกว่า 14 ครั้ง ถือว่าใช้โอกาสได้คุ้มมากๆ
หลังจากที่ลิเวอร์พูลพยายามที่จะบุกอย่างต่อเนื่องและรักษาจังหวะเกม แต่ไม่สามารถทำประตูได้สักที หงส์แดงจึงเปลี่ยนระบบการเล่นเป็น 4-4-1-1ในนาทีที่ 81 เพื่อที่จะแก้การบุกในแดนกลางของลีดส์และส่งนักเตะสำรองที่มีความฟิต มีความกล้าเล่นเกมบุกลงมาแทนที่มาเน่และโจต้าที่ดูจะเหนื่อยล้าไปแล้ว
ทว่าการเปลี่ยนตัวและแบบแผนไม่ได้แก้จุดบอดของทีมแต่อย่างใด การที่ลิเวอร์พูลเสียกองหลังธรรมชาติอย่างนาธาเนียล ฟิลลิปส์ไป ทำให้ฟาบินโญ่ต้องเปลี่ยนบทบาทแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นกองหลังคู่คาบัค เมื่อเป็นอย่างนี้ ปัญหาในเกมรับที่ลิเวอร์พูลเผชิญทั้งฤดูกาลก็กลับมาอีกครั้ง กองกลางที่ลงสนามทั้งหมดของลิเวอร์พูลเป็นตัวรุกซ่ะส่วนใหญ่ พวกเขาไม่สามารถตัดบอล เข้าปะทะ และคอยถอยลงมารับ เพื่อรักษาแผงการยืนไว้ได้เหมือนที่ฟาบินโญ่ทำได้
เมื่อเริ่มโดนตัดบอล โดนสวนกลับ และโดนกดดันบ่อยครั้ง ทำให้กองกลางลิเวอร์พูลต้องฝืนมาตั้งรับและไม่สามารถเชื่อมเกมกับกองหน้าได้ ส่งผลให้จังหวะเกมเปลี่ยนและเสียประตูในที่สุด
"ไม่มีแนท ไม่มีชัย"
แฟนๆเดอะ ค็อปต่างตกใจที่ไม่เห็นชื่อนาธาเนียล ฟิลลิปส์ติดอยู่ในรายชื่อนักเตะในค่ำคืนดวลลีดส์ยูไนเต็ด เขาไม่ได้ลงเนื่องจากได้รับอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณเอ็นร้อยหวาย
เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้ฟิลลิปส์ได้เป็นกำลังหลักของทีมเราไปแล้ว อัตราการชนะลูกกลางอากาศ การเข้าปะทะ และการยืนยึดแผนกองหลัง ยิ่งได้ยืนคู่กับโอซาน คาบัค เขาทำให้ทีมเก็บคลันชีทได้มากขึ้น ทำให้พวกเขาทั้ง 2 เป็นคู่หูกองหลังชุดใหม่ของลิเวอร์พูลได้เลย
"ทำไมซาลาห์ไม่เป็นตัวจริง"
เมื่อคืนโมฮาเหม็ด ซาลาห์นั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง ลิเวอร์พูลต้องการเกมบุกที่ทะลวงแผงหลังของลีดส์ยูไนเต็ด แต่ผมไม่เข้าใจว่าคล็อป์ปจะงกแผนหรือพักนักเตะทำไม ในเมื่อเขาบอกเองว่านัดที่เหลือของลิเวอร์พูลเสทือนการเข้าชิงรอบชิงชนะเลิศ
สำหรับผม การแพ้ในครั้งนี้ ส่วนนั้นมาจากการสลับสับเปลี่ยนของนักเตะ
"ไวจ์นาลดุมไม่อยากเล่นแล้วแหละ"
จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุมดูเหมือนจะหมดไฟหรือไม่อยากเล่นให้กับพวกเราแล้ว เขาไม่สามารถเชื่อมต่อกองกลางกับกองหน้าได้ ไวจ์นัลดุมไม่ใช่กองกลางตัวรับแต่อย่างใด เขาสามารถตัดบอล และสะกัดบอลจากแดนกลางได้ ทำให้อัตราการครองบอลตกไปเป็นของลีดส์แทบจะทั้งหมด แฟนๆบนโลกออนไลน์มากมายต่างไม่พอใจกับการเล่นของเขาเช่นเดียวกัน
แต่เราก็โทษความผิดทั้งหมดลงที่เขาในนัดนี้ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติของเขาและบทบาทเขาก็ซ้อนกับติอาโก้อีกด้วย
"ยิงไม่คมสักคน"
นัดนี้หากใครได้ดู คงจะหัวเสียกันไปตามๆกัน พวกเขามีโอกาสยิงทั้งเกมถึง 17 ลูก แต่ยิงทิ้งยิงขว้างเล่นเอาไม่ให้แฟนบอลได้ลุ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นโจต้า ซาลาห์ เฟียร์มิโน่ แชมเบอร์เลน และมาเน่ที่ทำประตูให้เราได้นั้น ก็ยิงนกตายกันไปแล้วหลายตัวเลย
ถ้ากองหน้าหรือตัวรุกเรายังไม่คมแบบนี้ คงเป็นงานยากสำหรับพวกเราแล้วแหละที่จะเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง
"มาเน่ปลดล็อคสักที"
ในความเลวร้ายนั้น ก็มีสิ่งหนึ่งที่ดีเกิดขึ้น ซาดิโอ มาเน่สามารถทำประตูแรกได้แล้วหลักจายิงไม่ได้มากว่า 3 เดือน ถึงเขายังคงไม่คมและยิงทิ้งยิงขว้าง อย่างน้อยความมั่นใจของเขาก็คงกระเตื้องขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อสภาพจิดใจตนเราดีขึ้น คนเราจะพัฒนาก้าวข้ามจุดด้อยของตัวเองได้เรื่อยๆ ยินด้วยนะ มาเน่
อย่างที่แฟนบอลรู้ๆกันว่าลีดส์ยูไนเต็ดเป็นทีมที่ไม่สามารถประมาทได้ พวกเขาเป็นทีมที่ตะบันบุกแหลกใส่คู่แข่งโดยไม่สนว่าอีกทีมเป็นใครมาจากไหน ความแตกต่างทางปรัชญาและการเล่นทำให้ลีดส์สร้างสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้ตลอดฤดูกาล
ในจุดที่ลิเวอร์พูลอยู่ตอนนี้ สภาพความพร้อมและสภาพจิตใจลิเวอร์พูลเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด หงส์แดงดูเล่นได้เหนือกว่าตลอดทั้งเกมก็จริง แต่เมื่อเวลาผ่านไปความแม่นยำในการทำประตูและแรงฮึดของทีมก็ตกลงเรื่อยๆ จนทำให้เสียประตูในที่สุดและไม่ได้ผลคะแนนอย่างที่คสดหวัง
ลิเวอร์พูลปล่อยโอกาสคว้าอันดับ4 หลุดมือไป ทำให้อีก6นัดหลังลิเวอร์พูลต้องเล่นด้วยความกดดันที่มากขึ้นกว่าเดิมไปอีกหลายเท่าตัว
เหมือนเดิมครับ แพ้เพราะตัวเองอีกแล้ว
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน พวกเราก็ต้องมองโลกในแง่ดี คอยให้กำลังใจนักเตะ เพราะพวกเรามีกันและกัน #YNWA
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
