Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Global
•
ติดตาม
25 เม.ย. 2021 เวลา 12:00 • การศึกษา
เสื้อ T-shirt หรือ เสื้อยืด คือเสื้อที่ส่วนใหญ่จะไม่มีกระดุม ปกเสื้อ และกระเป๋า
pixabay.com
โดยมีลักษณะคอกลมและแขนสั้น ซึ่งแขนของเสื้อส่วนใหญ่จะไม่เลยข้อศอก ถ้าเกินกว่านั้นจะเรียกเสื้อทีเชิร์ตแขนยาว
เสื้อทีเชิร์ตโดยทั่วไปจะทำจากผ้าฝ้าย หรือ ผ้าใยสังเคราะห์ โดยมากแล้วทีเชิร์ตจะมีการออกแบบลายด้วยตัวหนังสือหรือรูปภาพ และนิยมใส่กันทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทุกกลุ่มอายุ รวมทั้งทารก วัยรุ่น และผู้ใหญ่
ราวปี 1910 ต้นกำเนิดของทีเชิร์ตก็ได้เกิดขึ้น โดยมีการอ้างสถานที่เกิดทั้งในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ และในสหราชอาณาจักร ในช่วงราวปี 1913 ถึง 1948 ที่ทำการซื้อขายข้ามทวีปกัน ซึ่งในช่วงนั้นได้มีการพัฒนาไปอย่างช้า ๆ
เพราะยังไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก จากข้อมูลหลาย ๆ แห่ง บางแหล่ง มีการอ้างว่า สถานที่ ๆ เป็นต้นกำเนิดแนวความคิดของทีเชิร์ตจริง ๆ เห็นจะเป็น สหราชอาณาจักร โดยสหรัฐอเมริกานำไปพัฒนาต่อ
คือระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อทหารอเมริกัน ได้สังเกตว่า ทหารยุโรปได้ใส่เสื้อในจากผ้าฝ้ายหรือคอตตอน ที่เบาสบาย ในขณะที่ทหารอเมริกันเปียกเหงื่อกับชุดที่ทำจากขนสัตว์
ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ได้เปลี่ยนวัสดุมาใช้ผ้าฝ้าย ในการตัดเย็บเสื้อซับในแทน ซึ่งสะดวกสบายขึ้นและได้รับความนิยมในหมู่ชาวอเมริกัน
เพราะเนื่องจากรูปลักษณ์ของเสื้อที่คล้ายกับตัว T จึงได้เรียกว่าเสื้อชนิดนี้ว่า เสื้อ ทีเชิร์ต (T-shirt) ส่วนต้นกำเนิดที่มาของชื่อนั้น ไม่เป็นที่ชัดเจน แต่ที่แน่นอนคือเพราะมาจากรูปร่าง ทรงของเสื้อที่มีลัษณะเป็นตัว "T"
และชัดเจนขึ้น เมื่อในกองทัพเรียกเสื้อชนิดนี้ว่า "training shirt" (เสื้อสำหรับฝึก) ซึ่งต่อมาจึงเรียกย่อว่า เสื้อ ทีเชิร์ต (T-shirt) กันจนติดปาก
ในปี 1932 ฮาวเวิร์ด โจนส์ขอให้บริษัทผลิตกางเกงในชื่อดังอย่าง จ็อกกี้ ผลิตเสื้อที่ซับเหงื่อสำหรับทีม ยูเอสซี ฟุตบอล ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นทีเชิร์ตยุคใหม่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทำให้ต่อมา ทีเชิร์ตได้กลายเป็นเสื้อยืดมาตรฐานทั่วไปในกองทัพสหรัฐอเมริกาและนาวิกโยธิน
ถึงแม้ว่าทีเชิร์ตจะเป็นชั้นใน แต่ทหารส่วนใหญ่ก็มักจะใส่โดยไม่มีเสื้อเชิร์ตนอก หรือยูนิฟอร์ม และด้วยเหตุที่ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณะบ่อยขึ้น ที่นายทหารใส่เสื้อทีเชิร์ตกับกางเกงขายาว
และเป็นที่ยอมรับทีละน้อย
จนเมื่อนิตยสารไลฟ์ LIFE ฉบับวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1942 ขึ้นหน้าปกทหารที่ใส่เสื้อทีเชิร์ต T-SHIRT และเขียนข้อความว่า "Air Corps Gunnery School"
ทำให้เกิดกระแสความนิยมอย่างแพร่หลายเป็นอย่างมากและรวดเร็ว
โดยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เสื้อยืดทีเชิร์ต จึงได้เป็นที่นิยมใส่กันในหมู่วัยรุ่น ในขณะนั้น โดยไม่มีเสื้อเชิร์ตนอกคลุม
pixabay.com
แต่ไม่ว่าอย่างไรคงไม่มีใครมานั่งสนใจว่าใครจะเป็นคนคิดก่อน เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มีและใส่เสื้อยืดกันทั้งนั้น
โดยถ้าพูดกันตามหลักฐานที่มี เสื้อยืดทีเชิร์ท ก็น่าจะถือกำเนิดขึ้นเป็นทางการ ราวๆ ปี ค.ศ.1945 เสื้อยืดเริ่มเป็นที่ยอมรับในวงกว้างจริงๆนั้น ก็มาจากวัฒนธรรมของอเมริกันโดยแท้จริง
โดยมีบันทึกไว้ว่า ในปี ค.ศ.1948 ผู้สมัครประธานาธิปดี โธมัส อี ดีเวย์ ได้ผลิตเสื้อยืดทีเชิร์ต สกรีนลาย"Dew It for Dewey" ขึ้น และได้รับการบันทึกและยอมรับว่าเป็นเสื้อยืดสกรีนตัวหนังสือตัวแรกของโลก ที่มีการผลิตออกมา
และต่อมาในปี 1952 ก็ได้ผลิตทีเชิร์ต "I Like Ike" เพื่อสนับสนุน Dwight D. Eisenhower และจอห์น เวย์น,มาร์ลอน แบรนโด และเจมส์ ดีน ก็ได้ใส่เสื้อตัวนี้ปรากฏตัวในโทรทัศน์ด้วย ซึ่งเป็นที่ตกตะลึงของประชาชน จนกระทั่งในปี 1955 จึงเป็นที่ยอมรับ
ในปัจจุบันเสื้อยืดมักสกรีนข้อความและลวดลายเพื่อให้เหมาะสมกับความเชื่อ รสนิยมของผู้สวมใส่ เช่นเสื้อยืดวงดนตรีต่างๆ และเนื่องจากราคาถูกและสามารถทำได้ง่ายจึงมักทำเป็นของที่ระลึก ของแจกของแถม ของขวัญ
เป็นที่ประชาสัมพันธ์ ที่โฆษณา ส่วนข้อความที่ได้รับความนิยมในการเขียนบนทีเชิร์ต เช่น “ฉันหัวใจเอ็นวายซี” รวมถึงลายล้อเลียนต่างๆ ที่ตามมา หรือข้อความ “staying alive” ที่ได้รับความนิยมช่วงหนึ่งในกรุงเทพ
เสื้อทีเชิร์ตมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นในแบบลวดลายต่างๆเช่น ลายการ์ตูน ลายดอกไม้ ลายรูปดารา ลายธรรมชาติ และอื่นๆอีกมากมายและเป็นที่นิยมในทุกสมัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ วัยไหนๆก็สวมใส่ได้เพราะเสื้อยืดจะมีราคาถูกไม่แพงมากนักสามารถหาสวมใส่ได้ง่ายโดยทั่วไป
โดยในยุคเริ่มแรกของการเกิด “เสื้อยืด” (T-shirt) คงไม่แตกต่างจากหนังมากนัก ในแง่ที่ว่า เสื้อยืดเป็นตัวแทนของการต่อต้านสังคม ความรู้สึกของ ‘ความไม่สุภาพ’ ของเสื้อยืดนั้นก็ยังติดตัวมันอยู่จนถึงทุกวันนี้
และที่สำคัญเสื้อยืดสามารถสะท้อนความคิดและบุคลิกของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าเราอยากจะรู้จักใครสักคนในสมัยนี้ ต้องดูที่เสื้อยืดที่เขาใส่ ดูคำดูรูปที่อยู่บนเสื้อ เราก็จะรู้ได้ประมาณหนึ่งว่าเขาเป็นคนอย่างไร มันเป็นภาพสะท้อนความคิดของคนๆ หนึ่งที่ต้องการสื่อความคิดของตัวเองได้ดีมาก
อ้างอิง :
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95
https://www.zazio.shop/blog/history-of-t-shirts/
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย