20 เม.ย. 2021 เวลา 05:25 • ปรัชญา
ทำไมเราถึงทำความดี
บางคนทำความดีหวังผลตอบแทน เพราะเข้าใจว่าการทำสิ่งที่ดีเราควรได้รางวัล และ หากการทำดีแล้วไม่ได้อะไรเราจะทำไปทำไม
ผมคุยกับชายคนหนึ่ง เขาพบเงินตกอยู่บนพื้น 1000 บาท เขาคิดว่าเขาช่างโชคดีเหลือเกินอยู่ดีๆ ก็มีเงินมาให้ใช้ฟรีๆ เงินนี้เขาสามารถนำไปซื้ออาหารอร่อยๆ ให้แม่กิน หรือ ซื้อของเล่นให้ลูกสักชิ้น หรือ ซื้อของที่ตัวเองอยากได้
แต่ความจริงแล้ว ของบนโลกนี้มันไม่ได้มีอะไรฟรีๆ หรอกครับ เงินหนึ่งพันบาทไม่ใช่ของที่ฟ้าประทานมาให้เราแต่อย่างใด แต่มีคนๆ หนึ่งทำมันหล่นเอาไว้ แล้วเขาก็สูญเสียเงินจำนวนนั้นไป เงินที่เขาจะเอาไปซื้ออาหารให้พ่อแม่ทาน ของเล่นให้ลูกเล่นสักชิ้น หรือ ซื้อของขวัญให้ตัวเองสักอย่าง
ผมถามชายคนนั้นว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่เอาเงินนั้นไปคืนหาเจ้าของ เขาก็บอกว่าจะเอาไปให้เขาทำไม ถ้าเขาเก็บไว้เขาจะเอาไว้ใช้สอยได้ เขามีความสุขด้วย แต่ถ้าเอาไปคืนเขาไม่ได้อะไรสักอย่างเลย
ที่เขาพูดมันก็ถูกใช่มั้ยครับ แต่ถ้าเกิดเราคิดแบบนี้เราจะทำสิ่งที่ถูกต้องไปทำไม ถ้าเกิดทำแล้วเราไม่ได้อะไรสักอย่าง
ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องบาปและบุญที่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้แต่อย่างไร แต่มันเป็นเรื่องของการทำสิ่งที่ถูกต้อง หากเราทำสิ่งใดบนพื้นฐานความถูกต้องนี้ จิตใจหรือจิตวิญญานของเราจะมีความสุข และ อิ่มเอม รู้ว่าตัวเองอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง แล้วถ้าสมมุติว่าโลกหน้ามีจริงเราก็จะได้ไปในภพภูมิที่ดี
หากไม่พูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างโลกหลังความตาย ผมว่าเรามาพูดถึงเรื่องการทำงาน หรือ การใช้ชีวิต โดยยึดหลักการทำในสิ่งที่ถูกต้องสมควรดูดีกว่าครับ
หากคุณเป็นชายคนนั้น แล้วคุณตัดสินใจที่จะเอาเงินหนึ่งพันบาทนั้นไปใช้เช่นกัน นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนไม่สื่อสัตย์ คนที่ไม่มีความสื่อสัตย์นั้นไม่ได้เกิดมาแล้วเป็นเลย แต่หากว่าเจอสถานการณ์ที่หล่อหลอมจนเขาเป็นคนแบบนั้นกว่าจะโดนเรียกว่าคนไม่ซื่อสัตย์ได้
เปรียบได้กับว่าเขาเจอเงินตก 10 ครั้ง ครั้งแรกเอาเงินไปใช้ซื่อนู่นนี่ตอบตรรหาตัวเอง ครั้งที่สองด้วยอาจจะเป็นเพราะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันผิดจึงนำเงินที่เจอนั้นไปตามหาเจ้าของ แต่เมื่อทำแล้วเขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองได้อะไรจากการกระทำนี้สักนิด เมื่อเจอครั้งที่สามและครั้งต่อๆ ไป เขาก็เก็บเงินนั่นไว้ใช้เองดีกว่า เมื่อทำติดต่อกันไปเรื่อยๆ ก็เริ่มกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อถึงเวลาที่เขาทำงาน เมื่อมีโอกาสทำงานใหญ่ เจ้านายย่อมไม่เลือกคนที่ไม่มีความสื่อสัตย์ใช่มั้ยครับ เพราะไม่ว่าต่อให้คุณเป็นคนเก่งยังไง แต่ถ้าคุณไว้ใจไม่ได้ เขาก็คงไม่เลือกคนที่มีแนวโน้มที่จะโกงมาทำงานให้
สุดท้ายแล้วเงินจำนวนน้อยนิดที่เจอตามพื้น กลับทำให้คนๆ หนึ่งกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ คนเราไม่ทำผิดครั้งใหญ่เลยในครั้งแรกหรอกครับ มันจะเกิดขึ้นมาจากการทำผิดเล็กๆ แล้วก็ขยายความผิดขึ้นไปเรื่อยๆ
แต่ความจริงที่ว่าถึงแม้ว่าคุณทำตัวดี พยายามอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแค่ไหนมันก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนเสมอไปนั่นมันก็เป็นความจริงที่น่าเจ็บปวด
บางครั้งเราขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตั้งใจทำงานไม่อู้ไม่ลา ทุ่มเทให้กับบริษัท แต่คนที่เลียเจ้านายเก่งกว่าเรากลับได้ตำแหน่งไปซะอย่างงั้น แบบนี้เราจะทำดีไปเพื่ออะไร?
วิธีคิดแบบนี้คือความคิดที่เข้าใจผิดอย่างรุนแรงว่าทำดีต้องได้ดีไงครับ ทำดีไม่ต้องได้ดีก็ได้ แต่ทำดีต้องอิ่มเอมใจ ทำดีแล้วต้องมีความสุข เราต้องชั่งน้ำหนักการกระทำของเราให้ดี และ เมื่อทำแล้วเราต้องไม่หวังรางวัลตอบแทนใดๆ เราต้องเข้าใจว่าเพียงแค่ทำสิ่งที่ถูกเท่านั้น
ดั่งเช่นคนที่เงินตก 1000 บาทเขาก็ต้องอยากได้เงินของเขาคืน หากเราเอาไปคืนเขาก็จะมีความสุข คำถามคือแล้วคนที่เอาเงินไปคืนเนี่ยได้อะไร?
สิ่งเดียวที่ได้ก็คือความอิ่มเอมใจในการได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ได้รู้ว่าชีวิตนี้เกิดมาไม่เป็นคนขดโกงใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน และนี่คือรางวัลที่คุณได้รับจะเป็นรางวัลทางจิตใจเท่านั้น ไม่ใช่รางวัลทางกายหรือทางโลกที่เราอยากได้
การทำสิ่งที่ดีต่อผู้อื่น หรือ การกระทำใดๆ ก็ตาม เราไม่ควรคิดว่าเราจะได้อะไรจากการกระทำนั้นๆ แต่เราควรมองถึงว่าเราทำสิ่งที่ถูกมากกว่าหรือไม่ มันจะทำให้เราเป็นคนมีเหตุมีผลเข้าใจในก่รกระทำของตัวเอง ไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเรา เป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้ง ไม่ว่าไปที่ใดก็จะเป็นคนมีหลักแบบนี้เสมอ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา