20 เม.ย. 2021 เวลา 11:35 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Learning Curve ของการเทรดหุ้น
Learning Curve การเรียนรู้
อย่างแรกเลย คุณต้องตัดสินใจว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ และคุณจะมีวิธีทำให้ตัวเองเก่งขึ้นหรือเชี่ยวชาญชึ้นได้อย่างไร
ซึ่งคุณจะต้องยึดมั่นอยู่กับบางสิ่งบางอย่าง ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวคุณเอง และฝึกฝนเทคนิคเฉพาะตัวต่างๆของคุณ จนกระทั่งคุณเกิดความเชี่ยวชาญ
มันเป็นกระบวนการตามขั้นตอน แต่บ่อยครั้งคนเรามักจะประเมินระยะเวลาที่ต้องใช้เวลาฝึกฝนเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญต่ำเกินไป
อย่างเรื่องการเทรดหุ้น เราก็จะประเมินต่ำเกินไปว่ามันต้องใช้อะไรบ้างเพื่อที่จะเกิดความเชี่ยวชาญเรื่องหุ้นจริงๆ หรือต้องมีการใช้ทั้งความคิดทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาร่วมกันอย่างไร นั่นจึงทำให้พวกเขาล้มเลิกความตั้งใจและยอมแพ้เร็วเกินไป
มันเป็นเพราะเราไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าการเทรดหุ้นจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้หรือมี Learning Curve ที่ยาวนานขนาดนี้
แต่ลองคิดดูว่าอาชีพหมอจะต้องได้รับการศึกษานานแค่ไหน และพวกเขาต้องเตรียมตัวอย่างขยันหมั่นเพียรมากขนาดไหนเพื่อที่จะพร้อมรักษาคนไข้จริงๆ
คุณคิดว่า 6 เดือนจะพอไหม? คุณจะไปรักษากับหมอที่เพิ่งเรียนมาแค่ 6 เดือนไหม คุณจะเชื่อใจคำแนะนำทางกฏหมายจากทนายที่เพิ่งเข้าเรียนมาแค่ 1 ปีหรือ?
ดังนั้นผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นสาขาอาชีพไหนก็ตาม มันต้องใช้เวลา 8 ถึง 10 ปี ถึงจะได้รับการรับรองหรือจบการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่เทียบเท่า
ถ้าคุณไม่เต็มใจจะใช้เวลาฝึกฝนนานขนาดนั้น แล้วคุณจะคาดหวังการมีผลงานหรือความเชี่ยวชาญในระดับปริญญาเอกได้อย่างไร
และจากงานวิจัยก็มีผลสรุปออกมาว่า มันต้องใช้เวลาลงมือปฏิบัติจริงถึง 10,000 ชั่วโมง เพื่อที่จะเกิดความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง
ถ้าหากเราฝึก
วันละ 1 ชม. ใช้เวลา 10,000 วันหรือ 27 ปีกว่า ๆ
วันละ 2 ชม. ใช้เวลา 5,000 วันหรือราว 14 ปี
วันละ 4 ชม. ใช้เวลา 2,500 วันหรือราวๆ 7 ปี
วันละ 8 ชม. ใช้เวลา 1,250 วันหรือเกือบ 4 ปี
วันละ 12 ชม. ใช้เวลา 833 วันหรือประมาณ 2 ปี
มันเป็นตัวเลขและระยะเวลาที่เยอะมาก ๆ แต่ถ้าเราทำมันสม่ำเสมอก็คงไม่นาน
เน้นว่าไม่ใช่แค่การเตรียมตัว10,000 ชั่วโมง แต่เป็นการลงมือทำและปฏิบัติจริง
ดังนั้น ถ้านั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แล้วคุณพร้อมจะให้เวลาเทรดหุ้นกี่ชั่วโมง? เพราะการจะทำผลตอบแทนระดับสุดยอดได้นั้น มันจะเป็นการเรียนรู้ที่ยาวนาน ใช้เวลาหลายปี ต้องมุ่งมั่นและมีความพยายามอย่างไม่สิ้นสุด
ก่อนจะจบบทความนี้ผมขอฝากคำคมเพื่อเป็นกำลังใจและแรงศรัทธาให้กับเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่าน ที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนหุ้นกันครับ
" More harder I try, More Luckier I get. -ยิ่งเรามีความพยายามเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเข้าใกล้ความโชคดีมากขึ้นเท่านั้น"
ฝากกดติดตามและกดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ เพจเม่าเล่าเรื่องหุ้น กันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
โฆษณา