เมื่อครั้นญี่ปุ่นยึดพม่าไว้ได้แล้วและมีแนวโน้มว่าจะเข้าตีอินเดีย ก็มีการตั้งกองกำลัง V force ที่ประกอบจากชนเผ่าพื้นเมืองโดยมีเจ้าหน้าที่จากอังกฤษที่คุ้นเคยกับชนเผ่านั้นๆ เป็นผู้ควบคุม ส่วนมากมักจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหาร เว้นแต่ในส่วนของนากาฮิลล์นี่แหละครับ ที่มีผู้นำเป็นผู้หญิงซึ่งก็เป็นใครไม่ได้นอกเสียจากเออร์ซูล่า ราชินีขาวคนนี้นี่เอง
เออร์ซูล่าและปืนคู่ใจ
กองกำลัง V force ในส่วนการนำของเออร์ซูล่าประกอบด้วยเธอและชายชาวนากาอีก 150 คนซึ่งได้รับสมญานามจากผู้บังคับบัญชาว่า "กองกำลังบาวเยอร์" เพื่อให้เกียรติแก่ราชินีขาวคนนี้ โดยอาวุธหลักก็เป็นดาบคู่ใจของชาวนากาที่เอาไว้ตัดหัวข้าศึก และปืนโบราณรุ่นเก๋ากึ้ก ในขณะที่อาวุธคู่ใจของเออร์ซูล่าเป็นปืนกลมือสเตนคู่ใจสองกระบอกสะพายข้างที่คุณพ่อของเธอสอนเธอใช้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย
เมื่อจบสงครามเออร์ซูล่าก็ได้รับเหรียญกล้าหาญจากรัฐบาลอังกฤษ และได้เหรียญ Lawrence Memorial Medal ที่ตั้งชื่อจากลอว์เรนซ์แห่งอาระเบียในฐานะงานด้านมานุษวิทยาที่เธอได้ไปทำงานวิจัยชนเผ่านากา ที่แม้ว่าเธอจะไม่ได้จบจากอ็อกซ์เฟิร์ดแต่ก็มีผลงานอย่างดีเยี่ยม นอกจากเหรียญทั้งสองแล้วเธอยังได้บรรลุเป้าหมายในชีวิตอีกอย่างคือได้สามีมาจนได้
ลอดซุ้มกระบี่ฉบับทหารกุรข่า
สามีของเออร์ซูล่าเป็นนายทหารยศพันโท เขาชื่อว่าพันโทเฟรดเดอริก นิโคลสัน เบทส์ โดยทั้งคู่พบรักกันในขณะที่ร่วมทำงานกันใน V force ในปฏิบัติการที่พม่า โดยผู้พันนำกองกำลังอัสสัม ส่วนเออร์ซูล่าก็นำกองกำลังนากา จนเมื่อมาพบกันตรงชายแดนอินเดีย-พม่าในตะวันออกเฉียงเหนือ คนเหงาย่อมเข้าใจคนเหงาเมื่อสายตาเศร้าๆส่งไปทักทายกัน ทำให้ดอกรักผลิบาน ณ ที่ชายแดน จนแต่งงานกันหลังจบสงครามไม่กี่เดือน สมประสงค์ของคุณแม่จนได้นะเออร์ซูล่า