ขายความรู้...แบบไม่มีความรู้
ของแบบนี้ไม่ต้องใช้กลโกง...แต่ต้องใช้กึ๋น
“ต้องเก่งแค่ไหน...ถึงจะไปสอนคนอื่นเค้าได้?”
บทความนี้ จะอาสาพาคุณไปพบกับคำตอบครับ
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่กำลังมีความคิดแบบนี้อยู่ ผมขอพาคุณ...ย้อนรอยกลับไปตอนวัยเรียนกันสักหน่อยล่ะ!
คุณจำได้มั้ยครับ ว่าตอนเรียนอนุบาล 3
คุณครูประจำชั้นชื่ออะไร?
แล้วตอน ป.4 ล่ะ คุณครูประจำชั้นชื่ออะไร?
จำไม่ได้...ก็ช่างมันไปก่อนครับ
แต่ทีนี้...คุณลองเดาสิว่า คุณครูทั้งสองท่านนี้ ต้องจบด็อกเตอร์ เพื่อมาสอน เด็กอนุบาล 3 หรือ เด็ก ป.4 หรือป่าวครับ?
แน่นอนละครับ มันคงไม่จำเป็นจริงมั้ย??
คือผมขออธิบายแบบนี้นะครับ....ความรู้มันมีสเต็ปของมันอยู่ครับ
สมมุตินะ ว่ามันมีอยู่ทั้งหมด 5 ระดับ
แล้วบังเอิญว่าคุณมีความรู้อยู่ในระดับที่ 3
นั่นแปลว่า คุณสามารถสอนและถ่ายทอดวิชา ให้กับคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าคุณ หรือ ระดับ 1,2 ได้ จริงมั้ยครับ?
ยกตัวอย่างเช่น....
ถ้าคุณเรียนจบ ม.6 แล้ว
สอบเข้ามหาลัยชื่อดังแห่งนึงได้...
อยู่มาวันนึง...
เด็กป.4 แถวๆบ้าน วิ่งมาให้คุณช่วยสอนทำการบ้าน เรื่องการ บวก ลบ คูณ หาร
คุณก็สามารถสอนได้ใช่มั้ยครับ?
แล้วถ้ามีรุ่นน้องมัธยม ในโรงเรียนที่คุณจบ ม.6
มาขอให้คุณช่วยติว เพื่อสอบเข้ามหาลัยชื่อดังที่คุณเคยเข้ามาแล้ว คุณพอจะติวได้มั้ยครับ?
แน่นอน...คุณคงพอที่จะช่วยสอนน้องๆที่น่าเอ็นดูเหล่านี้ ได้ใช่มั้ยครับ?
ก็แบบนี้นี่แหละครับ ที่เค้าเรียกกันว่า”ติวเตอร์”
ธุรกิจยอดฮิตในปัจจุบันไงครับ ซึ่งติวเตอร์แต่ละคน เค้าจะสอนเฉพาะในส่วนวิชาที่ตัวเองมีความรู้ หรือมีความถนัดครับ
ยกตัวอย่าง...อาชีพติวเตอร์ มันเป็นอาชีพนึง ที่ทำเงินได้ ทั้งในแบบบุคคล และองค์กรเลย
คือ...ผมไม่ได้จะให้คุณไปเป็นติวเตอร์นะครับ 5555
แต่ผมแค่จะบอกว่า คุณเองก็ทำแนวนี้ได้เช่นกันครับ...
คุณสามารถเลือกได้ว่า...จะสอนให้กับคนกลุ่มไหน? หรือ สอนความรู้ในระดับไหน?
โดยเลือกในระดับที่ต่ำกว่า...จากระดับความรู้ที่คุณมีอยู่นั่นเองครับ
แบบนี้เป็นยังไงครับ...เรื่องที่บอกว่าไม่มีความรู้ มันไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ อีกแล้วใช่มั้ยครับ?
แต่ๆๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อนครับ....
ผมยังมีทีเด็ดอีกเรื่องนึงอยู่ครับ
สมมุติว่า....ถ้าคุณไม่อยากสอนด้วยตัวเอง
คุณก็ไม่จำเป็นต้องสอนเอง....แบบนี้ดีมั้ยล่ะครับ?
ยังไง?? งงมั้ยล่ะ??....ใจเย็นๆ ตั้งสติก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเฉาะให้ฟังเหมือนเดิม^^'
ผมขออนุญาติอัญเชิญคุณ...ให้มาที่หนังสือเล่มนึงครับ
ตัวอย่างหนังสือ ที่คนเขียนไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ แต่รวบรวมความรู้จากคนอื่นๆ มาขาย หรือแม้กระทั่งแค่รวมคำพูดของคนดังๆ เอามาเป็นหนังสือก็ยังทำได้เลย
หนังสือเล่มนี้ ปัจจุบันพิมพ์แล้ว 28 ครั้ง ซึ่งตอนที่ผมซื้อมา มันราคา 400 กว่าบาท
อยากรู้มั้ยว่า เค้าขายได้เท่าไหร่?? ก็ลองกดเครื่องคิดเลข ตามนี้นะครับ(อันนี้แบบคร่าวๆนะ)
สมมุติพิมพ์ครั้งละประมาณ 1,000 เล่ม
(ผมเดาๆเอานะ) พิมพ์ทั้งหมด 28 ครั้ง
>1,000 เล่ม x 28 ครั้ง
= 28,000 เล่ม
ราคาเล่มละ 400 บาท(คิดแบบถ้วนๆ)
>28,000 เล่ม x 400 บาท
= 11,200,000 บาท
สิบล้านกว่าๆๆๆ !!!
เหยยยย.....ไหนใครบอกว่า นักเขียนไส้แห้งละเนี่ยยย นี่มันไม่ใช่ละ55555
แต่ประเด็นสำคัญ มันอยู่ตรงนี้ครับท่าน!
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้...มันคือการรวบรวม สุนทรพจน์ ในวันรับปริญญา ที่กล่าวโดยคนที่มีชื่อเสียงอย่าง สตีฟจ็อปส์,เจเค โลวลิ่ง รวมถึงคนดังๆอีกมากมาย
ซึ่งผมขอสารภาพกันตรงๆเลยนะครับว่า
ผมไม่รู้จริงๆว่า...ใครคือผู้รวบรวมเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ เป็นคนแรก
แต่เท่าที่ค้นหาข้อมูลมาได้ หนังสือเล่มนี้เขียนและแปลโดยคุณ สฤณี อาชวานันทกุล ผมรู้สึกทึ่งและชื่นชมมากๆครับ
แต่ผมก็แน่ใจอยู่อย่างนึงว่า...
ผู้เขียน ไม่ใช่คนที่ขึ้นไปกล่าวสุทรพจน์เอง แต่เป็นการรวบรวมคำกล่าว จากสุนทรพจน์นั้น เอามาแปล และตีพิมพ์เป็นหนังสือ และออกจำหน่ายขายดิบขายดี อย่างที่เราแอบกดเครื่องคิดเลขกันคร่าวๆไงครับ
แล้วหนังสือเล่มนี้ มันเกี่ยวกับคุณยังไงล่ะ?
ก็อย่างหนังสือเล่มนี้ไงครับ ผู้เขียนไม่ได้เอาความรู้ของตัวเองมาเขียนเลย แต่ใช้วิธีถ่ายทอดความรู้ของผู้อื่น ผ่านทักษะการเขียนของเราแทนไงครับ....
ไอเดียนี้ สุดบรรเจิดเลยมั้ยล่าาา5555
เอาล่ะ...แล้วนี่มันจะช่วยให้คุณ เริ่มทำธุรกิจจากไอเดีย,ความรู้ความเชี่ยวชาญของคุณได้ยังไงล่ะ?
ผมเล่าตัวอย่างไอเดีย ที่ผมใช้ทำสินค้าจากความรู้แนวๆนี้ไว้ด้วย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี่เลยนะครับ https://kiddang.com/selling-information
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
