20 เม.ย. 2021 เวลา 19:40 • การเมือง
“คนไทยไร้จน” ฝันที่ถึงได้ แค่ต้องเดินทีละก้าวอย่างมั่นคง
“คุณยังมีความฝันที่ยังไม่ได้ทำอยู่หรือไม่”
คำถามนี้กลายเป็นคำถามที่เปลี่ยนชีวิตของคนไทยหลายล้านคน เพราะคำตอบของคำถามนั้น นำไปสู่โครงการ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค
ความฝันที่ยิ่งใหญ่นี้ ถูกผลักดันโดย 3 บุคคลสำคัญ คือ นพ.สงวน นิตตยารัมพงษ์ ผู้ริเริ่มแนวคิดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผู้ตัดสินใจทำนโยบายนี้อย่างเต็มที่ และ นพ. มงคล ณ สงขลา ปลัดกระทรวงผู้ผลักดันให้ความฝันนี้เป็นจริงได้
วาทะกรรม “โง่ จน เจ็บ” ถูกผลิตซ้ำและทำให้เราไม่สามารถหลุดพ้นจาก 3 สิ่งนี้ได้
แต่ความฝันเรื่องของ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้ผู้คนหลุดพ้นจากคำว่า “เจ็บ” ได้ในที่สุด แต่คำว่า “โง่” และ “จน” หล่ะ ทำอย่างไรให้คนไทยไร้จน หรือ การศึกษาอาจต้องถึงขั้นปฏิวัติครั้งใหญ่
“UBI หรือ Universal Basic Income” อาจจะเป็นคำตอบ
UBI เคยถูกนำเสนอโดยนักคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โทมัส เพน, มาร์ติน ลูเธอร์ คิงส์, เบอร์ทรันด์ รัสเซล หรือ ปรีดี พนมยงค์ และปัจจุบัน อีลอน มักส์ แห่งเทสล่า ล้วนเคยกล่าวถึง UBI ว่าเป็นตัวกันกระแทกสำหรับคนที่ปรับตัวไม่ทันยุคดิสรัปชั่น
UBI จึงเป็นความฝัน ที่ยังไม่มีใครทำสำเร็จนอกไปจากการทดลองในบางพื้นที่ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับ 30 รักษาทุกโรคแล้ว ความฝันเรื่อง UBI หรือ คนไทยไร้จน อาจจะใกล้เคียงกัน
เรามองว่า การรักษาพยาบาลเป็น “สิทธิ์” ไม่ใช่การอนุเคราะห์ และสิทธิ์นั้นจะต้องมีมาตรฐานอย่างเท่าเทียม เช่นเดียวกันกับคนไทยไร้จน เรามองว่า รายได้พื้นฐานถ้วนหน้า เป็น “สิทธิ์” ไม่ใช่การสงเคราะห์ และสิทธิ์นั้นต้องทำให้เขาพ้นจากเส้นความยากจนทุกคนอย่างเท่าเทียม
ถามว่า ความฝันเรื่องคนไทยไร้จน ยากหรือไม่ ? คำตอบคือ ยาก แต่เราต้องทำทีละขั้น
เราอาจจะเริ่มต้นด้วย Negative Income Tax สำหรับคนที่ยื่นภาษีและมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน รัฐจะจ่ายเงินสมทบช่วยให้พ้นจากเส้นความยากจน หรือ อาจจะเริ่มจาก บำนาญถ้วนหน้า สำหรับผู้สูงอายุให้มีรายได้เพียงพอพ้นเส้นความยากจน ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินมากถึง 3.4 แสนล้านบาท
ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่เมื่อ 22 ปีก่อน 30 บาทรักษาทุกโรคก็อาจจะเป็นเรื่องเพ้อฝันเหมือนกัน แต่เราทำให้เป็นจริงได้ และทำให้งบกว่า 7 หมื่นล้านบาทที่ลงไป ได้กลับมากว่า แสนล้านบาท เพราะคนไม่ต้องสะสมเงินไว้รักษาพยาบาลแล้ว และเอาเงินไปลงทุนสร้างรายได้แทน ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลัง 2540
“บางครั้งเราอาจจะต้องคิดอย่างตรงไปตรงมา”
ถ้าเขาไม่มีหลักประกันสุขภาพ เราก็ให้หลักประกันสุขภาพ ถ้าเขาไม่มีรายได้ที่เพียงพอกับการดำรงชีวิต เราก็ให้รายได้พื้นฐานถ้วนหน้า ก็แค่นั้น
เรื่องนี้อาจจะต้องเดินทีละก้าว อย่างไม่หยุดถึงจุดหมาย เราอาจจะต้องฝันตรงฝันไกล
เราเคยฝันตรงฝันไกลเรื่องความเจ็บป่วย แล้วนำไปสู่ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
เราอาจจะต้องฝันตรงฝันไกล เพื่อให้เราสามารถชนะความยากจน แล้วถึงจุดหมายได้อย่างไร
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
#คนไทยไร้จน
#ฝันเฟื่องหรือเรื่องจริง
#คิดเคลื่อนไทย
โฆษณา