21 เม.ย. 2021 เวลา 12:02 • ประวัติศาสตร์
เกร็ดประวัติศาสตร์ในAttack on Titan
บทความโดย มะลิ ชัชชญา จิตเกียรติกุล
1
***มีการอิงเนื้อหาบางส่วนในภาคที่1-4***
ในตอนนี้อนิเมะAttack on titan หรือShingeki no Kyojin เป็นที่นิยมมาก เเละในตอนนี้ในส่วนของภาคที่4 หรือFinal seasonที่กำลังฉายอยู่ในตอนนี้ก็เป็นที่นิยมมากเลยด้วย ซึ่งในเรื่องAttack on Titanนี้ จะมีเกร็ดประวัติศาสตร์อะไรซุกซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่องบ้าง? ถ้าอยากรู้เเล้วมาอ่านกันได้เลยค่ะ
ตัวเนื้อเรื่องAttack on Titan จะอิงจากสภาพสังคมของยุโรปยุคกลาง อันนี้สังเกตได้จากสภาพสถาปัตยกรรมในเรื่อง คือสถาปัตยกรรมในเรื่องจะเป็นสถาปัตยกรรมยุคกลางเเบบโรมาเนสก์เเละกอทิก
เห็นได้ชัดจากตัวบ้านในเรื่องฐานบ้านจะเเข็งเเรงมั่นคง ตัวกำเเพงบ้านถูกทำให้หน้าทึบ พื้นที่หลังคามีมากเเละกว้าง (เพื่อให้ง่ายต่อพวกทหารเวลาใช้เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติยึดเกาะตามบ้านเวลาต้องสู้กับไททันในเมือง)รวมถึงยังมีหน้าต่างที่เรียวเล็กเเคบ เเละมีบรรยากาศภายในบ้านที่มืดครึ้ม ทำให้ประชาชนใช้หลบซ่อนตัวจากพวกไททันได้เป็นอย่างดี
เเละตัวเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำเเพงนั้น มีที่มาจากเมืองเนิร์ดลิงเงิน(Nördlingen)ในประเทศเยอรมัน ซึ่งเมืองเนิร์ดลิงเงินจะคล้ายกับเมืองของไททันเลย คือมีกำเเพงล้อมรอบเมืองไว้เพื่อกันศัตรูจากนอกกำเเพง เช่นเดียวกับในเรื่องที่มีกำเเพงล้อมรอบเมืองเพื่อกันผู้คนจากไททัน
5
เเละในช่วงภาคที่2-3จะเห็นได้ว่าตัวละครในเรื่องเริ่มรู้เเล้วว่าในกำเเพงไม่ได้มีเเค่พวกเขา เเต่ยังมีไททันในกำเเพง เเละยังมีผู้ถือครองพลังไททันนอกจากเอเรนตัวเอกของเรื่อง(เห็นชัดในช่วงท้ายๆของภาคที่2เเละช่วงภาคที่3)
1
ซึ่งไททันในกำเเพงเกิดจากการที่กษัตริย์ฟริซท์ได้อพยพชาวเอลเดียเข้ามาในกำเเพง เเล้วระหว่างสร้างกำเเพงก็ฝังไททัน50เมตรลงไปในกำเเพงด้วยเพื่อใช้ต่อสู้ปกป้องผู้ที่มารุกรานกำเเพง ซึ่งการที่ราชาฟริซท์ฝังไททันลงไปในกำเเพงเพื่อใช้ต่อสู้กับผู้ที่มารุกรานกำเเพง มันก็คล้ายกับความเชื่อเเละการกระทำของมนุษย์ในอดีตที่มีการฝังร่างของมนุษย์ไม่ว่าจะชายหรือหญิง รวมถึงเด็กๆลงไปในสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำเเพง สะพาน ฯลฯ
2
ซึ่งเรื่องเเบบนี้จะยิ่งเห็นได้ชัดในตอนที่สิ่งก่อสร้างนั้นพังทลายลงมาจนปรากฏร่างของศพให้เราเห็น อย่างในประเทศเยอรมัน ก็มีการพบศพผู้หญิงในกำเเพงปราสาท Niedar Manderschild ที่พังลงมาในปีค.ศ.1844
3
เเละถ้าจะยกตัวอย่างในไทยที่คนน่าจะรู้จักมากที่สุด ก็คงไม่พ้นเรื่อง”อิน จัน มั่น คง” คือเรื่องนี้เล่าสืบกันมาตั้งเเต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเเล้ว ว่าด้วยเรื่องของพิธีสร้างนคร สร้างเสาหลักเมืองหรือสร้างบ้าน ซึ่งพิธีจะทำตอนที่จะฝังเสาหลักเมืองหรือเสามหาปราสาท ก็จะนำคนเป็นๆลงไปฝังด้วย
โดยมีความเชื่อว่าจะให้คนๆนั้นตายไปเเละกลายเป็นผีที่คุ้มครองสถานที่เเห่งนั้นไม่ให้มีอันตรายอะไรเข้ามาทำร้ายเเก่กษัตริย์หรือผู้ปกครองบ้านเมือง ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกจับมาฝังลงไปก็ดันเป็นคนที่มีชื่อ”อิน จัน มั่น คง” เพราะมีความเชื่อว่าชื่อเหล่านี้เป็นชื่อมงคลเป็นการดีที่จะนำมาฝังให้เป็นผีเฝ้าสถานที่ต่อไป
2
เเละการสร้างกำเเพงขึ้นมาเพื่อปกป้องชาวเอลเดียของกษัตริย์ฟริทซ์ ก็มีที่มาจากเรื่องราวของกำเเพงเบอร์ลิน
กำแพงเบอร์ลิน ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามเย็น เเละสร้างไว้เพื่อกั้นระหว่างเยอรมนีตะวันออกที่ขณะนั้นอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหภาพโซเวียต กับเยอรมนีตะวันตกที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มประเทศตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเยอรมันฝั่งตะวันออกหลบหนีเข้าไปยังฝั่งตะวันตก
ในไททันเองราชาฟริซท์ก็สร้างกำเเพงขึ้นมาเพื่อกั้นไม่ให้ชาวเอลเดียเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกับชาวมาเลย์เเละผู้ถือครองพลังไททันที่ใช้พลังในทางที่ไม่ดี เเละเป็นการกันกันไม่ให้เกิดสงครามระหว่างเอลเดียกับมาเลย์ หรือสงครามไททันขึ้นมาอีก
เเละในภาคที่4 เป็นตอนที่มีเฉลยออกมาเเล้วว่าบรรพบุรุษของไททันผู้เป็นไททันตัวเเรกของโลกก็คือยูมีร์ ฟริซท์ ซึ่งต้นกำเนิดการเป็นไททันของยูมีร์นั้นคล้ายกับเรื่องราวในปกรนัมนอร์ส (Norse Mythology)
คือชื่อของยูมีร์ ฟริซท์เองก็เเปลงมาจากชื่อของยักษ์น้ำเเข็งตนเเรกในปกรนัมนอร์สที่ชื่อ”อีเมียร์" (Ymir) ซึ่งเป็นยักษ์ต้นกำเนิดของพวกยักษ์น้ำเเข็งตนอื่นๆ เเละอีเมียร์ยังเป็นต้นกำเนิดของยักษ์โจธัน ยักษ์ที่จะก่อสงครามในเวลาต่อมา
1
ซึ่งอีเมียร์กับยูมีร์ต่างกันนิดหน่อย ตรงที่อีเมียร์เป็นยักษ์เพศชาย เเต่ยูมีร์เป็นเด็กเพศหญิง ซึ่งตัวเนื้อเรื่อง Attack on titan เองก็อิงมาจากปกรนัมนอร์ส ตรงที่ยูมีร์เป็นไททันต้นกำเนิดของไททันหลายๆตนในเวลาต่อมา เหมือนอีเมียร์ที่เป็นต้นกำเนิดของยักษ์ฝ่ายน้ำเเข็งทุกตนเช่นกัน
7
เเละในปกรนัมนอร์สเองยังมีฉากที่อีเมียร์ถูกเทพโอดินเเละพี่น้องของเขาฆ่า เพราะอีเมียร์เป็นต้นกำเนิดของยักษ์โจธันที่ทำสงครามมานาน (ที่ต้องฆ่าอีเมียร์เพราะมีความเชื่อว่า หากทำลายต้นกำเนิดของยักษ์โจธันได้ โอดินเเละพี่น้องของเขาก็จะสามารถเอาชนะสงครามนี้ได้)
เเละหลังจากสังหารอีเมียร์ได้ โอดินเเละพี่น้องจะฉีกร่างของอีเมียร์ออก ซึ่งตรงกับใน attack on titan ที่ราชาฟริซต์นำร่างของยูมีร์ตัดเเบ่งเป็นส่วนๆ เพื่อให้ลูกทั้งสามก็คือมาเรีย โรเซ่ เเละซีน่ากิน ซึ่งสิดคล้องกับความเชื่อดั้งเดิมทางศาสนาของชาวเปรูที่มีการกินเนื้อพ่อเเม่ของตน เเละสอดคล้องกับพิธิกรรมการกินเนื้อมนุษย์ของชนพื้นเมืองคองโกในอดีต ที่เชื่อว่าเป็นการสังเวยดวงวิญญาณให้หัวหน้าเผ่ามีตำเเหน่งทางสังคมเท่าเดิมในชาติถัดไป)
1
เเละในปกรนัมยังกล่าวอีกว่า ร่างของอีเมียร์ถูกเเยกออกมาเป็น8ส่วนคือ 1 กายเนื้อถูกนำไปสร้างเป็นผืนดิน 2 เลือด ถูกนำไปสร้างเป็นน้ำเเละมหาสมุทร ลำคลอง เเละเเหล่งน้ำต่างๆ 3 สมองนำมาทำเป็นเมฆ 4 ฟันเป็นหินผา 5 ขนคิ้วเป็นทุ่งหญ้า 6 เส้นผมเป็นต้นไม้ 7 กระดูกเป็นภูเขา 8 กะโหลกเป็นท้องฟ้า
1
บางตำราบอกว่า กะโหลกถูกนำไปสร้างเป็นสะพานบางอย่างด้วย เเละอาจจะเป็นที่มาของสายธารที่เชื่อมโยงตัวยูมีร์ พลังไททัน เเละชาวเอลเดียเข้าด้วยกันก็ได้
ซึ่งชิ้นส่วนของยักษ์อูเมียร์จะสอดคล้องกับจำนวนไททันทั้งหมด9ตน(รวมตัวยูมีร์ที่เป็นต้นกำเนิดไปด้วย คือชิ้นส่วน8ชิ้น เป็นไททัน8ตน บวกตัวยูมีร์ด้วยอีก1 ก็เป็น9)
2
เเละในฉากที่ยูมีร์ได้หลบหนีการตามล่าเเละเข้าไปในถ้ำที่อยู่ด้านใต้มหาพฤกษา เธอตกลงไปยังเบื้องล่างของถ้ำเเละได้พลังของไททันมา คาดว่า มหาพฤกษาที่ยูมีร์เข้าไปนั้นดูคล้ายกับ อิกดราซิล (Yggdrasill) มหาพฤกษาศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานของชาวนอร์ส เเละตัวหนอนปรสิตที่มีพลังไททัน คาดว่าอาจจะเป็นพลังเวทส่วนหนึ่งในอิกดราซิล
ส่วนที่ยูมีร์มีพลังไททันเเล้ว เเต่ยังไม่หนีไปไหน เเละต้องเป็นทาสต่อไปจนวันตาย อันนี้อิงจากเรื่องช้างกับเชือก คือคนเลี้ยงช้างจะผูกขาช้างด้วยเชือกไว้เเต่เล็กๆ(เหมือนยูมีร์ที่กลายเป็นทาสตั้งเเต่เด็ก)
4
เเละด้วยความที่ช้างยังเล็ก มันดึงเชือกออกไม่ได้ เลยเกิดความเคยชินว่าหลุดไม่พ้นหรอก เเม้ในตอนนั้นมันจะโตมากพอที่จะดึงเชือกได้เเล้วก็ตาม เหมือนยูมีร์ที่เเม้จะได้พลังมา เเต่ก็ยังเคยชินกับการเป็นทาสจนกลับมาให้ราชาฟริทซ์องค์เเรกใช้งานต่อ
2
หลังจากชาวเอลเดียได้ถือครองพลังไททัน จึงเริ่มสร้างจักรวรรดิเอลเดียขึ้น พวกเขานำพลังไททันไปบุกทำลายเเละยึดครองดินเเดนชนชาติอื่น เช่นพวกชาวมาเลย์ที่ถูกเอลเดียรุกรานจนเป็นศัตรูคู่อาฆาตต่อกัน จนเกิดเป็นจุดเริ่มต้นยุคมืดของมวลมนุษยชาติ
จนในเวลาต่อมาชาวมาเลย์ได้ออกอุบายทำลายจากภายใน จนสามารถเเย่งชิงพลังไททัน มาได้7พลัง จากทั้งหมด9พลัง เเละสามารถเอาชนะสงครามไททันของชาวเอลเดียได้
กษัตริย์ฟริทซ์ผู้แพ้จึงอพยพชาวเอลเดียมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ไปยังเกาะสวรรค์แล้วสร้างกำแพงให้ผู้คนอาศัยอยู่ในนั้น ส่วนชาวเอลเดียที่ตกหล่นก็ตกเป็นทาสของชาวมาเลย์ ซึ่งตัวละครที่ชื่อกาบิ คือลูกหลานของชาวเอลเดียที่ไม่ได้ถูกอพยพไปพร้อมกับชาวเอลเดียคนอื่นๆ
เเละยังมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ของสองชาตินี้อยู่มาก ชาวเอลเดียมีประวัติศาสตร์ไททันอีกเเบบ ชาวมาเลย์ก็มีประวัติศาสตร์ไททันอีกเเบบ ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือนนี้ถูกนำมาใช้ในการสร้างชาติและจักรวรรดิของชาวมาเลย์
ทำให้ชาวมาเลย์รังเกียจและเห็นด้วยต่อการกดขี่ข่มเหงชาวเอลเดีย เเถมยังใช้พลังไททันที่เเย่งขิงมาได้ทำสงครามกับชนชาติอื่นไม่ต่างจากเอลเดียในอดีต และชาวเอลเดียส่วนใหญ่เองก็พร้อมก้มหน้ารับชะตากรรมจากสิ่งที่บรรพบุรุษก่อไว้ และยินยอมต่อการกดขี่ เเถมยังระเเวงกันเอง ฆ่ากันเอง รวมถึงเสนอตัวเป็นเเนวหน้าในการรบเพื่อปกป้องชาวมาเลย์เพียงเพื่อต้องการถูกยอมรับจากชาวมาเลย์
2
ก็จบลงไปเเล้วกับเกร็ดประวัติศาสตร์ใน Attack on titan ถ้าชอบอย่าลืมกดไลก์เเละกดเเชร์เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
อ้างอิง
โฆษณา