21 เม.ย. 2021 เวลา 13:47 • การศึกษา
อาชีพเสริม ทำงานที่บ้านได้ ได้เงินจริง ปี 2021
หาเงินออนไลน์
จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดโรคระบาดจาก ไวรัสโควิด-19 ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ปรับตัวไปสู่การทำออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่งานที่ต้องเดินทางเพื่อไปออฟฟิศก็ปรับตัวเป็นออนไลน์แทบจะ 100% ทำให้มีคนตกงานจำนวนมาก เพราะตำแหน่งงานที่สามารถทดแทนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ก็จะถูกเลิกจ้างไปเกือบหมดแล้ว
ดังนั้นในโลกหลังยุคโควิด-19 แทบจะไม่ต้องฟันธงเลยว่าอาชีพที่ไม่ปรับตัวให้ทำออนไลน์ได้มีโอกาสไม่รอดสูงมาก ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันบ้างนะครับว่า ถ้าเราอยากจะหาเงินออนไลน์ อยากจะรอดไม่ตกงานในยุคถัดไป มีวิธีไหนบ้างที่เป็นที่นิยมและได้เงินจริงกันบ้าง
1. Dropshipping
ดรอปชิป เป็นวิธีการหาเงินที่จับคู่กันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายมาเจอกัน ยกตัวอย่างเช่น เรานำสินค้าจาก Aliexpress.com มาลงขายในเว็บไซท์ของเราโดยใช้ระบบของ Shopify เพื่อดำเนินการซื้อขาย จ่ายเงิน ส่วนการจัดส่งนั้นทางร้านค้าใน Aliexpress จะดำเนินการจัดส่งให้ในนามของผู้ขาย
ถ้าเรียกกันง่ายๆก็คือ จับแพะ ชนแกะ เราทำหน้าที่เป็นคนกลาง หน้าที่ของเราหลักๆคือ การปรับแต่งร้านให้ดูน่าเชื่อถือ สร้างแบรนด์ให้คนจดจำว่าร้านเราขายอะไร ยิ่งร้านที่ขายสินค้าเฉพาะทาง (Niche) มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าร้านที่ขายสินค้าหลากหลาย
คนซื้อจะมาจากที่ไหน คนส่วนใหญ่คิดว่าการทำ Dropshipping ดู้หมือนจะง่าย แต่ส่วนที่ยากที่สุดคือการหาคนมาซื้อต่างหาก โดยช่องทางการหาคนมาซื้อนั้นมีหลากหลายวิธี โดยวิธีที่คนิยมทำกันคือ
1. Facebook Ads
2. Google Ad, Google Shopping
3. Instagram Influencer
4. Pinterest Ads
ซึ่งแต่ละวิธีนั้นล้วนแล้วแต่ต้องใช้ทักษะหลายอย่างมาผสมกัน เช่น การสร้างร้านให้มีความน่าเชื่อถือ การลงโฆษณาใน Platform ต่างๆ การดีลกับร้านค้าต้นทางให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และ ต่อรองต้นทุนให้ถูกลง
ซึ่งถ้าเกิดร้านขายดีมากๆ การทำคนเดียวอาจจะไม่ทัน และคนไทยเองนั้นก็อาศัยอยู่ในโซนที่เวลต่างกับลูกค้าหลักของการ Dropship ที่ลูกค้ามักจะอยู่ที่ประเทศอเมริกา เป็นที่มาว่าคนทำดรอปชิป นิยมใช้ VA หรือ Virtual Assistance ที่เป็นคนต่างประเทศมาทำงานแทนเราในจุดที่ต้องใช้เวลามาก เช่น การตอบคำถาม การส่งคำสั่งซื้อ
ทั้งหมดนี้ก็คือ ภาพคร่าวๆของการทำดรอปชิป สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้จากผู้ให้บริการ เช่น Shopify หรือ Oberlo เพิ่มเติมได้ครับ
2. Print on Demand (POD)
Print on demand หรือ การที่เราขายเสื้อที่เราออกแบบเองให้กับคนทั่วโลก วิธีการทำมีความคล้ายกับ Dropship แตกต่างตรงที่สินค้านั้น เราต้องออกแบบเอง ความยากจะอยู่ที่เราจะหาตลาดที่เราจะทำ เช่น ถ้าเราจะทำตลาดสุนัข เราก็ออกแบบกราฟฟิค สุนัขน่ารักๆ แยกเป็นพันธ์ต่างๆ หรือ ทำเป็นข้อความที่โดนใจคนที่รักสุนัข
การออกแบบไม่ใช่เราทำแบบเดียวแล้วจบ ต้องเข้าใจก่อนว่า เราคิดว่าที่เราออกแบบนั้นสวยงามแต่จะโดนใจคนซื้อ หรือ ขายได้หรือเปล่านั้นอีกเรื่องหนึ่ง วิธีที่นิยมกันในโลกออนไลน์นั้นคือ การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด และ การดูคู่แข่ง เพื่อนำมาปรับแต่งเป็นสไตล์ของเราเอง
ส่วนการหาคนมาซื้อนั้น ช่องทางก็เหมือนกันกับ Dropship เมื่อมีคนมาซื้อสินค้าของเราแล้ว ต้นทางที่เป็นผู้ให้บริการ Print on demand ก็จะทำการสกรีนเสื้อ แล้วส่งให้เรา เจ้าที่นิยมกันก็คือ Teespring นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่นๆนอกเหนือจากเสื้อผ้าแล้วก็มี แก้วน้ำ ของใช้ต่างๆให้เราได้ออกแบบลายไปขายได้อีกเยอะมากครับ
3. Affiliate Marketing
การหาเงินออนไลน์ที่เนที่นิยมมาเกือบ 20 ปี และทุกวันนี้ยังได้รับความนิยมอยู่ คือ Affiliate ซึ่งก็คือการที่เรานำสินค้าของคนอื่นมาขายโดยเราได้รับค่าตอบแทนเป็นคอมมิชชั่น เป็นวิธีหาเงินที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุด ผมเองเริ่มหาเงินจากวิธีนี้เลยรู้ว่า ถ้าทุนน้อยวิธีนี้ง่ายที่สุด เพราะเราแค่นำลิ้งสินค้าจากต้นทางไปแนะนำตามช่องทางต่าง
วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำ Affiliate คือ การที่เราทำ SEO หรือ การฝากลิ้งตามแหล่งต่างๆที่กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ เช่น Facebook Group, Webboard ถ้าเป็นที่นิยมในเมืองไทยอย่างเช่น Pantip.com เราสามารถไปโพสท์ให้ความรู้และแนบลิ้งค์ Affiliate ของเราก็ได้เช่นกัน
ถ้าเริ่มมีทักษะขึ้นมาหน่อยเราก็สร้างคอนเทนต์ตาม Youtube หรือ Fanpage โปรโมทสินค้าของคนอื่น แต่อยากจะแนะนำไว้สักนิดว่า การที่เราโปรโมทสินค้าของคนอื่น การจะทำให้คนอื่นรวยแต่เราได้ผลตอบแทนนิดหน่อย ไม่ใช่การทำงานที่รอบคอบสักเท่าไหร่ แนะนำว่าเราควรสร้างสินทรัพย์ของตัวเองไว้ด้วย เช่น การเก็บลูกค้าไว้กับตัวเราเอง ที่ต่างประเทศนิยมใช้ Email List Building เพื่อเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล ส่วนในเมืองไทยเราสามารถใช้ ควบคู่กับ Line Official Account เพราะคนไทยจะชอบแชทกันมากกว่าอ่านอีเมล์
Affiliate Network ที่ดังๆมีคนทำกันทั่วโลก เช่น Amazon.com. Cj.com, Shareasale, Maxbounty, Clickbank, Digitstore24
ของไทยก็มี เช่น Accesstrade.in.th, Amo.in.th, Involve.asia
สนใจเจ้าไหนลองไปสมัครกันดูนะครับ
4. หารายได้จาก Youtube
Youtube ได้ชื่อว่าเป็น Search Engineอันดับ 2 ของโลกรองจาก Google ถึงแม้จะมีคู่แข่งที่น่ากลัวออกมาเช่น Tiktok แต่ถ้าเราคิดถึงเรื่องการหาความบันเทิงแบบ คุณภาพ ก็ต้องนึกถึง Youtube ที่เดียวแน่นอน
ผมเชื่อเลยว่า ความรู้สมัยนี้นั้นหาเรียนตามตำรา หรือ หนังสือ เข้าเรียนตามสถาบันต่างๆบอกเลยว่าไม่ทันกินครับ เพราะอะไรๆ มันไปเร็วกว่าแสงซะแล้ว ความเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นแทบจะทุกวินาที แล้วการเรียนรู้แบบเก่าจะไปทันกันได้ยังไง
Youtube ตอนนี้มาแทนที่ TV ไปเรียบร้อยแล้วครับ เราทุกคนสามารถเป็นคนที่มีตัวตน มีชื่อเสียงได้ง่ายๆ เพียงแค่มีมือถือ มีอินเตอร์เน็ต มีของดีอยู่กับตัว ซึ่งก็คือ ความเข้าใจสิ่งที่คนดูต้องการ เรามีหน้าที่ผลิตคอนเทนต์ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการนั้นๆ
รายได้ออนไลน์ที่มาจาก Youtube มีมากมายหลายช่องทางครับ ให้นึกไว้ว่า Youtube คือ ช่องทางที่จะทำให้คนมาเจอเราแบบฟรีๆ ส่วนเราจะเปลี่ยนคนดูเป็นรายได้ ได้อย่างไร อยู่ที่ไอเดียของเรา แนะนำว่าให้คิดไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะทำช่องยูทูปนะครับ
ช่องทางการหาเงินจาก Youtube เช่น
- Google Adsense
- Affiliate Marketing
- Sponsorship
- Digital Product
- สินค้าของเราเอง
คนที่มีความรู้ หรือ มีสินค้าบริการ มีอะไรที่คนบางกลุ่มต้องการ เรานำสิ่งนั้นออกมานำเสนอใน Youtube กันครับ ไม่มียุคไหนที่อะไรจะง่ายไปกว่าตอนนี้แล้ว เริ่มตอนนี้ยังทันครับ
5. Influencer
การเป็นคนที่มีคนติดตามและสามารถชี้นำความคิดของคนติดตามได้ แบบนี้เขาเรียก Influencer ที่บ้านเราอาจจะเรียกกันง่ายๆว่า ไอต้าว หรือ ไอดอล นั่นเองครับ คนติดตามตั้งแต่หลักพัน เราก็เรียกว่า Nano influencer จนไปถึงหลักล้านคนติดตาม
ทำไม Influencer ถึงได้รับความนิยม นั่นก็เพราะยุคนี้ออนไลน์มันเชื่อมถึงคนทุกชนชั้น ดังนั้น ไอดอลเองก็แบ่ง Segment ตามกลุ่มคนต่างๆ อย่าแปลกใจว่า เด็กแว้นซ์ ที่เป็นคำที่ดูหมิ่น วัยรุ่นที่นิยมซิ่งมอเตอไซค์ ก็กลายเป็นไอดอลได้ นี่คือการเปลี่ยนแปลงของยุคไอที ที่คนรุ่นเก่าอาจจะตามไม่ทัน
ทีนี้ประโยชน์ของการไป Influencer คือ เจ้าของสินค้าหรือบริการที่ต้องการซื้อสื่อก็นิยมไปลงโฆษณากับคนกลุ่มนี้เพราะได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่า ดารา ศิลปิน ที่โปรโมทสินค้าแทบจะทุกชนิด จนคนเริ่มไม่เชื่อแล้วว่าเขาใช้สินค้าจริงๆหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นไอดอลที่เราติดตามชื่นชม เราก็มีโอกาสจะเชื่อได้มากกว่า
การจะเป็น Influencer นั้นง่ายมาก แค่หาตัวตนให้เจอ หากลุ่มเป้าหมายของเราให้เจอ และสร้างเอกลักษณ์ขึ้นมาเพื่อให้คนมาติดตาม บางคนอาจจะมีแค่มือถือก็สามารถแจ้งเกิดได้ ยกตัวอย่างเช่น แรงงานชาวกัมพูชา ที่เต้นใน Tiktok โดยฉากหลังมีเพียงแค่สังกะสี เขาใช้แค่นี้ก็สามารถสร้างอคนเทนต์ที่ไวรัล และเกิดการเลียนแบบไปในวงกว้าง สินค้าต่างๆติดต่อเข้ามาเป็น พรีเซ็นเตอร์กันมากมาย
อ่านเนื้อหาเต็มๆได้ที่ วิธีหาเงินออนไลน์ ได้เงินจริง ปี 2021 https://sienped.blog/
โฆษณา