22 พ.ค. 2021 เวลา 08:47 • ประวัติศาสตร์
เรื่องมหัศจรรย์ คำๆ นี้ สิ่งที่คิด ต้องเป็นบรรยากาศที่น่าทึ่ง ชวนติดตาม และเหนือความคาดหมาย แน่นอนการที่จะได้เห็นไม่ใช่เรื่องง่าย และถ้าถามว่า "มหัศจรรย์" มีปัจจัยอะไรบ้าง ที่ทำให้เกิดขึ้น ก็คงหลายอย่าง แต่สิ่งที่ต้องมี คือ แรงปราถนาอันแรงกล้า และความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และโชคชะตา
2 มหาอำนาจของโลก สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ความสัมพันธ์เห็นก็ทรงๆ ทรุดๆ ตลอด คือว่าจะให้ฝ่ายไหนยอมก่อน แบบว่า "ฉันผิดเอง เธออยากให้ฉันชดใช้อะไรให้ละ... " คงเป็นไปไม่ได้ เป็นไม้เบื่อไม้เมา แข่งกันตลอด อย่างยาวนาน ไม่ว่าเรื่องสังคม การทหาร เทคโนโลยี และกีฬา
ในเรื่องกีฬา ที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน ก็หลายครั้งหลายคราที่สู้กันแบบตื่นตาตื่นใจ แต่ถ้าครั้งไหนที่หักปากกาเซียน และสร้างความช้ำใจให้อีกฝ่ายอย่างที่สุดละก็ ตัวผมนึกย้อนไปถึงครั้งที่รัสเซีย ยังคงเป็นสหภาพโซเวียต สมัยยังมีสงครามเย็นกันอยู่ นานไหม??? นานจริง !_!
Miracle on Ice เป็นคำที่สื่อ ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้จนติดปาก เรื่องราวน่าสนใจขนาดที่บริษัทยักษ์ใหญ่ยังเอามาทำเป็นภาพยนตร์จอเงินให้ดูกัน บอกแค่นี้เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่าน คงพอเดาออกแล้วว่า ผมจะนำเสนอเรื่องอะไร
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 13 จัดที่ Lake Placid, New York, USA สหรัฐอเมริกา ปี 1980 การแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็ง ระหว่างเจ้าภาพสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ในรอบเหรียญรางวัล - Medal Round วันที่ 22 กุมภาพันธ์
ตัวอย่าง เหรียญทอง ในการแข่งขันที่ Lake Placid
ต้องขออธิบายตรงนี้ซักนิดก่อนว่า กฎกติกาในการแข่งขันขณะนั้น จะมีรอบแบ่งกลุ่มก่อน แข่งแบบพบกันหมด นำที่ 1 และ 2 ในแต่ละกลุ่ม มาแข่งในรอบเหรียญรางวัล แบบพบกันหมดอีกครั้ง ทีมไหนได้คะแนนดีที่สุด จะได้เหรียญทองไปครอง การนับคะแนนชนะได้ 2 คะแนน เสมอ 1 และแพ้ไม่ได้คะแนน
ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่จะมาเจอกันนัดชิงชนะเลิศ ให้จบรู้เรื่องในทีเดียว
สหภาพโซเวียต เป็นแชมป์เก่า เจ้าของเหรียญทองมาแล้ว 4 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1964 ที่ออสเตรีย และยังไม่เคยปราชัยในการแข่งขันโอลิมปิกเลย ตั้งแต่ปี 1968 ผู้เล่นต่างเป็นระดับ World Class จัดว่าเป็นมือดีที่สุดของโลกในหลายตำแหน่ง และมีประสบการณ์ระดับชาติมาหลายรายการ ถือว่าน่าเกรงขามอย่างมาก หัวหน้าโค้ชในตอนนั้นชื่อ Viktor Tikhonov
Viktor Tikhonov, Head Coach สหภาพโซเวียต เสียชีวิตในปี 2014
สหรัฐอเมริกา นำทีมโดยผู้จัดการทีม และควบหัวหน้าโค้ชที่ชื่อ Herb Brooks โดยที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นมือสมัครเล่น มีประสบการณ์แค่ในระดับมหาวิทยาลัย และอายุเฉลี่ยของทีมอเมริกาชุดนี้อยู่ที่ 22 ปี 5 เดือน น้อยที่สุดในทัวร์นาเมนต์
Herb Brooks ในปี 1983
ทำไมถึงมีความห่างชั้นกันมากแบบนี้ ปัญหาหลักมาจากที่ทางโอลิมปิก หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จำกัดความว่า "สมัครเล่น" ไม่ชัดเจน ฝั่งประเทศที่มีลีกอาชีพ อย่าง แคนาดา และอเมริกา ก็ไม่เอาผู้เล่นในลีกอาชีพ NHL-National Hockey League ของตัวเองมาแข่ง
ฝั่งสหภาพโซเวียต ผู้เล่นถูกจำกัดความ ว่ามีอาชีพอื่นด้วย เช่น ทหาร การแข่งขันก็เป็นแบบรายการของภายในองค์กร ไม่เข้าข่ายอาชีพ แต่ผู้เล่นเหล่านี้มีการฝึกซ้อมแบบเต็มเวลา ผ่านรายการระดับสโมสร และทีมชาติ มีประสบการณ์อย่างโชกโชน
มีการส่งเรื่อง ประท้วงไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล กว่าจะมีการปรับกฎกัน ก็หลังจากนี้ครับ ตอนนั้นสหภาพโซเวียตมองมุมไหนก็แชมป์ยิ่งกว่านอนมา
คือให้เอามือดีที่สุดในลีกมา ก็ใช่ว่าจะรอด ในปี 1979 ก็คือเมื่อปีที่แล้ว ในถ้วย Challenge Cup ทีม NHL All-Stars เจอสหภาพโซเวียต ยังโดนไป 6-0
ทีมสหภาพโซเวียต ปี 1980 - The 1980 USSR Olympic ice-hockey team
ต้องบอกว่าทีมสหภาพโซเวียต ณ ตอนนั้น เป็นเบอร์ 1 ของโลก ที่ทิ้งทีมอื่น ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา สวีเดน ฟินแลนด์ ที่ตามมา ไปไกลหลายช่วงตัว
อีกทั้งไม่กี่วัน ก่อนที่โอลิมปิกใน Lake Placid จะแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทีมสหรัฐอเมริกาชุดนี้ ก็ได้ลองปะทะฝีมือ ในแมตซ์กระชับมิตร - Exhibition Game ที่ Madison Square Garden ในมหานคร New York ซึ่งผลก็ตามคาดฝั่งโซเวียตสอนเชิงไปเบาๆ 10-3
คือตามเนื้อผ้าอเมริกาเป็นรองอย่างมาก แต่ถ้าไล่ดูผลงานตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าผลงานของอเมริกาก็ไม่แย่อะไร ออกจะดีเกินคาดด้วยซ้ำ
เสมอสวีเดน 2-2
ชนะเชคโกสโลวาเกีย 7-3
ชนะนอร์เวย์ 5-1
ชนะโรมาเนีย 7-2
ชนะเยอรมันตะวันตก 4-2
ฺกลุ่มน้ำเงิน Blue Division
เข้ารอบเหรียญรางวัล คู่กับสวีเดน
ส่วนอีกกลุ่ม สหภาพโซเวียต
ถล่มญี่ปุ่นไป 16-0
เนเธอร์แลนด์อีก 17-4
โปแลนด์ 8-1
ฟินแลนด์ 4-2
และแคนาดา 6-4
กลุ่มแดง Red Division
ผ่านเข้ารอบต่อไปตามคาด พร้อมฟินแลนด์
เข้ามาสู่เกมการแข่งขัน
เวลาแข่งทั้งหมด 60 นาที แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 20 นาที
ครึ่งแรก - First period
เหมือนจะเป็นอย่างทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา โซเวียตนำก่อน นำเร็ว ถ้าอเมริกาเปิดแลกคงไหลยาว เกมเป็นฝั่งโซเวียตทำได้ดีกว่า แต่อเมริกาก็มาตามตีเสมอได้ จากลูกยิงไกลจาก Buzz Schneider เข้ามุมสูงเสียบเสาสองอย่างสวยงาม สหภาพโซเวียตเร่งเกมอีกครั้ง และนำไป 2-1 จาก Sergei Makarov เกมจะจบครึ่งอยู่แล้ว ผู้เล่นอเมริกา Dave Christian มีจังหวะยิงไกล Tretiak ป้องกันได้ แต่เหมือนไปตั้งลูกให้ Mark Johnson ตามมาเก็บ และลากผ่านเขา ยิงยัดเสาแรก สกอร์ครึ่งแรกจบที่เสมอ 2-2 ตัว Tikhonov หัวหน้าโค้ชสหภาพโซเวียต หัวเสียกับจังหวะนี้มาก
จังหวะตีเสมอ 2-2
ครึ่งสอง - Second period
โค้ชโซเวียตเปลี่ยนผู้รักษาประตูมือหนึ่งออก จาก Tretiak เป็น Myshkin ต้องบอกว่าสร้างความประหลาดใจทั้งผู้เล่น และกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย การเปลี่ยนผู้เล่นสำคัญ ในแมตซ์ที่กดดันแบบนี้ แทบไม่มีให้เห็น นอกเสียจากได้รับบาดเจ็บ ฝืนไม่ไหวจริงๆ แต่ครึ่งสองนี้ Myshkin ก็ไม่ได้ทำผิดพลาดอะไร แถมเกมโดยรวมโซเวียตยังเหนือกว่า โอกาสยิง 12-2 เป็น 1 ประตู จบครึ่งสองสหภาพโซเวียตนำอเมริกาอยู่ที่ 3-2
ครึ่งสุดท้าย - Third period
อเมริกาถึงไม่มีอะไรจะเสีย แต่เกมก็เป็นรอง โอกาสยิงก็น้อย มันยังไงๆ แต่จู่ๆ Vladimir Krutov ก็ไปทำฟาวล์ยกไม้สูงหวดใส่ผู้เล่นอเมริกา เลยถูกทำโทษให้อยู่ใน Penalty box อเมริกาถ้าไม่อาศัยบุกจังหวะนี้ ก็คงหาไม่ได้อีกแล้ว ความพยายามสำริดผลในประมาณนาทีที่ 9 David Silk ตามตีเสมอได้สำเร็จ และเมื่อโมเมนตัมพลิกกลับมา และอเมริกายังได้บุกอีกครั้ง Mike Eruzione ได้ลูกจากที่แทงตรงมากลางสนาม หวดเต็มแรง ทแยงมุมผ่าน Myshkin ที่ถูกกองหลังบังอยู่ อเมริกาพลิกกลับมานำ 4-3 ในช่วงอึกใจ
แต่ยังเหลืออีก 10 นาที สหภาพโซเวียตเร่งเครื่องเต็มที่ ถ้าเปรียบดั่งพายุ ก็เฮอริเคนเข้าหน้าบ้านละครับ ผู้เล่นอเมริกา ตั้งรับสุดกำลัง ด้วยสามารถที่เหนือกว่า ฝั่งโซเวียตหาจังหวะเข้าทำ จะแจ้งได้หลายครั้ง แต่ก็ไม่ผ่านมือ Jim Craig ที่เฝ้าประตูอยู่
จาก 10 นาที เหลือ 5 กองเชียร์เจ้าถิ่น เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เหลือ 1 นาที จนกระทั่งนับถอยหลังที่ 5 วินาที สุดท้ายออดหมดเวลาดังขึ้น สหรัฐอเมริกาทำได้ ผู้เล่นทั้งหมดต่างวิ่งกรู ลงไปกอดกันในสนาม
3
ทีมสหรัฐอเมริกา เมื่อจบเกม
Herb Brooks รีบพาตัวเองหลบไปในห้องล๊อกเกอร์ คาดว่าคงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ส่วนสหภาพโซเวียต ต่างเฝ้ามองด้วยความสงบในแดนตัวเอง และรอเพื่อจับมือสุดท้ายหลังเกมจบตามธรรมเนียม
ผลการแข่งขันก็สำคัญ แต่ศักดิ์ศรีของชาติสำคัญกว่า แบบที่ว่า ประธานาธิบดีในขณะนั้น Jimmy Carter ต้องต่อสายตรงเข้ามาแสดงความยินดีกันเลยทีเดียว
หลังเกม ที่นักข่าวกำลังสัมภาษณ์ และประธานาธิบดีต่อสายเข้ามา
ย้ำอีกครั้งว่า แมตซ์นี้ไม่ใช่นัดชิงชนะเลิศ รอบเหรียญรางวัล - Medal Round นี้ ก็ต้องพบกันหมด ถ้านัดหน้าสหรัฐอเมริกาไปแพ้ฟินแลนด์ ที่ทำมาวันนี้ก็หมดกัน
แต่มาขนาดนี้ก็คงไม่พลาด สหรัฐอเมริกาปิดงานด้วยการชนะฟินแลนด์ไป 4-2 คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่
พิธีมอบเหรียญรองวัล
สหภาพโซเวียตได้เหรียญเงิน โดยถล่มสวีเดนไป 9-2
ตัว Herb Brooks ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก เนื่องจากเป็นคนคัดตัว วางแผน และกระตุ้นลูกทีมสารพัด
แน่นอนว่าความมหัศจรรย์ ไม่ใช่จะมากันบ๋อยบ่อย หลังเกมที่ Lake Placid เมื่อทั้งคู่มีโอกาสเจอกัน โซเวียตจัดหนักกลับ แบบไม่ยากเย็นอะไร
ปี 1981 รายการ Canada Cup เมือง Edmonton สหภาพโซเวียต 4-1 อเมริกา
ปี 1982 Ice Hockey World Championships - รายการชิงแชมป์โลก ที่ประเทศ Finland สหภาพโซเวียตชนะอเมริกาไป 8-4
และทั้ง 2 รายการนี้ สหภาพโซเวียตคว้าแชมป์มาครองได้ทั้งหมด ถึงจะมาสะดุดในโอลิมปิกครั้งนี้ แต่ทีมโซเวียตก็ยังคงยืนหนึ่ง ทำสถิติไม่แพ้รายการชิงแชมป์โลกจนถึงปี 1985 และที่สำคัญหลังจากเกมนี้ สหภาพโซเวียตก็ไม่เคยแพ้สหรัฐอเมริกาอีกเลย จนกระทั่งสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991
Herb Brooks เสียไปนานแล้วนะครับ ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ Forest Lake, Minnesota ในวันที่ 11 สิงหาคม 2003 คาดว่าจะเป็นการหลับใน
ในปี 2004 หรือราว 6 เดือนหลังจากการเสียชีวิต ก็มีการสร้างรูปหล่อของเขาที่หน้าทางเข้า RiverCentre ใน Saint Paul, Minnesota เพื่อเป็นที่ระลึก ต่อมาได้มีการสร้างใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม โดยเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่ปี 2017
รูปหล่อของ Herb Brooks ที่สร้างใหม่
และในปี 2004 ทาง Disney ก็ได้ออกภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์มหัศจรรย์ครั้งนั้นโดยใช้ขื่อหนังว่า "Miracle" ผู้ที่แสดงเป็นตัว Herb Brooks และเป็นบทสำคัญในเรื่อง เป็นดาราดังอย่าง Kurt Russell ( ที่จริงเหตุการณ์นี้เคยถูกนำถ่ายทอดทางจอโทรทัศน์แล้วตั้งแต่ปี 1981 ผู้ที่รับบท Herb Brooks ครั้งนั้น คือ Karl Malden )
ปี 2005 ในโอกาสครบรอบ 25 ปี เหตุการณ์ Miracle on Ice สนามที่แข่งขันครั้งนั้น ที่เมือง Lake Placid, New York ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Herb Brooks Arena
The Herb Brooks Arena in Lake Placid, New York, USA | PHOTO : WIKI
ปี 2006 Herb Brooks ถูกบรรจุชื่อใน Hockey Hall of Fame ที่ตั้งอยู่ในเมือง Toronto รัฐ Ontario ประเทศ Canada ในหมวด Builders คือ ผู้ที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ และพัฒนาวงการฮอกกี้น้ำแข็งให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
Hockey Hall of Fame ที่เมือง Toronto | CR : wiki
Hall of Fame หรือหอเกียรติยศนี้ ในวงการฮอกกี้น้ำแข็ง จะมีหลักๆ อีก 2 ที่ คือ United States Hockey Hall of Fame ตั้งอยู่ที่เมือง Eveleth, Minnesota และ International Ice Hockey Federation (IIHF) ที่เมือง Zürich ประเทศ Switzerland ตัว Herb Brooks ก็ถูกบรรจุชื่ออยู่ในทั้ง 2 ที่นี้ ตั้งแต่เขามีชีวิตอยู่แล้ว ในปี 1990 และ 1999 ตามลำดับ แต่หอเกียรติยศที่ตั้งในแคนาดาจะเก่าแก่ที่สุด
ปี 2013 ในเดือนเมษายน สนามแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งของมหาวิทยาลัย St. Cloud State ก็เปลี่ยนชื่อเป็น Herb Brooks National Hockey Center เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา และถนนที่ผ่านสนามถูกเรียกว่า Herb Brooks Way อีกด้วย โดย Herb Brooks ก็เคยทำหน้าที่โค้ชฮอกกี้น้ำแข็งของที่นี้ด้วย ช่วงปี 1986 – 1987
Herb Brooks National Hockey Center
ปี 2021 Herb Brooks เป็นหนึ่งในรายชื่อที่ถูกเลือกโดยประธานาธิบดี Donald Trump ในขณะนั้น ให้อยู่ใน National Garden of American Heroes - อนุสรณ์สถานสำหรับระลึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของอเมริกา
REFERENTS - ข้อมูลอ้างอิง
1 นาทีก่อนจบ : https://www.youtube.com/watch?v=qYscemhnf88
PHOTO CREDIT :
Herb Brooks -> John Autey / Pioneer Press
The 1980 USSR Olympic ice-hockey team -> ITAR-TASS/SOVFOTO UIG/GETTY IMAGES
โฆษณา