แค่ความเก่งทำไมถึงยังไม่เพียงพอ?
ทำไมคนเก่งจึงไม่ประสบความสำเร็จ? นี่คำถามที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเราโดนสอนมาตลอดว่าให้ตั้งใจเรียน ทำคะแนนให้ได้สูงๆ เพื่อที่โตขึ้นมาจะได้ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีตัวอย่างมากมายที่คนเก่งในสมัยวัยเรียนบางคนกลับดูไม่ได้ไปไกลเท่าไหร่เมื่อเริ่มต้นการใช้ชีวิตจริง
John C. Maxwell ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Talent Is Never Enough เชื่อว่า พรสวรรค์และสติปัญญาเพียงอย่างเดียวนั้น #ยังไม่เพียงพอ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ แต่จะต้องมีปัจจัยอื่นๆ ผสมผสานด้วย
1. ต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในศักยภาพของตัวเอง ( Belief )
ต่อให้เก่งและมีความสามารถแค่ไหน แต่ถ้าคนผู้นั้นไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองก็ยากที่ประสบความสำเร็จ คนที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีความเชื่อมั่นว่า ตนเองมีความสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน
2. ต้องมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ( Passion )
พลังแห่งความมุ่งมั่น คือ การที่เรามุ่งมั่นว่า เราจะต้องทำในสิ่งที่เราปรารถนา ให้ประสบความสำเร็จให้จงได้ และเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และแม้ว่าจะเจออุปสรรคขวางกั้นสักแค่ไหนก็ไม่ยอมแพ้โดยเด็ดขาด John C. Maxwell เชื่อว่า คนที่มีสติปัญญาไม่สูงมากนัก แต่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ย่อมสามารถเอาชนะคนที่มีสติปัญญาสูงแต่เบื่อหน่ายไร้แรงจูงใจได้
เพราะเมื่อมีความมุ่งมั่นมาจากข้างใน จะทำให้กิริยาท่าทาง คำพูด และการกระทำเต็มไปด้วยพลัง คำพูดจะน่าเชื่อถือ มีความกระตือรือร้น
3. มีจินตนาการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ( Initiative )
จินตนาการนั้นถึงจะสำคัญ แต่การเอาแต่จินตนาการแต่ขาดการลงมือทำก็ไม่ต่างอะไรจากการฝันกลางวัน การจินตนาการจึงต้องมีการลงมือกระทำด้วยเสมอ การพยายามริเริ่มความคิดที่สร้างสรรค์จะช่วยพัฒนาสติปัญญาและช่วยให้สิ่งต่างๆ ที่วาดฝันไว้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
3. มีสมาธิ ( Focus )
สมาธิคือ การจดจ่อกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเสร็จแล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปทำสิ่งอื่น โดยในระหว่างที่ลงมือกระทำจะต้องไม่คิดเรื่องอื่น ไม่คิดถึงเรื่องอดีต และต้องไม่กังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง สมาธิจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดความกระตือรือร้น และมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ เพราะคนที่มีสมาธิจะไม่หัวเสียไปกลับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่จะพุ่งสมาธิไปสู่เป้าหมายที่วางไว้เท่านั้น
4. มีการเตรียมตัว ( Preparation )
การเตรียมตัวนั้นถือว่า เป็นการให้เกียรติตนเองและผู้อื่น เช่น ในกรณีที่เราจะต้องนำเสนอโครงงานให้เพื่อนร่วมงานฟัง เราควรเตรียมตัวไปล่วงหน้า ถึงแม้ว่าเราจะเคยนำเสนอโครงงานนี้มาแล้วก็ตามที เพราะในการนำเสนอแต่ละครั้งสถานการณ์ย่อมเปลี่ยนแปลงไป ทั้งในแง่ของกลุ่มผู้ฟัง ตัวผู้พูดเอง และสถานการณ์รอบข้างที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงไม่ควรประมาท ควรเตรียมตัวก่อนล่วงหน้าทุกครั้งทั้งในเรื่องการนำเสนอและการเจรจาทางธุรกิจ เป็นต้น
5. มีการฝึกฝน ( Practice )
ดาบต่อให้คมแค่ไหนแต่ถ้าไม่เคยใช้ ไม่เอาออกมาลับ ดาบเล่มนั้นก็จะทื่อการฝึกฝนจะช่วยให้เราเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น และรู้จักตัวเองมากขึ้น
6. มีความมานะบากบั่น ( Perseverance )
ในเรื่องนี้ตัวของ John C. Maxwell ได้ยกตัวอย่างของ วอลท์ ดิสนีย์ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะต้องเพียรพยายามในการขอเงินกู้มากกว่าสามร้อยครั้งเพื่อใช้เป็นเงินทุนในการสร้างดิสนีย์แลนด์แห่งแรกในลอสแองเจลลิส แต่เขาก็ไม่ย่อท้อเพราะเขาเชื่อว่า สิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขาล้มเลิกความพยายามได้ก็คือ ความสำเร็จจากการที่เขาพยายามทำสิ่งเหล่านั้นนั่นเอง
7. มีจิตใจเข้มแข็งและกล้าหาญ ( Courage )
ความกล้าหาญในที่นี้คือ ความกล้าที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ทั้งความสมหวังและความผิดหวัง
8. มีความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ( Teachability )
คนที่ประสบความสำเร็จจะมีลักษณะเป็นคนน้ำครึ่งแก้วตลอดเวลา เขามีจิตใจที่เปิดกว้างและคิดอยู่เสมอว่าตนเองนั้นมีความรู้เพียงน้อยนิด จำเป็นจะต้องค้นคว้าและเปิดใจยอมรับความรู้ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเขาเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จมากมายแค่ไหนก็ตาม
9. มีลักษณะนิสัยที่ดี ( Character )
บุคลิกลักษณะในที่นี้คือ ในสายตาของหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง มองเราเป็นคนอย่างไร ฉะนั้น หากอยากจะประสบความสำเร็จ เราจะต้องพยายามปรับตัวและทำตัวเป็นคนดี ไม่ว่านิสัยเดิมของเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม หากมีนิสัยใดที่ไม่ดี ก็ต้องพยายามแก้ไขเพราะไม่มีคนใดที่อยากจะทำงานกับคนที่มีนิสัยที่ไม่ดี เช่น นิสัยพูดจาขวานผ่าซาก พูดจาเสียดสีนินทาว่าร้ายผู้อื่น หรือทำอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ นอกจากนั้นโดยทั่วไปแล้วมนุษย์มักเลือกที่จะจดจำนิสัยที่ไม่ดีของผู้อื่นมากกว่านิสัยที่ดี ดังนั้นแล้ว ภาพพจน์และชื่อเสียงนั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องรักษาไว้ดั่งชีวิต เพราะพลาดครั้งเดียวเท่ากับทำลายภาพพจน์ที่ดีที่เคยสั่งสมมา ให้หายไปได้ภายในพริบตาเดียว
10. มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ( Relationship )
การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างนั้น ตัวเราเองจะต้องเป็นคนพยายามปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น มีน้ำใจ และพยายามอะลุ้มอล่วย ในสิ่งที่พอจะทำได้ โดยจะต้องไม่ขัดต่อหลักการความถูกต้อง นอกจากนั้น เราควรเลือกบุคคลที่จะคบหาสมาคมด้วย เพราะอารมณ์ ความคิด คำพูด และการกระทำของคนรอบข้างจะต้องกระทบเราอย่างหลีกเลี่ยงเสียไม่ได้ การเลือกคบคนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
11. มีความรับผิดชอบ ( Responsibility )
ผู้ที่ประสบความสำเร็จเวลาที่เกิดปัญหาจะไม่โบ้ยความผิดให้คนอื่น ไม่โทษสภาพแวดล้อม แต่เขาจะพิจารณาตัวเองเป็นอันดับแรก และพร้อมยืดอกรับว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตนเอง
12. มีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ( Teamwork )
คนหนึ่งคนนั้นเชี่ยวชาญได้ไม่กี่เรื่อง และคนเพียงคนเดียวก็ไม่สามารถทำทุกอย่างได้เสียหมด การทำงานให้ประสบความสำเร็จจึงจำเป็นต้องอาศัยบุคคลที่มีความสามารถในหลายๆ ด้านเข้ามาช่วยกันระดมสมอง เพื่อขยายขอบเขตของจินตนากาให้กว้างมากขึ้น ฉะนั้น คนที่จะประสบความสำเร็จได้จะต้องสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และจะต้องเน้นเรื่องงาน เป็นหลักมากกว่าเรื่องส่วนตัว
จะเห็นได้ทั้ง 12 ปัจจัยนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ EQ มากกว่า IQ แน่นอนว่าความเฉลียวฉลาดนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่การมี IQ แต่ขาด EQ ก็ส่งผลเสียหลายอย่างเช่น สื่อสารกับใครไม่เข้าใจ เข้ากับสังคมไม่ได้ และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีเท่าที่ควร ดั้งนั้น การพัฒนา EQ ควบคู่ไปกับ IQ จึงเป็นเรื่องสำคัญนั่นเอง
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
