23 เม.ย. 2021 เวลา 01:12 • ครอบครัว & เด็ก
"อยากดับไฟ....ในใจลูก"
เมื่อภูเขาไฟระเบิด สิ่งที่ทำได้
คือ "การรอ" เพื่อให้ภูเขาไฟสงบ
อารมณ์ของลูกก็เช่นกัน
เวลาที่ไม่ได้ดั่งใจ ก็มักจะมีพฤติกรรม
●หงุดหงิด เกรี้ยวกราด
●เสียใจ ร้องไห้
●กรี๊ด ทำเสียงดัง
และมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจในแบบต่างๆ โดยเฉพาะเด็กในวัย 2-6ขวบ
ฉะนั้นหากลูกระเบิดอารมณ์ก็ต้องรอให้สงบเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอาย ไม่ต้องกลัวขายหน้า
เพราะเด็กวัยนี้ เป็นวัยแห่งการต่อต้าน และอยากเรียนรู้เป็นปกติอยู่แล้วเนื่องจาก สมองส่วนสัญชาตญาณและส่วนอารมณ์จะพัฒนาเต็มที่ในวัยเด็ก
1
แต่สมองส่วนเหตุผลยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่
ขอย้ำนะคะว่า...สมองส่วนเหตุผลยังพัฒนา
ไม่เต็มที่!
ฉะนั้น เมื่อลูกระเบิดอารมณ์
1.อย่าใช้ความรุนแรงทั้ง คำพูด และการกระทำ เพื่อให้ลูกหยุดพฤติกรรมนั้นทันที ให้พ่อแม่สูดลมหายใจลึกๆเพื่อสงบ อารมณ์ตัวเองก่อน
2.อย่าพยายามสอน หรืออธิบาย ตอนที่ลูกยังมีอารมณ์โกรธ เพราะเมื่อเด็กกำลังมีอารมณ์โมโห สมองส่วนอารมณ์กำลังทำงาน เด็กจะปิดการฟังเหตุผลทั้งหมด
พูดอะไรตอนนี้ไม่เข้าหูแน่นอน
3.บอกลูกว่า พ่อแม่จะให้เวลาหนูได้อยู่กับตัวเอง เพื่อให้ลูกสงบลง และอย่าทิ้งลูกไปไหน ให้อยู่ข้างๆ จะกอดลูก หรือจะยังไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ เพื่อรอลูกสงบอารมณ์ไปพร้อมๆกัน
4.เมื่อลูกสงบลง บอกชื่อเรียกของอารมณ์ นั้นให้ลูกได้รู้จัก เช่น เมื่อกี๊ที่หนูร้องไห้และกรี๊ดเสียงดังออกมา เรียกว่า "การระเบิดอารมณ์" ครั้งต่อไปจะได้ใช้ชื่ออารมณ์นี้สื่อสารกับลูก
5.เมื่อดับภูเขาไฟได้ ค่อยถามลูกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถามสิ่งที่ลูกรู้สึก และใช้เหตุผลสอน ว่าสิ่งที่ลูกทำเป็นอย่างไร ควรทำหรือไม่
นี่คือเหตุผลสำคัญ ที่พ่อแม่ต้องค่อยๆ
ฝึกฝนการใช้ สมองส่วนหน้า (Executive Function) หรือ ทักษะสมองเพื่อจัดการชีวิต
เพราะเมื่อใดที่สมองส่วนเหตุผล ถูกฝึกฝนให้แข็งแรงพอ ลูกจะสามารถใช้เหตุผลในการควบคุมสมองส่วนอารมณ์ให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสมได้เอง
#เพราะว่าลูกไม่สามารถเลือกพ่อแม่ได้
#แต่พ่อแม่เลือกที่จะเป็นพ่อแม่แบบไหนได้
#ไดอารี่มนุษย์ลูก
โฆษณา