กองทัพรัสเซียรุกคืบ ลาวอนุมัติให้สร้างฐานทัพหมีขาวในประเทศ
จับตาการขยายอิทธิพลเครมลินบนคาบสมุทรอินโดจีน
จับตามความเคลื่อนไหวของอีกหนึ่งชาติมหาอำนาจที่เวลานี้กำลังรุกคืบต่อการขยายอิทธิพลทางทหารในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งก็คือรัสเซีย โดยหลายปีก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า รัสเซียมีแผนที่จะสร้างฐานทัพ พร้อมสนามบินทหารในประเทศลาว บนพื้นที่ราว 3,000 ไร่
ล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วว่าประเทศลาวให้รัสเซียสามารถตั้งฐานทัพในประเทศพร้อมทั้งการปรับปรุงสนามบินเก่าให้เป็นสนามบินทหารที่มีความใหญ่โตกว่าเดิม ในพื้นที่แขวงเซียงขวาง ชายแดนระหว่างลาวและเวียดนาม และเคยเป็นสมรภูมิสู้รบในช่วงสงครามเวียดนามเมื่อ 46 ปีที่แล้ว
สำนักข่าว Radio Free Asia รายงานโดยอ้างถึงข้อมูลจากสำนักข่าว Sputnik News ของรัสเซียว่า ฐานทัพแห่งนี้จะใช้เพื่อการขยายความร่วมมือทางทหารของรัสเซียไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยากจน รวมถึงการฝึกอบรมและการพัฒนากองกำลังติดอาวุธในอนาคต
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทีมเจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้เข้าพื้นที่เพื่อทำการกู้ระเบิดที่ยังคงตกข้างอยู่บริเวณพื้นที่ที่จะเป็นจุดตั้งของฐานทัพและสนามบิน ซึ่งเป็นระเบิดที่ตกค้างมาตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม พร้อมกับทำการเคลียร์พื้นที่ก่อนดำเนินการก่อสร้าง
สำหรับแผนการปรับปรุงสนามบินจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการปรับปรุงสนามบินทหารให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับเครื่องบินกองทัพได้มากขึ้น ส่วนที่ 2 จะใช้เป็นสนามบินของพลเรือนสำหรับเครื่องบินโดยสารที่ให้บริการกับประชาชนในแขวงชายแดน ซึ่งที่ตั้งของสนามบินก็ตั้งอยู่ที่บริเวณติดกับทุ่งหินไห พื้นที่ทางโบราณคดีสำคัญและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2019
นอกจากสนามบินแล้วรัสเซียยังตั้งใจที่จะขยายความร่วมมือทางทหารกับลาว ซึ่งจะรวมถึงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อฝึกทหารลาวเกี่ยวกับวิธีการใช้ยุทโธปกรณ์ของรัสเซียตามข้อตกลงเรื่องความมั่นคง
🔵 ฐานที่มั่นของอดีตโซเวียต สู่พื้นที่ขยายอิทธิพลรัสเซียในอินโดจีน
ประเทศลาวถือว่าเป็นประเทศที่มีการปกครองในระบอบสังคมนิยม มีรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ที่ครองอำนาจมาอย่างต่อเนื่อง และความใกล้ชิดของทั้งสองประเทศเกิดขึ้นนับตั้งแต่ยุคที่รัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียต ที่มีอิทธิพลในการเผยแพร่ระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งลาว เวียดนาม และกัมพูชาในยุคหนึ่งก็รับรูปแบบการปกครองนี้มาใช้จนถึงทุกวันนี้
ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศเด่นชัดและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2018 ลาวได้สั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ไอพ่น Yak-130 จำนวน 4 ลำ และรถถัง T-72 จำนวน 10 คันจากรัสเซีย หลังจากการเยือนกรุงมอสโกของนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว (นายกรัฐมนตรี) เมื่อปีก่อน ซึ่งทั้งสองชาติได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางทหาร ต่อมารถถัง 4 คันแรกถูกส่งมอบให้กระทรวงกลาโหมของลาวโดย บริษัท Rosoboronexport ของรัสเซีย และเข้าร่วมในขบวนสวนสนามในปี 2019 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 70 ปีของกองทัพประชาชนลาวในนครหลวงเวียงจันทน์
เดือนเมษายน 2019 สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียและลาวได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือทางทหารระหว่างสองประเทศในการประชุมนานาชาติเรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศที่กรุงมอสโกโดยอ้างถึง พลเอก จันสะหมอน จันยะลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาว แต่รายงานไม่ได้ให้รายละเอียดถึงข้อตกลงดังกล่าว
และเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วลาวได้เปิดเผยแผนการสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักบินโซเวียตสองคนที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ประชาชนไม่พอใจอย่างมากที่รัฐบาลนำเงิน 775,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 24 ล้านบาท ที่ควรจัดสรรไว้สำหรับโครงการที่น่าจะใช้ในการแก้ไขปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดยรูปปั้นของนักบินรัสเซียที่ตั้งอยู่ในลาวเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงตัวตนทางทหารของรัฐบาลมอสโกในประเทศเพื่อนคอมมิวนิสต์ที่รัสเซียเคยปกครองในระบอบดังกล่าว ซึ่งในเวลานั้นนักบินรัสเซียทั้งสองเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่จังหวัดเซียงขวางขณะปฏิบัติภารกิจ
ตามรายงานบนเว็บไซต์ของกระทรวงกลาโหมลาว พลเอก จันสะหมอน จันยะลาด ได้พบกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศลาว นายวลาดิเมียร์ คาลินิน ที่สถานทูตรัสเซียในเวียงจันทน์เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2020 และขอบคุณที่รัสเซียที่มอบโรงเก็บเครื่องบินสำหรับเก็บรถถังในจังหวัดเซียงขวาง ทั้งยังแสดงความขอบคุณสำหรับการฝึกร่วมทางทหารที่จัดขึ้นในจังหวัดเมื่อปี 2019 การให้ความช่วยเหลือในการกู้ระเบิดที่ตกค้าง การอัพเกรดสนามบิน และการสร้างสำนักงานของผู้แทนทหารรัสเซียในจังหวัดเซียงขวาง
🔵 อิทธิพลที่ไม่เคยจางหาย ลูกเล่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่เรื่องทหาร
หากประเทศจีนคือผู้มีอิทธิพลต่อลาวในเรื่องของการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทาง และการค้าขาย รัสเซียก็คือผู้ทรงอิทธิพลด้านทหาร กองทัพ และอาวุธโทปกรณ์ เพราะเป็นผู้จัดหาอาวุธรายรายใหญ่ที่สุดให้กับลาวหลังจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของลาวซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่มีแนวร่วมกับอดีตสหภาพโซเวียต สาขาเวียดนามที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1975
ตามรายงานใน The Diplomat ระบุว่า เมื่อเดือนมกราคมความช่วยเหลือของรัสเซียต่อลาวครั้งล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของลาวในฐานะดินแดนสำคัญในการขยายอิทธิพลทางทหารเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาบสมุทรอินโดจีนตามความปรารถนาของรัสเซีย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งว่านี่คือการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต่อประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ที่กำลังมีความสุ่มเสี่ยงต่อการยั่วยุและปะทะกันทุกเมื่อระหว่างจีน และประเทศคู่ขัดแย้งต่างๆ ที่พยายามอ้างกรรมสิทธิ์เหนือผืนน้ำบริเวณนี้ รวมทั้งสหรัฐฯ ที่พยายามมีอิทธิพลต่อสถานการณ์ดังกล่าว
แต่เรียกได้ว่ารัสเซียน่าจะรุกหนักที่สุดโดยอาศัยฐานเดิมที่เคยมีต่อพรรคคอมมิวนิสต์ลาว ในรูปแบบความช่วยเหลือต่างๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อซื้อใจลาวที่ไม่ใช่แค่เรื่องทางทหารเพียงอย่าเดียว เพราะในเดือนมกราคม TASS อ้างถึงเอกอัครราชทูตรัสเซียกล่าวว่า มอสโกและเวียงจันทน์ได้ตกลงที่จะส่งมอบวัคซีน Sputnik V ที่ผลิตเองในรัสเซียจำนวน 2 ล้านโดสซึ่งจะใช้ในการฉีดวัคซีนให้กับประชากรประมาณ 25% ของประเทศลาวอีกด้วย
คงต้องจับตาความเคลื่อนไหวนี้ให้ดี เพราะเวลานี้คาบสมุทรอินโดจีนถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ชาติมหาอำนาจต่างร่วมวงลงกินโต๊ะผลประโยชน์ที่มีอย่างมหาศาล ซึ่งไม่เพียงแค่มหาอำนาจโลกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศน้อยใหญ่ที่เลือกจะอยู่กับมหาอำนาจแต่ละฝั่งอีกด้วย
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
Website : reporter-journey.com
Blockdit : blockdit.com/reporterjourney
Facebook : facebook.com/reporterjourney
Tiktok : tiktok.com/@reporterjourney
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
