#หิ้วสตั๊ดล่าฝัน
เพราะ รองเท้าฟุตบอล คู่แรก ที่หาซื้อตามท้องตลาดในวันนั้น สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเด็กหนุ่มคนนี้ ไปตลอดกาล
(บุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา นักฟุตบอลอาชีพ ครับ)
.
ถ้าวงการฟุตบอลสมัยนี้ คงไม่มีใครไม่คุ้นชินกับ ชื่อ เจ้าบุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลางดาวรุ่ง วัย 22 ปี ผู้ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์ของไทยลีก ของสโมสร สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด
.
ด้วยอายุ 15 ปี 9 เดือน 22 วันในขณะนั้นครับ จึงเป็นที่น่าจับตามองมากกว่า จะเป็นตัวความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลไทย และ ทัพช้างศึกในอนาคตอย่างแน่นอนครับ แต่กว่าจะยืน ณ จุดบนความสำเร็จที่ทุกคนได้เห็นดั่งในวันนี้ได้ มันไม่ได้มาง่ายๆ
.
เหมือนที่ ทุกๆคนเห็นนะครับ เจ้าบุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา เขาเติบโต ที่ อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เด็กบ้านนา ขนาดแท้ ครับ โดย ครอบครัวของ บุ๊ค นั้น ทำอาชีพ ขาย ก๋วยเตี้ยว จึงทำให้ บุ๊ค ได้เติบโตมา ในการช่วยงานที่บ้าน ทำหน้าที่ทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็น
.
เด็กเสริฟ ล้วกเส้นก๋วยเตี้ยว ผนักงานขาย ในร้านก๋วยเตี๋ยวของ ธุรกิจ ทางบ้าน เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก บุ๊ค เคยทำมาหมดแล้วครับ เรียกง่ายๆว่า อาชีพค้าขาย บุ๊ค ก็จะมีหน้าที่ช่วยที่บ้าน นอกเหนือจากการ เตะฟุตบอล และ เรียนหนังสือ ครับ ต่อมากระบวนการล้มลุกคลุกคลาน ในเส้นทาง นักฟุตบอล ของบุ๊ค ก็เริ่มขึ้นทันที
.
ที่ว่ามีคุณ พ่อ เป็นอดีต นักฟุตบอล ระดับอำเภอ ในจังหวัด เชียงราย มาก่อน พอมีเวลาว่างจากการทำงาน ก็จะฝึกปรือ ศาสตร์ลูกหนังให้ลูกชาย หัวแก้วหัวแหวนอย่างเจ้า บุ๊ค ไว้ติดตัวครับ โดยไม่ได้คาดหวังว่า จะให้ลูกชาย เป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่อย่างใด เพียงแต่ อยากให้ลูกชาย ได้ออกกำลังกายสุขภาพจะได้แข็งแรง แต่แล้ว จากความชอบ จึงกลาย มาเป็นความรัก แบบไม่ทันตั้งตัว
.
ที่ เจ้าบุ๊ค ดันรักกีฬานี้ไปแบบเต็มๆที่ทุกๆวัน เขาจะนั่งดูการแข่งขันฟุตบอลในไทยลีก ทั้งสด และ เทป ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ในทุกวันครับ และ มีความฝัน ขึ้นมาที่ว่า จะต้องเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ที่โลดแล่นในเวที ไทยลีก ให้ได้เมื่อโตขึ้น จนคุณพ่อ มอบสิ่งที่มีค่าที่สุดของนักฟุตบอลให้นั้นก็คือ ซื้อรองเท้าสตั๊ดคู่แรกให้
.
โดยไม่ใช่รองเท้าสตั๊ดของแท้นะ ครับ เป็นรองเท้าปลอมตามตลาดนัด คู่ละ 200-300 บาท เพราะว่าผมยังไม่ค่อยมีเงินที่จะไปซื้อของแท้ ก็ให้บุ๊คใส่ เตะฟุตบอล นั้นยิ่งเป็นจุดประกายในเส้นทางนักฟุตบอลของบุ๊ค อย่างแรงกล้าครับ ให้ เจ้าบุ๊ค เดินสายพัฒนาฝีเท้า ใน ทีมฟุตบอลจังหวัดเชียงรายรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ทั้งที่ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
.
ก่อนผ่านการคัดตัวจนคว้าโควตานักฟุตบอล เข้าเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียน อบจ.เชียงราย และ ปรือฝีเท้าในการฝึกซ้อมฟุตบอลอย่างเอาจริงเอาจัง จนเมื่อ บุ๊ค ขึ้น มัธยมศึกษา ปี ที่ 2
.
ได้โอกาสเข้าไปคัดตัวเป็นนักฟุตบอลระดับเยาวชนของ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลอาชีพ ในถิ่นบ้านเกิดของตัวเองครับ เพื่อไปลองหาประสบการณ์ และ เรียนรู้วิถีของฟุตบอลเยาวชน ที่มีคุณพ่อและ คุณแม่ของบุ๊ค พาไปคัดตัวครับ ซึ่งเมื่อไปถึง ก็เกิดคำถาม เดียวขึ้นมาในหัวครับว่า จะมีชื่อติดหรอ เด็กมาคัด นับร้อย แต่ บุ๊ค เด็กยอดนักสู้ในวันนี้ ไม่สนจำนวนคน เขาโฟกัส อยู่ที่คำว่า โอกาส เมื่อ โอกาส ได้โลดแล่นเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ปล่อยมันทิ้งไปเด็ดขาด
.
เต็มที่ทุกนัดที่ลงคัดตัว สู้สุดหัวใจ จนสุดท้าย ผลประกาศรายชื่อ คนที่ได้รับคัดเลือก เป็นเยาวชนของสโมสร หนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ บุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา อยู่ในนั้นด้วยครับ ถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด ที่เด็กหนุ่มยอดนักสู้คนนี้ จะได้รับ ครับ และ เป็นก้าวแรก ในการปูทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ แต่สิ่งหนึ่ง ที่ บุ๊ค จะต้องพบเจอ และ เรียนรู้ในการอยู่กับมันให้ได้ นั้นก็คือ การอยู่คนเดียวเพียงลำพัง ให้ได้ จากบ้านเกิด จาก พ่อ และ แม่ มาเข้าแคมป์ สโมสร เพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ แต่ต้องแลกมาด้วยจิตใจที่เข็มแข็งขึ้น โดย ในช่วงเวลานั้น บุ๊ค เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า
.
พ่อและ แม่โทรหาผมทุกวัน ครับ มันเป็นเหมือนกับ แหล่งพลังงานชั้นดี ที่ทำให้ผมรู้สึก สบายใจ และ มีกำลังใจอยากสู้ต่อ ผ่านการเป็นห่วงของครอบครัวผมในสายโทรศัพท์ ครับ
.
“ในเวลาที่ผมได้รับบาดเจ็บ ผมจะ บอกพ่อแม่ เป็นคนแรก เลยครับ นั้นจึงเป็นสิ่งที่ผมทำได้ และ กำลังใจ มาทุกครั้ง มาเติมเต็ม จิตใจนักสู้ของผมครับ เพราะว่ามันเป็นอาชีพของผมเอง ครับ
.
และ นับจาก ที่ เจ้าบุ๊ค ได้ล้มลุกคลุกคลาน ในเยาวชนของสโมสร ปรับตัวอยู่นาน วันที่ผมรอคอย ก็มาถึงครับ เมื่อ เจ้าบุ๊ค ถูกเรียกไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ทั้งที่ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ก่อนได้รับโอกาสสัมผัสฟุตบอลไทยลีก ขนาดแท้ ในปี 2015 ด้วยวัย 15 ปี 9 เดือน 22 วัน ครับ นับเป็นปรากฏการณ์ ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ เจ้าบุ๊ค กลายเป็น ผู้เล่นอายุ น้อยที่สุดในไทยลีก เวลา นั้นที่มีชื่อลง สนาม และ สามารถ ทำประตู ให้กับทีมได้ นั้น จึงเป็นการ ปูทางในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว ของ เจ้าบุ๊ค ครับ
.
ก่อน อีก 2 ปีถัดมา จะถูกปล่อยยืมตัวไปหาประสบการณ์ ถิ่นสโมสรใหม่อย่าง สโมสร เชียงราย ซิตี้ เพื่อไปเรียนรู้ศาสตร์ลูกหนัง และ สั่งสมประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด จากนั้นไม่นาน ก็มาสร้างชื่อเสียง ในถิ่น สโมสร เชียงใหม่ ในสัญญายืมตัวอีกครั้ง ที่สโมสร แห่งนี้ ได้เป็นตัวเสริมสร้างความั่นใจผ่านการลงสนามเป็นตัวจริงเกือบทุกเกมส์ ส่งผลให้ ฟอร์มการเล่น ของเจ้าบุ๊ค พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จนไปถึงการมีรายชื่อติดทีมชาติไทยในชุดเยาวชน รุ่นอายุ 19 ปี
.
ตั้งแต่นั้น ก็เป็นตัวหลักทั้งในนามสโมสร เชียงใหม่ และ ทีมชาติในชุดเยาวชนมาโดยตลอด จนกระทั่ง ในปีเดียวกัน เจ้าบุ๊ค จะหมดสัญญายืมตัวลง จึงทำให้ สโมสร ต้นสังกัด อย่าง สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มั่นใจ และ ดึงเด็กหนุ่มเนื้อหอมรายนี้กลับมาเป็นอนาคตของสโมสร ต่อ
.
ในวัย 20 ปี เริ่มพบความสำเร็จบนเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของตัวเอง ทั้งการคว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 กับสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และคว้าตำแหน่งนักเตะไทยที่ยิงประตูได้มากที่สุดในฤดูกาลดังกล่าว และ กระทั่ง ก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่
.
อันเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของนักฟุตบอลสัญชาติไทยทุกคนก็มาถึง ที่บุ๊คมีรายชื่อติดทีมช้างศึก ทีมชาติได้ชุดใหญ่ได้สำเร็จ นับเป็นความฝันสูงสุด และ เป็นความภูมิใจของครอบครัวตระกูล ปัญญา จาก อำเภอพญาเมงราย จะได้รับ
.
และอีก 2 ปี ถัดมา เจ้าบุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา ก็กลายเป็นขวัญใจมหาชน เป็นตัวหลักทั้ง สโมสร และ นามทีมชาติ และ ชีวิตจากเด็กหนุ่มธรรมดา ก็กลายเป็นตัวความหวังของประเทศไทย
.
เรื่องราวทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนของครอบครัว และ จิตใจที่มุ่งมั่นและ ไม่ล้มเลิกของ เจ้าบุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา นักฟุตบอลอาชีพ และ ทีมชาติไทย
.
.
เขียนโดย สตั๊ดฟุตบอล
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
