ทั้งหมดนี้ทั้งมวลเรื่องที่นำมาเสนอก็เพราะอยากจะให้หลายๆคนเข้าใจว่าตัว business model ของกลุ่มลีซซิ่งไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่คิด เหมือนที่บางคนอาจจะติดว่าทำไม npl น้อยจัง ใช้วิธีทางบัญชีหรือเปล่า แนวๆ too good to be true แต่ถ้าเราลองลงไปดูในกระบวนการจริงๆแล้วจะพบว่าวิธีการเหล่านี้แหละที่ทำให้ npl กลุ่มนี้มันน้อย ที่เหลือก็เป็นการตัดสินใจของเราแล้วว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้หรือข้ามมันไป แต่ผมชอบประโยคนึงในหนังสือนักลงทุนดันโดมากคือ 'ออกหัวผมได้เงิน แต่ออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย' หลักการลงทุนแบบนี้ก็เหมือนกับกลุ่มลีซซิ่ง ก็คือถ้ากำไรก็กินเต็ม แต่ถ้าขาดทุนก็แค่นิดหน่อย นี่คือเหตุผลว่าทำไมกำไรสุทธิของบริษัทกลุ่มนี้ถึงได้สูงเหลือเกินครับ