Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องของปราชญ์
•
ติดตาม
23 เม.ย. 2021 เวลา 23:16 • ข่าว
สหรัฐเตรียมลดปล่อยมลพิษครึ่งหนึ่งในปี 2030
วานนี้โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐได้แถลงให้คำมั่นสัญญาว่าสหรัฐจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 50% ภายในค.ศ.2030 โดยหนทางหลัก ๆ คือการปฏิวัติด้านการขนส่งที่ต้องเปลี่ยนพาหนะไปเป็น EV มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องลด ละ เลิก โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ไบเดนยังบอกอีกว่าถ้าเดินได้ตามแผน ไม่เกินปี 2050 สหรัฐจะลดการปล่อยก๊าซพิษได้ 100%
ขอบคุณภาพจากผู้จัดการออนไลน์
ตั้งแต่ก่อนการระบาดของโควิด-19 กระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อมของชาวโลกที่เอารู้เอาชี้กับความเป็นไปของบ้านหลังใหญ่ที่เรียกว่าดาวเคราะห์สีฟ้าแห่งนี้ ทำให้เราเริ่มเห็นหลายบริษัทหันมาให้พนักงานทำงานที่บ้านกันมากขึ้นเพื่อลดการเดินทางและการใช้พลังงานจำนวนมากที่สำนักงาน ถึงขั้นที่บางบริษัทแนวสตาร์ทอัพบางแห่งไม่มีสำนักงานด้วยซ้ำ
และเมื่อโควิด-19 ระบาด หลายประเทศใช้มาตรการล็อคดาวน์ ยังผลให้จำนวนคนที่ต้องทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พอถึงสิ้นเดือนบริษัทก็ยิ้มกรุ้มกริ่มเพราะค่าไฟลดไปหลายเท่าตัวกระทั่งสื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่าบริษัททั่วโลกจะหันมาใช้รูปแบบนี้กันมากขึ้นแม้ว่าโรคระบาดแห่งทศวรรษนี้จะจากไปแล้วก็ตามเพราะบริษัทมีแต่ได้กับได้
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของ WSP UK บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมระบุว่า การทำงานจากบ้านอาจช่วยด้านสิ่งแวดล้อมได้ในบางฤดูกาลเท่านั้น!
สำหรับประเทศที่ต้องอาศัยเครื่องทำความร้อนในฤดูหนาว การทำงานจากบ้านอาจทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากกว่าให้ทุกคนไปนั่งทำงานในออฟฟิศเสียอีก เนื่องจากการจัดการพลังงานของอาคารขนาดใหญ่มีความซับซ้อนกว่าที่บ้านของแต่ละคนมาก
สำหรับประเทศเมืองหนาว การทำงานที่บ้านจะช่วยสิ่งแวดล้อมได้เฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่คนไม่ได้เปิดฮีทเตอร์เท่านั้น แต่เมื่อฤดูหนาวมาเยือนก็มีแนวโน้มว่าคนที่ทำงานที่บ้านจะต้องเปิดฮีทเตอร์ทั่วบ้าน แม้จะนั่งทำงานอยู่ในห้องเดียวก็ตาม
สำหรับประเทศที่พึ่งพาการใช้เครื่องปรับอากาศทำความเย็น การใช้พลังงานก็จะยิ่งสูงกว่าการทำความร้อน การส่งเสริมให้คนทำงานที่บ้าน แล้วทุกคนก็เปิดเครื่องปรับอากาศที่บ้านกันก็อาจทำให้มีการใช้พลังงานรวมกันสูงกว่าไปนั่งทำงานที่ออฟฟิศแล้วใช้เครื่องปรับอากาศที่นั่น
นอกจากนี้ประสิทธิภาพในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากการทำงานที่บ้านในแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างหลากหลายมาก เช่น นอร์เวย์ ซึ่งผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ทำให้มลพิษจากการคมนาคมลดล่วงหน้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง ดังนั้นการทำงานที่บ้านจึงมีผลที่ต่างจากการไปทำงานที่ออฟฟิศไม่เท่าไหร่ ต่างจากชาติที่ยังใช้ยานพาหนะที่บริโภคน้ำมันซึ่งปล่อยมลพิษมากกว่าอยู่แล้ว เมื่อมีการทำงานที่บ้าน ลดการคมนาคม จึงดูเหมือนเกิดผลดีกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
หรือกรณีของเมืองใหญในบางประเทศที่ผู้คนใช้ระบบขนส่งสาธารณะกันมากอยู่แล้ว การทำงานจากบ้านก็ไม่ได้ช่วยลดจำนวนรถยนต์ที่วิ่งบนถนนไปได้มากนัก (แต่อย่างกรุงเทพนี่ถ้าลดได้แบบช่วงปีใหม่/สงกรานต์จะยืนยันได้ดีเลยว่ามลพิษลดลงมหาศาล)
นอกเหนือจากนั้น ยังต้องพิจารณาแหล่งที่มาของพลังงานอีกด้วย เพราะบางพื้นที่ก็ใช้พลังงานที่ยั่งยืนกว่าอีกหลายพื้นที่ เช่น ไอซ์แลนด์ที่ใช้พลังงานความร้อนใต้พื้นพิภพที่สะอาดทั้งในบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์
หรืออังกฤษที่บางพื้นที่ก็ใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานน้ำ แต่บางพื้นที่ในอังกฤษก็ยังใช้พลังงานถ่านหิน สองพื้นที่นี้ก็จะมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณมลพิษต่างกันหากใช้วิธีวัดแบบเดียวกัน
อีกปัจจัยที่สำคัญที่จะต้องพิจารณาก็คือ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเริ่มมีมากขึ้นและราคาถูกลง แต่ก็ไม่ได้ถูกถึงขั้นที่ปัจเจกบุคคลจะสามารถลงทุนปรับปรุงบ้านตัวเองให้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ได้ ขณะที่อาคารสำนักงานต่าง ๆ มีกำลังในการลงทุนด้านนี้ได้มากกว่าทำให้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วมลพิษที่เกิดจากบ้านอาจมีมากกว่าสำนักงานเสียอีก
นอกจากสิ่งแวดล้อมแล้วก็อย่าลืมเรื่องค่าใช้จ่ายที่บริษัทผลักภาระให้ลูกจ้างด้วยนะครับ เราคงสัมผัสกันมาแล้วว่าการทำงานที่บ้านโดยเฉพาะหน้าร้อนที่ร้อนจริงร้อนจังของไทยทำให้ค่าไฟพุ่งจากร้อยเป็นพัน จากพันเป็นหลายพันกันมาแล้ว
อย่างไรก็ตามหากในช่วงการแพร่ระบาดของเจ้าโควิด-19 นี้คงต้องดูแลสุขภาพของเราไว้ก่อน ใครทำงานที่บ้านได้ก็ทำเพื่อเซฟตัวเอง ใครต้องไปข้างนอกก็ระวังตัวให้ดีที่สุด อาจเสียค่าไฟเพิ่มขึ้นบ้าง อาจปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นบ้าง แต่อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่เวลาปกติ ทว่ามันคือช่วงวิกฤตที่ชีวิตเราจะเป๊ะทุกเรื่องไม่ได้แล้ว!
ยังไงก็ขอให้ทุกคนปลอดภัย อยู่ร่วมโลกอย่างใส่ใจต่อสุขภาพตนเอง คนรอบข้างและสิ่งแวดล้อมไปนาน ๆ ครับ 🙏
อ้างอิง (
https://voicetv.co.th/read/tYeU6wVZe
)
บันทึก
1
7
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เขียนจากข่าว
1
7
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย