มารู้จักยาสีฟันกัน
ยาสีฟัน เชื่อกันว่าถูกคิดค้นโดยชาวอียิปต์เมื่อประมาณ 5000 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งเชื่อว่าการกำเนิดของยาสีฟันนั้นน่าจะเกิดก่อนแปรงสีฟัน ซึ่งชาวอิยิปต์โบราณ ผู้ร่ำรวย และฟาโรห์ต่างก็ให้ความสำคัญกับความสะอาดและสุขภาพของช่องปากเป็นอย่างมาก
ยาสีฟันสูตรแรกชองชาวอิยิปต์โบราณนั้นประกอบไปด้วย เกลือสินเธาว์ ดอกไอริสแห้ง พริกไทยและสะระแหน่บดเป็นเนื้อละเอียดด้วยน้ำเล็กน้อย ซึ่งเจ้าส่วนผสมยาสีฟันโบราณนี้มีอนุภาคทำลายล้างเหงือกเป็นอย่างมาก เพราะส่วนผสมนี้จะทำให้เลือดไหล แต่กลับมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันอย่างดีและทำให้มีลมหายใจหอม สดชื่น นอกจากนี้ ชาวอิยิปต์บางคนก็ได้พัฒนาสวนผสมขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยขี้เถ้าของกีบวัว และเปลือกไข่ที่ถูกเผาอีกด้วย
ส่วนผสมยาสีฟันอิยิปต์โบราณ
แล้วยาสีฟันของชาวกรีก-โรมันหละ???
พวกเขาเองก็ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมคล้ายกับของชาวอียิปต์ แต่เริ่มพัฒนาสูตรโดยเพิ่มสารกัดกร่อนลงไปในยาสีฟันด้วย ซึ่งทำเพิ่มอนุภาคในการทำความสะอาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนผสมที่ว่านั้นก็คือกระดูกบด และเปลือกหอยนางรมนั่นเอง นอกจากนี้ ขาวโรมันยังได้เพิ่ม charcoal หรือถ่านลงไปด้วย เพื่อให้ลมหายใจสดชื่นยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ บางชนิดยังคงใช้อยู่ในยาสีฟันทุกวันนี้อีกด้วย!
ผ่านมาประมาน 500 ปีก่อนคริสตกาล ชาวจีนและชาวอินเดียก็ได้ใช้ส่วนผสมเดียวกันกับสูตรข้างต้น แต่น่าจะไม่กลมกล่อมสมใจชาวจีน พวกเขาเลยเพิ่มส่วนผสมเข้าไปเช่น โสม สมุนไพร มิ้นต์ และเกลือ
"Pearly white and bright." Written by: Ratna Drost, MA.
ปี ค.ศ. 1700 - ขนมปังปิ้ง??
วัฒนธรรมโบราณส่งผลมาเรื่อย ๆ ทำให้ยาสีฟันในยุคนี้เป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง
ในขณะเดียวกัน ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างส่วนมาก มักจะใช้ขนมปังอบที่ไม่ใช้แล้วมาบดเป็นผงละเอียดและใช้ขัดฟัน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ประหยัดสำหรับคนส่วนมาก
ปี ค.ศ. 1824 - เพิ่มฟองเข้าไปหน่อย
ในปี ค.ศ. 1824 หมอฟันชื่อ ดร.พีบอดี้ ตัดสินใจเพิ่มสบู่ลงไปในผงขนมปังปิ้ง เพื่อเพิ่มพลังในการทำความสะอาด จากนั้นไม่นานผู้ผลิดก็เริ่มเพิ่มชอล์กเพื่อสร้างเนื้อยาสีฟันที่เนียนนุ่มเหมือนครีมที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน
ปี ค.ศ. 1873 - อุตสาหรกรรมขนาดใหญ่
คอลเกต (Colgate) ได้เริ่มผลิตยาสีฟันและจำหน่ายในขวดโหลในปี ค.ศ.1892
ดร. วอชิงตัน เชฟฟิลด์ ได้นำยาสีฟันไปใส่ในหลอดที่ยุบได้แบบเดียวกันที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ ซึ่งทำให้คอลเกตได้เริ่มจัดจำหน่ายยาสีฟันที่อยู่ในรูปแบบหลอดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
A First Versions: Colgate toothpaste
ปี ค.ศ. 1914 - สวัสดีฟลูออไรด์
ในปี ค.ศ. 1914 ฟลูออไรด์ถูกค้นพบว่ามีส่วนในการลดฟันผุอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ในปีเดียวกันนั้นได้มีการเพิ่มฟลูออไรด์ลงในยาสีฟันทำให้มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเป็นอย่างมาก และในที่สุด สบู่และก็ไม่ถูกใช้ในยาสีฟันอีกต่อไป เนื่องจากความนิยมของฟลูออไรด์และโซเดียมลอริลซัลเฟตในปี 1940
ปี ค.ศ. 1987 - ยาสีฟันกินได้!
ไหนใครเคยลองกินยาสีฟันบ้างยกมือขึ้น 5555
เหตุเกิดจากความต้องการให้นักบินอวกาศมีฟันที่สะอาดเมื่ออยู่ในอวกาศ
NASA จึงได้คิดค้นยาสีฟันที่กินได้ โดยสามารถกลืนได้เมื่อแปรงฟันเสร็จ
ด้วยเหตุนี้เอง ยาสีฟันกินได้ จึงถึงพัฒนามาเป็นยาสีฟันเด็กเล็ก เพื่อป้องกันอันตรายหากเด็กกลืนลงไปนั่นเอง
ปี ค.ศ. 1989 - ฟันขาว
ในปี ค.ศ. 1989 บริษัท Rembrandt ได้วางจำหน่ายยาสีฟันฟอกฟันขาวขนิดแรก ที่จะทำให้รอยยิ้มคุณสดใสมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ผลิตรายอื่นเริ่มทำตามและทำให้ยาสีฟันสูตร Whitening เป็นที่นิยมมาถึงปัจจุบัน
หลังศตวรรษที่ 20 ถึงปัจจุบัน
แน่นอนว่าเราเดินทางมาไกลตั้งแต่สมัยเปลือกหอยนางรมบดและโสม
เพื่อให้มีคุณสมบัติช่วยป้องกันหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะในช่องปาก เช่น ลดอาการเสียวฟัน ยาสีฟัน ผสมฟลูออไรด์ ช่วยป้องกันฟันผุ ได้กำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1914 ยาสีฟัน ที่มีสารขัดฟันน้อยลงหรือละเอียดขึ้นได้ถูกพัฒนาเพื่อลดปัญหาฟันสึกซึ่งเกิดจากการแปรงฟันที่แรงเกินไป
ในปัจจุบันมักมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ สีและกลิ่น สารให้ความหวานและสารที่ทำให้ยาสีฟันมีฟองเนียนนุ่มและคงความชุ่มชื้น
ยาสีฟันแบบหลอดถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกและถือเป็นสิ่งประดิษฐ์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
