"เรือที่คุณโดยสารอยู่กำลังจะจม...คุณจะตัดสินใจยังไง?"
เรือที่ว่าไม่ใช่เรือที่ใช้โดยสารจริงๆ แต่หมายถึงบริษัทหรืองานที่คุณกำลังทำอยู่
ปฏิเสธกันไม่ได้ว่าวิกฤตโควิด19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม แต่ที่เห็นชัดสุดก็คงจะเป็นธุรกิจท่องเที่ยวหรือสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักและรุนแรง มีการประกาศเลิกจ้าง อาสาสมัคราลาออก ลาแบบไม่รับค่าจ้าง
แต่ไม่ว่าคณจะอยู่ในสายงานไหน ถ้าคุณเห็นวี่แววหรือความชัดเจนว่าคุณกำลังจะตกงาน โดนปลดออกจากงานไม่ช้าก็เร็ว
หากเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวคุณ
จะมีคน 2 แบบที่รับมือกับปัญหานี้
แบบที่หนึ่งคือรอให้เรือมันจมแล้วค่อยหาเรือลำอื่น ถ้าคนที่คุณรู้จักเป็นแบบแรก ก่อนที่คุณจะเร่งรัดหรือต่อว่าคนๆ นั้น ให้มองปัจจัยรอบตัวหรือภาระที่คนๆ นั้นมีก่อน เช่นเจ้าตัวอาจจะมีเงินเก็บ ไม่มีภาระทางการเงินใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนบ้าน ผ่อนรถหรือการให้เงินเลี้ยงดูครอบครัว กลุ่มคนแบบที่หนึ่งก็อาจจะรอให้เรือมันจมก่อนแล้วค่อยหาทางเอาตัวรอดเมื่อเรือมันจมจริงๆ เพราะคิดว่าตีโพยตีพายไปล่วงหน้าก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
แบบที่สองคือว่ายน้ำไปหาเรือลำใหม่เพื่อเอาชีวิตรอด ในสถานการณ์นี้คือการมองหางานใหม่ การหาอาชีพเสริม การเรียนรู้เพิ่มเติมหากต้องตกงานจริงๆ โดยสิ่งที่คนแบบที่สองเลือกเตรียมไว้ก่อน อาจจะต้องล้มลุกคลุกคลาน ผิดหวัง เหนื่อยกับการว่ายน้ำไปหาเรือลำใหม่แต่อย่างน้อยเจ้าตัวก็รู้สึกว่ายังดีกว่านั่งรออยู๋บนเรือเฉยๆ โดยคนกลุ่มนี้จอาจจะเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูทุกคนให้อยู่รอดถึงไม่สามารถใจเย็นเหมือนคนแบบที่หนึ่งได้
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าคนแบบแรกใจเย็น ไม่สนใจโลก ไม่กระตือรือล้น หรือคนแบบที่สองตื่นตูม ขี้ตกใจ ร้อนตัว
สุดท้ายไม่ว่าคนใกล้ตัวคุณจะเป็นแบบไหน สิ่งที่อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจคือคนแต่ละคนมีพื้นเพ ปูมหลัง ความเดือดร้อน ภาระ ไม่เท่ากัน คุณไม่สามารถเปลี่ยนความคิดหรือการกระทำใครให้คิดหรือทำทุกอย่างเหมือนที่คุณต้องการได้
สิ่งที่ทำได้คือการทำความเข้าใจและเป็นกำลังใจให้กันเพื่อจะฝ่าฟันวิกฤตครั้งไปด้วยกัน
ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจให้ทุกคนครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
