28 เม.ย. 2021 เวลา 13:25 • การศึกษา
1.สำรวจความเสี่ยง
เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ เพราะในตลาดคริปโตเองก็มีความเสี่ยงให้เล่นหลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ลงทุนรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
สายเสี่ยงน้อย ขอเซฟๆแต่ได้เงินชัวๆ
อันนี้เหมาะกับการเล่น Stable coin เช่น USDT USDC ซึ่งผันผวนน้อยมาก อยู่ระหว่าง 28-32 บาท ถ้าซื้อ 28 ไปขาย 31 บาทก็ได้กำไรแล้ว และจะได้มากขึ้นอีกถ้าไปเล่นในเว็บเทรดที่ได้ดอกเบี้ย อย่าง Zipmex (ดอกเบี้ย USDT 8.5%ต่อปี)
2.เลือกเว็บเทรด
จริงๆเว็บเทรดในไทย หรือในต่างประเทศนั้นมีเยอะมาก อธิบายทุกเว็บคงไม่ไหว
ดังนั้นวันนี้เราเลยเลือกมา 3 เว็บที่คนไทยใช้มากที่สุด และเป็นเว็บที่มีข้อด๊ข้อเสียที่ต่างกันอย่างชัดเจน
3.เอกสารที่ต้องเตรียมในการสมัคร
การสมัครของเว็บเทรด ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่บ้านก็สมัครได้ แค่มีมือถือกับเน็ตก็พอ
สิ่งที่ต้องเตรียม (บุคคลทั่วไป)
1.บัตรประชาชนตัวจริง
2.หน้าสมุดบัญชีธนาคารไทย (ชื่อต้องตรงกับบัตรประชาชน)
3.มือถือสมาร์ทโฟน (ทำ KYC)
4.อีเมลที่ใช้สมัคร
สิ่งที่ต้องเตรียม (ชาวต่างชาติ)
เหมือนบุคคลทั่วไป แต่ต้องเพิ่ม หนังสือเดินทางด้วย และต้องเป็นธนาคารไทยเท่านั้น
สิ่งที่ต้องเตรียม (เยาวชน)
เหมือนบุคคลทั่วไป บางเว็บต่ำกว่า 18 บางเว็บต่ำกว่า 20 จะต้องมีเอกสารยินยอมจากผู้ปกครองด้วย
4.มารู้จักกับเหรียญคริปโต
เมื่อพูดถึงคริปโตหลายๆคนอาจจะนึกออกแค่ Bitcoin แต่จริงๆแล้วในวงการคริปโตมีเยอะกว่านั้นอีก ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ
Bitcoin เหรียญอันดับ 1 ของโลก และก็ยังเป็นเหรียญแรกของโลกอีกด้วย เป็นเหรียญที่ไม่มีใครรู้จักผู้สร้าง เป็นเหรียญสาธารณะที่แท้จริง
Stable coin เหรียญที่เป็นตัวแทนของเงินสกุลต่างๆในโลกความจริง โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1:1 ดังนั้นความผันผวนของเหรียญจึงต่ำ
Altcoin เหรียญทางเลือกอื่นๆที่ไม่ใช่ Bitcoin และ Stable coin
5.วิธีซื้อขาย ทั้ง 3 แบบ
ในเว็บเทรดต่างๆนั้นจะมีคำสั่งซื้อขายอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งจะมีฟังชั่นที่แตกต่างกัน
1.Limit คือการระบุราคาซื้อขายที่เราอยากได้เลย เมื่อถึงราคาที่เราตั้งระบบจะแมตซ์กับราคาของคนอื่น เพื่อซื้อหรือขายให้เรา แต่ราคาอาจจะไม่ตรงกับที่เราตั้งแต่ ในกรณี เราตั้งซื้อ แต่มีคนขายถูกกว่าที่ตั้งก็จะขายให้คนนั้น เราก็จะซื้อของที่ถูกกว่าที่ตั้งไว้ได้ หรือขายก็เช่นกัน
2.Market คือการขายทอดตลาด หรือกว้านซื้อราคาตลาด โดยไม่สนราคา ถ้าเป็นการซื้อ เราก็จะซื้อทั้งหมดที่ขายถูกที่สุด ณ ปัจจุบัน แต่ถ้าเป็นขาย ก็จะขายทั้งหมดให้กับคนที่ตั้งราคาสูงที่สุดในตอนนั้น
3.Stop-Limit order เป็นการเอาสองแบบมาผสมกัน จะมีในเหรียญที่มี volume การซื้อขายที่เยอะ ซึ่งราคาอาจจะไปไวมากจนซื้อขายไม่ทัน มันข้ามออเดอร์เราไปเลย ดังนั้นการมี Stop limit จึงเป็นการกำหนดช่วงที่จะซื้อขายว่าให้เริ่มขายที่เท่าไหร่ แต่ไม่เกินเท่าไหร่ กันตอนราคาขึ้นไวๆ
6.ข้อมูลเบื้องต้นที่มือใหม่ควรรู้
1.ประเภทกราฟในตลาดคริปโต
หลักๆจะมีอยู่ 3 ช่วงคือ Side way ช่วงที่กราฟนิ่งๆ Up Trend ช่วงที่กราฟพุ่งเป็นจรวด Down Trend ช่วงกราฟดิ่งลงเหว
2.เลือกดู Time Frame ไหนดี
แบ่งเป็น 3 ช่วงดังนี้
ถ้าต้องการเล่นสั้นๆหรือกำลังหาจุดเข้าซื้อขายที่ดีที่สุด ให้ใช้ 1m 5m 15m
ถ้าต้องการดูแนวโน้มของกราฟ แบบปกติใช้ 30m 1h ดีสุด
แต่ถ้าต้องการเล่นยาวถือยาว ให้ดูที่ 4h หรือ 1D เลยจะดีสุด
3.แพทเทิร์นกราฟที่ควรรู้
แพทเทิร์นกราฟเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในการเทรดเพราะสามารถจำไปใช้ได้เลย
7.อินดิเคเตอร์ดีๆที่ควรมีติดเครื่อง
อินดิเคเตอร์เป็นเครื่องมือที่ดีในการช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเข้าซื้อ หรือขายได้ดีขึ้น เป็นสิ่งที่คนเทรดคริปโตเซียนๆทุกคนใช้
1.CDC ActionZone v3 2020
เป็นอินดิเคเตอร์ไว้บอกจุดเข้าซื้อหรือขายแบบง่ายๆ โดยถ้ากราฟเปลี่ยนจากเป็นโซนสีแดง เป็นสีเขียวให้เข้าซื้อตรงนั้น แต่ถ้าสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีแดงให้ขายที่จุดนั้น
2.RSI
เป็นอินดิเคเตอร์ไว้ดูโมเมนตัมการซื้อขาย ว่าตอนนี้มีปริมาณการขายที่มากเกินไปหรือซื้อมากเกินไป ถ้ากราฟสูงกว่า 70% แสดงว่าซื้อเยอะเกินไปแล้ว แต่ถ้าต่ำกว่า 30% แสดงว่าขายเยอะเกินไปแล้ว
3.Macd
เป็นอินดิเคเตอร์ที่ไว้ดูว่ากราฟตอนนี้เป็นขาขึ้นหรือลง โดยถ้ากราฟอยู่สูงกว่า 0.00 แสดงว่าอยู่แนวโน้มขาขึ้น ถ้าน้อยกว่าแสดงว่าขาลง
ขอขอบคุณที่มา : Stocker Day เป็นอย่างยิ่ง ฝากติดตามด้วยน้าาา
โฆษณา