28 เม.ย. ครอบครบ 17 ปี เหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เหตุการณ์ที่ถูกวางแผนไว้แล้ว คือ ผู้ก่อเหตุต้องตายในมัสยิดแห่งนี้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ความรู้สึกร่วมให้พี่น้องมุสลิมเกลียดชังรัฐไทย เพื่อเป็นเงื่อนไขเพิ่มน้ำหนักให้คนในพื้นที่ต่อสู้เพื่อการแบ่งแยกดินแดน กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมีความพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์กรือเซะ 28 เม.ย.47 เข้ากับเหตุการณ์ดุซงญอ (การปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบ) ที่ ต.ดุซงญอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2491 ให้กลายเป็น ประวัติศาสตร์ความเจ็บปวดจากการถูกกระทำ ก่อนหน้าการเกิดเหตุการณ์ในมัสยิดกรือเซะ 2 วัน คือวันที่ 26 เม.ย.47 เป็นวันครบรอบการประกาศใช้รัฐธรรมนูญของขบวนการแบ่งแยกดินแดน “เบอร์ซาตู” นอกจากนี้กรณี 28 เมษายน ยังถูกเชื่อมโยงเข้ากับตัวบุคคล คือคุณเด่น โต๊ะมีนา ส.ว.ปัตตานี ซึ่งเกิดวันที่ 28 เม.ย.เช่นเดียวกัน การนำเหตุการณ์เชื่อมโยงเหตุการณ์ในมัสยิดกรือเซะ เข้ากับเหตุการณ์ในอดีต หรือตัวบุคคล เพื่อต้องการให้เหตุการณ์นั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์สร้างความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับชาวปัตตานีโดยตรง
.
เช้า 28 เม.ย. 47 ชายฉกรรจ์มุสลิมกว่า 60 คน เลือกมัสยิดกรือเซะในการก่อเหตุ เพราะเป็นสถานที่มีความสำคัญเกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิมมลายูปัตตานี และเลือกเวลาในห้วงชาวบ้านกำลังเดินทางมาร่วมละหมาด เหตุการณ์ที่เกิดขี้นเป็นความจงใจให้เจ้าหน้าที่รัฐตกหลุมพรางอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเจ้าหน้าที่ก็งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน อยู่ ๆ มีกลุ่มคนจับอาวุธมีด ปืน มาไล่ยิงไล่ฟัน ความรุนแรงจากกลุ่มขบวนการโจรใต้ที่ต้องการให้เกิด เพราะเขาได้วางแผนไว้แล้วว่าเลือกที่จะตายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อได้เข้าเฝ้าพระเจ้าตามหลักของอิสลาม ตามที่แกนนำได้หลอกไว้ มีการหลอกกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยใช้ไสยศาสตร์หลอกว่ากินน้ำแล้วเจ้าหน้าที่จะมองไม่เห็น มีการเล่าประวัติศาสตร์ชาติพันธ์ ศาสนา ว่าถูกสยามกดขี่ ชายฉกรรจ์จึงเกิดความหึกเหิม ก่อเหตุขึ้นโดยการเริ่มใช้ความรุนแรงก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย จากคมกระสุนปืน แต่เจ้าหน้าที่ยังประกาศให้กลุ่มผู้ก่อเหตุมอบตัว ซึ่งเสียงสะท้อนตอบกลับมากลายเป็นเสียงปืนกับลูกกระสุนทำให้ต้องหลบกันจ่าละหวั่น สุดท้ายเจ้าหน้าที่จึงต้องตัดสินใจในการระงับเหตุภายใต้การสั่งการโดย พลเอกภัลลภ ปิ่นมณี เหตุการณ์สงบลง ผลลัพธ์จากการปะทะทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 17 นาย และ กลุ่มผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 38 คน ส่วนที่เหลือถูกจับ
.
แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความพยายามสร้างประวัติศาสตร์ให้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ในอดีตดังที่กล่าวมาขั้นต้น เพราะเหตุเกิดในวันเดียวกัน เพื่อให้เกิดการจดจำถึงภาพของชาวมุสลิมที่ถูกกระทำโดยรัฐไทย เพื่อตอกย้ำความรู้สึกถูกกระทำให้ฝังลึกในความรู้สึกของคนมลายูปัตตานี หากแต่บุคคลที่เข้ามาเสียชีวิตในมัสยิดกรือเซะเป็นคนที่มาจากที่อื่น ไม่ใช่คนในพื้นที่ เพียงแต่เข้ามาใช้มัสยิดกรือเซะเป็นที่ก่อเหตุ การพยายามสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้จึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะสร้างความรู้สึกร่วมในการต่อสู้แบ่งแยกดินแดน
.
เมื่อการสร้างน้ำหนักความเจ็บปวดให้กับพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนใต้ให้เข้าร่วมต่อสู้ไม่เกิดขึ้น เพราะความจริงปรากฏจากการรับสารภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ถูกควบคุมตัวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการวางแผนไว้แล้ว น้ำหนักความชอบธรรมหรือความเกลียดชังจึงไม่เกิดขึ้นกับความรู้สึกของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
.
เมื่อสิ่งที่ต้องการของกลุ่มขบวนการโจรใต้ไม่เกิดขึ้น แกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจึงวางแผนเหตุการณ์เพื่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหม่ขึ้น ยังจำเหตุการณ์ตากใบได้ไหม เหตุการณ์ที่ชาวบ้านหลายพันคนถูกหลอกให้ไปร่วมละหมาดฮาญัต ไปในสถานที่เดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย จนกลายเป็นความสูญเสียและกลายเป็นชนวนความขัดแย้งตามความต้องการของกลุ่มขบวนการโจรใต้ เรามาเปิดแผนชั่วตากใบกันดีกว่า เริ่มจาก ชรบ. 6 คน
มอบปืนให้กับกลุ่มแนวร่วมและถูกจับฐานยักยอกอาวุธปืนถูกคุมขังที่สถานีตำรวจ ต่อมามีคนไปปิดล้อมสถานีตำรวจกดดันให้ปล่อยและมีคนเอารถมาขนชาวบ้านโดยหลอกว่าจะพามาร่วมงานละหมาดฮาญัต (มีพยายเป็นมุสลิมมากมายในพื้นที่ให้การตรงกัน) แต่กลับพาไปชุมนุมโดยไม่รู้เรื่อง จะกลับก็กลับไม่ได้เพราะถูกกักไว้ และมีแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบแฝงตัวในม็อบเป็นร้อยคน คอยจุดชนวนยั่วยุจนสถานการณ์บานปลาย เกิดเหตุจลาจล จนเจ้าหน้าที่ต้องสลายการชุมนุม จนทำให้เจ้าหน้าที่ติดกับดักของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอีกครั้ง เหตุการณ์จบลงด้วยความสูญเสีย 78 ศพ ที่ขาดอาการหายใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่จุดชนวนความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่ง 78 ศพ ที่สูญเสียเขามีเครือญาติมีพี่น้องกี่คนมีพ่อมีแม่กี่คน ดังนั้นความเกลี่ยดชังมันจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ ยิ่งการเล่าบอกต่อ ๆ กันยิ่งกลายเป็นการราดน้ำมันลงเชื้อไฟความรุนแรงให้มันยิ่งทวีสร้างความสูญเสียให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
.
เมื่อต่อจิกซอแล้วก็จะเห็นว่าทุก ๆ ปี จะมีการปลุกระดมเหตุการณ์ความสูญเสียนี้ขึ้นมาไม่ว่ากรือเซะหรือตากใบให้กลายเป็นวันเชิงสัญลักษณ์ โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์และการเล่าบอกต่อๆ กัน นี้คือแผนอันชั่วช้าของกลุ่มขบวนการที่ความรุนแรงเริ่มจากกลุ่มบวนการโจรใต้เลือกใช้ ด้วยการจงใจสร้างเหตุการณ์ความสูญเสียให้กับพี่น้องประชาชนให้รู้สึกเกลียดชังประเทศไทย และร่วมต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มขบวนการ สุดท้ายแล้วคนที่สูญเสียคือพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่รวมถึงแนวร่วมขบวนการบางคน ส่วนคนที่เสพสุขบนความสูญเสียของพี่น้อง 3 จชต. ก็คือ แกนนำกลุ่มขบวนการโจรใต้ ที่คอยสั่งการนั่งโต๊ะใหญ่ผูกไทด์จิบกาแฟ นั่งแช่กองเงินอยู่ที่มาเลย์ เหตุการณ์ความสูญเสียผ่านมาแล้ว 14 ปี ถึงแม้ความรุนแรงจะลดลงตามสถิติ แต่ความรุนแรง ไม่เคยสร้างประโยชน์ให้กับใครเลย มีแต่บาดแผล ความเจ็บช้ำ และคราบน้ำตา "
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
