30 เม.ย. 2021 เวลา 00:00 • ปรัชญา
“ความคิดถึง”
ในอดีตเมื่อเราต้องอยู่ไกลบ้านห่างจากคนที่รัก การสื่อสารทางเดียวที่สามารถนำส่งความรัก ความคิดถึงไปถึงคนรักได้ ก็คือ “การเขียนจดหมาย” พื้นที่เล็กๆ ที่เราสามารถใส่ทุกความรัก บรรยายทุกความคิดถึงของเราผ่านตัวอักษรลงไปบนกระดาษแผ่นนั้น เมื่อส่งจดหมายไปแล้วก็เฝ้านับวันเวลารอคอยจดหมายตอบกลับ ยังไม่นับรวมจดหมายที่ส่งไปแล้วไม่ถึงผู้รับ ด้วยเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้อีก ความคิดถึงระหว่างคนสองคนในยุคนั้น มีอานุภาพรุนแรงและมีความหมายมากนัก
ในยุคต่อมาความคิดถึงถูกส่งผ่านมาในบทเพลงจากแผ่นเสียงมาสู่เทปคาสเซ็ท คิดถึงใครก็อัดเพลงลงในเทปแล้วส่งให้คนนั้น ฟังกันจนยืดแล้วยืดอีก แถมยิ่งฟังก็ยิ่งคิดถึงหนักขึ้นไปอีก --- ฮ่าๆๆ
มาถึงในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีก้าวไกล จนไม่ต้องมีจดหมาย ไม่ต้องมีเพลงแห่งความคิดถึงกันแล้ว แค่แอดไลน์ หรือเฟซไทม์หากันก็ติดต่อกันได้ทุกที่ ทุกเวลา แทบไม่ต้องมีระยะเวลารอคอยเลย
แล้วทำไมวันนี้ถึงอยากเขียนเรื่องนี้หล่ะ ?
เราเพิ่งอ่านหนังสือ “คำบันดาลใจ” ที่ตอนหนึ่งเขียนถึงเรื่องความคิดถึงในรูปแบบของจดหมายและเพลงแห่งความคิดถึงเราเป็นคนหนึ่งที่ชอบการเขียนจดหมาย และเขียนไดอารี่ตั้งแต่เด็กๆ ชอบเขียนจดหมายมากขนาดที่ตอนอยู่มัธยมต้นเคยเขียนจดหมายหาเพื่อนต่างโรงเรียนเพราะอยากรู้ว่า นักเรียนโรงเรียนอื่นเขาทำอะไรกันบ้าง ช่วงนั้นได้เพื่อนทางจดหมายที่ไม่เคยเห็นหน้ากันจากหลายๆ จังหวัด หลายๆ โรงเรียนในประเทศ ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนของเพื่อนจากทางภาคอีสานก็อย่างหนึ่ง เพื่อนจากทางภาคใต้ก็อย่างหนึ่ง เพื่อนในกรุงเทพฯ ก็อีกอย่างหนึ่ง จดหมายจากพลทหารประจำการยังมีมาเลยค่ะคุณ :) เขียนจดหมายคุยกันกับเพื่อนๆ พี่ๆ เหล่านั้นเป็นปีๆ จนจบมัธยมสามก็เลิกเขียนกันไป
3
ช่วงเวลานั้นสิ่งที่สัมผัสและจดจำได้ก็คือ ในจดหมายที่ทุกคนรวมถึงตัวเราด้วย ได้เขียนหากันมันมีความคิดถึง ความห่วงใย ใส่ลงไปในข้อความนั้น บางครั้งตอบจดหมายช้า เพื่อนจะเขียนจดหมายมาถามไถ่ว่าเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมตอบจดหมายช้าจัง เพื่อนที่โตกว่าก็จะถามประมาณว่า จบม.3 จะเรียนต่ออะไร แบบนี้เป็นต้น อ่านถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยกันใช่ไหมคะว่า รู้ได้ยังไงว่าตอบช้า พวกเราใช้วิธีนับวันที่ได้รับจดหมายกันค่ะ สมมุติว่าเราส่งจดหมายวันที่ 1 แล้ววันที่ 7 เราได้รับจดหมายตอบกลับจากเพื่อนแสดงว่าจดหมายของเราใช้เวลาเจ็ดถึงแปดวันในการส่งไปและตอบกลับมา ถ้าเพื่อนต่างจังหวัดก็อาจจะสิบวัน แต่ถ้าเกินสิบวันแล้วยังไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากเพื่อนนั่นคือ ตอบช้า เพื่อนอาจจะไม่สบายหรือเปล่า แบบนี้เป็นต้น --- คลาสสิกมั๊ยหล่ะ
แล้วที่เล่ามามันเกี่ยวอะไรกับความคิดถึง
เราชอบตอนหนึ่งในหนังสือ “คำบันดาลใจ” ที่คุณท้อฟฟี่ เขียนถึงตอนสัมภาษณ์พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ว่า พี่เบิร์ดร้องเพลงเกี่ยวกับความคิดถึงมาหลายเพลง ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมโยงเราง่ายขึ้น ความคิดถึงยังมีความหมายกับความสัมพันธ์อยู่ไหม ซึ่งพี่เบิร์ดก็ตอบว่า “ความคิดถึงยังคงเป็นพื้นฐานของมนุษย์ต่อให้เราจะเฟซไทม์กันได้ มันก็ไม่เหมือนการได้เจอหน้ากัน ได้หายใจอยู่ในที่เดียวกัน...”
3
หนังสือ “คำบันดาลใจ” เขียนโดย : ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ ถ่ายรูปโดยเราเอง
คุณท้อฟฟี่ก็ถามต่อไปว่า “ถ้าอย่างนั้นความคิดถึงมันดีอย่างไรกับความสัมพันธ์ครับ”
และพี่เบิร์ดก็ได้ตอบว่า “มันทำให้เรายังปรารถนาดีต่อกันอยู่ เราทำอะไรแล้วนึกถึงเขา ห่วงใยเขา เห็นของกินอร่อยก็คิดถึงอยากให้เขากินด้วย ช่วงนี้ฝนตกเขาจะไม่สบายหรือเปล่า”
2
ฝนที่ตกทางโน้น...หนาวถึงคนนี้ มันเป็นแบบนั้น
2
“ความคิดถึงทำให้เรารู้ว่า แม้ไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่ก็รู้ว่าเรายังอยากทำดีเพื่อใครอยู่ เราจะดูแลตัวเองให้ดีเพื่อเขา เราจะดูแลความรักของเราเพื่อเขา เพราะเราอยากให้เขามีความสุข...”
2
คำตอบของพี่เบิร์ดทำให้เรามีรอยยิ้ม มีความสุขขึ้นมาซะเฉยๆ และคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาที่เรายังคงคิดถึงอยู่ และเราก็รู้สึกเหมือนที่คุณท้อฟฟี่เขียนเอาไว้ในบรรทัดสุดท้ายของบทนี้ว่า
“ถ้าคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วคิดถึงใครอยู่ ไปบอกให้เขารู้นะครับ”
1
เราก็เลยมาเขียนบทความวันนี้ไงคะ :)
แล้วเพื่อนๆ หล่ะคะ คิดถึงใครอยู่ ถ้าบอกให้เขารู้ไม่ได้ ลองเขียนเป็นข้อความ เขียนเป็นบทความ หรือจะเขียนเป็นเนื้อเพลงไปเลยก็เจ๋งดี เพราะในขณะที่เราเขียนเรามีแต่ความปรารถนาดี แม้ไม่ได้เปล่งเสียงออกไป แต่การส่งจากใจก็เป็นความปรารถนาดีเช่นกัน
คิดถึงใครอยู่ บอกให้ #angrindiary รู้ก็ได้นะคะ และขอให้เป็นความคิดถึงที่มีความสุขค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
“คิดถึงนะ”
#ความคิดถึง
#ความสุขในวันนี้
เพจผู้เขียน : facebook.com/angrindiary
ฝากบทความที่หัดเขียนไว้อ่านเล่นๆ เพลินๆ นะคะ
บทความเกี่ยวกับนาฬิกา : https://www.blockdit.com/pages/5f3b968b8cdcb5146e8e4729
โฆษณา