ชีวิตอันโหดร้ายของ ไรอัน เมสัน part4(ตอนจบ)
มหากาพย์ไรอัน เมสันจะจบอย่างไร ไปดูกันเลยครับ😉😉
ในช่วงปลายเดือน พฤษภาคม 2017 เขาได้กลับไปที่ฮัลล์ และดูเด็กๆเตะฟุตบอล
จากนั้นเขาก็ไปเตะฟุตบอลกับกำแพงทำให้เขาหวนกลับไปนึกถึงสมัยยังเป็นเด็ก และนี้ก็เป็นการเตะบอลครั้งแรกนับจากได้รับบาดเจ็บ
การที่จะกลับเข้าสู่สนามใช้เวลานานพอสมควร แต่มันก็น่าทึ่งที่ทุกอย่างกลับมาได้เร็วขึ้น
เขาใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการฝึกซ้อมกับ โค้ช
ชาวโปรตุกีส(มาโก ซิลวา) ร่วมกับนักฟิสิกส์ ในทุกๆวันเขาต้องวิ่งจ๊อกกิ้ง ขึ้นๆลงๆ แม้ว่าเขาจะรู้สึกวิงเวียนศรีษะอยู่บ้าง แต่เขาก็หวังลึกๆ ว่าเขาอาจกลับมาเตะบอลได้อีกครั้ง
เมื่อถึงช่วงประมาณกลาง มกราคม 2018 เขามั่งนใจว่าอีกไม่นานจะกลับไปเล่นให้ฮัลล์ได้ และอาจจะไปเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพ ซัก 2-3 เดือน ก่อนจะกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ในช่วงซัมเมอร์
แต่ปรากฎว่าหลังจากไปสแกนตรงที่ผ่าตัด ทำให้หมอต้องบอกกับเขาว่า
"ถ้าหัวของคุณ โดนลูกบอลอัดเข้าอีกครั้ง อาจทำให้คุณสมองเสื่อมหรืออาจเป็นลมบ้าหมูไปตลอดชีวิต ดังนั้นผมว่าที่คุณรอดมาได้ถือว่าโชคดีมากแล้ว แต่อย่ากลับไปเตะฟุตบอลเลยจะดีกว่า"
หลังจากที่เขาคุยกับหมอเสร็จ เขารู้ได้ทันทีเลยว่าเขาจะต้องแขวนสตั๊ด แม้ว่าการที่เขาได้ยินหมอพูดแบบนั้นจะทำให้เขาเสียใจ
แต่เมื่อเขามองไปที่ลูกชายที่พึ่งเกิดได้ไม่นาน ก็ทำให้เขาคิดได้ว่า ตัวเองนั้นโชคดีแค่ไหน และเขานั้นมีความสุขมากแค่ไหน (ความเป็นพ่อทำให้เขาพอใจกับชีวิตในตอนนี้)
ฟุตบอลนั้นยังเป็นสิ่งที่เขารัก แต่น่าเสียดายที่การจะกลับไปเตะบอลจะเป็นเหมือนหอกที่พุ่งกลับมาทำร้ายตัวเอง
"ผมคิดว่า ผมประสบความสำเร็จในชีวิตการค้าแข้งนะ ถ้าผมยังคงเล่นอยู่น่าจะเล่นถึงสักอายุ 32 ปี และน่าจะได้เป็นกัปตันทีมและกัปตันทีมชาติอังกฤษ อีกหลายนัดเลยหละ"
แม้ว่าเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตการค้าแข้งของเขาจะสั้น แต่สิ่งที่เขาได้ทำตลอดชีวิตการค้าแข้งมันตรงตามเป้าที่ได้ตั้งไว้แล้ว
"ผมไม่ได้เสียใจ ที่ผมจะไม่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก รวมถึงกัปตันทีมและกัปตันทีมชาติ ถ้าพวกคุณได้ถามผมตอนอายุ 15 ปี 3 สิ่งที่บอกไป มันคือความฝันที่ผมอยากทำ ดังนั้นผมไม่ได้รู้สึกเสียใจเลย ที่ผมต้องแขวนสตั๊ดเร็ว"
"ถ้าคุณเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วคุณมีโอกาสที่รอดมาได้ นั้นคือสิ่งที่พิเศษ ที่จะตราตรึงใจของคุณไปอีกนาน"
เขาไม่สามารถคิดไปไกลได้ แต่ในขณะนี้เขาได้มีส่วนร่วมในชุดเยาวชนของสเปอร์ส และเขายังได้ใบอนุญาติการเป็นโค้ช(license coach)
ในตอนนี้เขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น การไปร่วมงานวันเกิดของคนในครอบครัว เพราะสมัยที่เขายังเตะบอลอยู่ ไม่มีโอกาสมาร่วมงาน
ฉลองใดๆเลย และเขาก็สามารถตีเทนนิสได้ ซึ่งเขายอมรับว่า "ผมช่างเป็นคนที่โชคดีจริงๆ"
"ในอนาคตหวังว่า ผมจะเจอสิ่งที่ผมหลงรัก และจะทำมันให้เต็มที่ แบบ 100% นั้นก็คือ ผมจะเต็มที่กับสิ่งนั้นเหมือนกับฟุตบอลยังไงหละ"
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ🙇♂️🙇♂️😁
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
