30 เม.ย. 2021 เวลา 10:00 • กีฬา
ถัดจากปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ไม่มีนักเตะไทยคนไหน ประสบความสำเร็จกับลีกระดับแถวหน้าของเอเชียอีกเลย จนมาถึง 2 ปรากฏการณ์สำคัญ ชนาธิป และ ธีราทร ที่ทำให้คนญี่ปุ่นได้รู้ว่าผู้เล่นไทยความจริงแล้วไม่ธรรมดาเลยสักนิด
2
ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ ธีราทร บุญมาทัน คือสองนักเตะในยุคปัจจุบัน ที่คนไทยภาคภูมิใจมากที่สุด จากผลงานการสร้างชื่อเสียงที่ต่างแดน
3
ผมเคยคุยกับคนญี่ปุ่น เขามองว่าชนาธิปคือความมหัศจรรย์ เจ เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนหลายๆคน ที่เกิดมาตัวเล็ก ได้รู้ว่า คุณสามารถประสบความสำเร็จในสายฟุตบอลได้เช่นกัน
2
ก่อนหน้าจะมีชนาธิป เราเคยมีนักเตะอาเซียนหลายคน ไปค้าแข้งในญี่ปุ่นมาแล้ว อย่างเล คอง วินห์ ของเวียดนาม และ อิรฟาน บัคดิม ของอินโดนีเซีย แต่ทั้งสองคนนั้นก็ไม่เวิร์ก ไม่ประสบความสำเร็จใดๆ นั่นทำให้ ไม่มีทีมไหนกล้าจ้างนักเตะอาเซียน คือถ้าจะเอามาแล้วไม่เก่งกว่าคนญี่ปุ่นจะเอามาทำไม
1
ชนาธิปย้ายมาญี่ปุ่นด้วยแรงกดดันในฐานะนักเตะอาเซียนอีกคน ที่หวังแจ้งเกิดในญี่ปุ่นให้ได้ และในซีซั่นแรกของเขา (2017) เจ เล่นได้อย่างน่าผิดหวัง ลงสนาม 16 นัด ทำไป 0 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จึงโดนเสียงวิจารณ์หนักเลยว่า ซัปโปโรไปดึงตัวมาเพราะคงหวังเรื่องการตลาดล่ะสิ
2
เข้าสู่ปีที่ 2 ชนาธิปต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ฟอร์มในสนามก็ต้องเร่ง แต่สภาพจิตใจตอนนั้นก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะเพิ่งเลิกรากับ เมย์ พิชญนาฏ แฟนสาวที่คบกันมา มากกว่า 2 ปีครึ่ง
1
ในปี 2018 ชนาธิป ตั้งสติเอาไว้ให้แข็งแรง และโฟกัสทุกอย่างที่เรื่องฟุตบอล เขาฝึกหนักอย่างมากจริงๆ โดยในช่วงปรีซีซั่นที่ฮาวาย ชนาธิปไม่ทำอย่างอื่นเลย นอกจาก กิน ซ้อมเช้า กิน ซ้อมเย็น เข้านอน ทุกอย่างวนลูปซ้ำไปซ้ำมา แถมนอกจากซ้อมปกติ เขายังเล่นฟิตเนสอีกอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงอีกต่างหาก
นอกจากนั้น ยังรับฟังโค้ชมิไฮโล เปโตรวิช เป็นอย่างดี และปรับสไตล์การเล่นจากเดิม เมื่อก่อนชนาธิปจะติดลูกเกรงใจ ชอบจ่ายมากกว่าเล่นเอง แต่เปโตรวิชย้ำว่า ในเมื่อคุณเป็นผู้เล่นต่างชาติ จะเล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อนไม่ได้ แต่ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเด่นกว่าคนอื่น
สิ่งต่างๆที่ทำ ส่งผลให้ชนาธิปมีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ การฝึกหนักทำให้เขามีบอดี้ส่วนบนที่แข็งแกร่งขึ้น ชนล้มยากมาก ขณะที่การเปลี่ยนวิธีการเล่น ทำให้เขากล้าลุยเข้ากรอบเขตโทษ เมื่อได้จังหวะยิงก็ยิงเลย ไม่ต้องมองตัวจ่ายตลอดเวลา
1
ไม่เพียงแค่นั้น เจ ยังศึกษาภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เพราะเขารู้ดี การมาเล่นลีกต่างแดน ถ้าคุณคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องมันก็ลำบากแล้ว
จากซีซั่นแรก พูดได้เป็นคำๆ และการสื่อสารเกือบทั้งหมดต้องให้ล่าม "พี่ทิ" คอยประคอง ช่วยแปลตลอด แต่พอมาในซีซั่นที่ 2 เจพัฒนาเรื่องภาษาญี่ปุ่นอย่างก้าวกระโดด เขาสื่อสาร เป็นประโยคได้แล้ว เวลาไปร้านอาหารสามารถพูดญี่ปุ่น เป็นประโยคยาวๆกับพนักงานได้ไม่มีปัญหา ส่วนการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมก็ฟังได้ คุยได้ ไม่ได้ยืนงงอะไร
1
คำไหนใช้ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ เจ ก็จะมิกซ์เอาภาษาอังกฤษ เข้าไปรวมด้วย นั่นทำให้การใช้ชีวิตประจำวันที่ฮอกไกโด ชนาธิปทำได้ดีขึ้น
ในซีซั่น 2018 ชนาธิปเล่นดีอย่างก้าวกระโดด จาก 0 ประตู 1 แอสซิสต์เมื่อปีก่อน เขาซัดไป 8 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ ช่วยให้คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จากทีมที่เคยหนีตาย พลิกมาคว้าอันดับ 4 ของลีกได้สำเร็จ และเป็นอันดับสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
3
เมื่อฤดูกาลจบลง เจลีก ประกาศรางวัลออลสตาร์ ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี และชนาธิปก็มีชื่อติดโผ ในตำแหน่งกองกลางอีกด้วย จนกลายเป็นคนอาเซียนคนแรก ที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของเจลีก
1
คนญี่ปุ่น ทั้งแฟนบอล และคู่แข่งทีมอื่น ให้การยอมรับ ว่านักเตะไทยคนนี้คือของจริง ไม่ได้พูดเกินเลย ว่าการเข้ามาของชนาธิป ทำให้สายตาของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อวงการฟุตบอลอาเซียนเปลี่ยนไป
2
จนถึงวันนี้ เจ อยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นฤดูกาลที่ 5 แล้ว และยังมุ่งมั่นต่อไป เพื่อไขว่คว้าหาความสำเร็จไปเรื่อยๆ
อีกหนึ่งคนที่สุดยอด ไม่เป็นรองชนาธิป คือ อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน
2
ธีราทร ย้ายจากเอสซีจี เมืองทองฯ มาร่วมทัพวิสเซล โกเบ แบบยืมตัวในปี 2018 ซึ่งเชื่อกันว่า วิสเซล โกเบ ได้เห็นอิมแพ็กต์ความนิยมที่คอนซาโดเล่ ซัปโปโรได้รับจากเคสชนาธิปนั่นแหละ ก็เลยต้องการนักเตะไทยคนอื่นไปตีตลาด และสุดท้ายก็เลือกธีราทร ที่มีดีกรีเป็นตัวท็อปของประเทศ
ในภาพรวมของธีราทรคือว่าเล่นพอใช้ได้ กับวิสเซล โกเบ เขาลงเล่นทุกรายการไป 35 นัด ทำไป 4 แอสซิสต์ และติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก 2 สัปดาห์
เมื่อจบฤดูกาล โกเบ ไม่เซ็นถาวร และส่งตัวคืนเมืองทอง ทันใดนั้น โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส อีกหนึ่งทีมจากเจลีก ก็รีบช้อน คว้าตัวธีราทร มาเสริมทัพทันที
เมื่อธีราทรย้ายมา เฮดโค้ชอังเก้ ปอสเตโคกลู ปรับสไตล์การเล่นของธีราทรใหม่ จากเดิมเล่นเป็นฟูลแบ็กธรรมชาติ วิ่งขึ้นลงปกติ เปลี่ยนสไตล์มาเป็น inverted full back คือหุบเข้าในมาอยู่ตรงกลางสนาม คอยช่วยสร้างสรรค์เกมด้วย ในสไตล์แบบฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมัน
ธีราทรเปิดเผยว่าตอนนั้นเขาเคว้งไปหมด ทำไมเขาต้องเล่นแบบนั้น เป็นแนวทางที่ไม่เคยเล่นมาก่อนตลอดชีวิต ยิ่งมีอาการเจ็บรบกวนอีก ยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ พอหายเจ็บกลับมา บางวันก็คิดว่าซ้อมดีมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ลงอีก
สุดท้ายจุดเปลี่ยนคือ ตอนที่ภรรยาของธีราทรไปอยู่ด้วยกันที่ญี่ปุ่น เธอแนะนำธีราทรว่า ถ้าซ้อมดีแล้ว แต่ยังไม่ได้เล่น ก็แปลว่ายังไม่ดีพอสำหรับโค้ช นั่นทำให้ธีราทรคิดได้ว่า เออ งั้นต่อจากนี้ ทิ้งคำว่า "ทำไม" เอาไว้ก่อน ไม่ต้องไปสนว่าทำไมโค้ชอยากให้เขาเล่นตำแหน่งนี้ หรือสไตล์นี้ แต่ลุยซ้อมแหลกไปเลยอย่างที่โค้ชต้องการ แล้วจะได้โอกาสหรือเปล่า มันก็จะได้รู้กัน
1
เมื่อธีราทรซ้อม โดยทิ้งคำว่า "ทำไม" ไปจากหัว เขาก็ค่อยๆเข้าใจ สิ่งที่โค้ชต้องการ และปรับตัวกับแท็กติกได้ จนยึดตัวจริงของโยโกฮาม่า เอฟ มารินอสได้ในที่สุด
3
ในปี 2019 ธีราทร พาทีมมารินอสได้แชมป์เจลีก โดยในเกมสุดท้าย นัดตัดสินของฤดูกาล มารินอสชนะเอฟซี โตเกียว 3-0 โดยธีราทรยิงได้ 1 ประตู ส่งผลให้เขาเป็นคนอาเซียน คนแรกที่ได้แชมป์เจลีก ญี่ปุ่น
2
ในเกมที่ชนะเอฟซี โตเกียว ผมอยู่ในสนามด้วย ได้เห็นความ "คลั่งไคล้" ที่แฟนโยโกฮาม่ามีให้กับธีราทร สายตาของชาวญี่ปุ่นมองเขาเป็นฮีโร่ ดังนั้น ในฐานะแฟนบอลชาวไทย การที่คนต่างชาติมาชื่นชมนักเตะของเราขนาดนี้ เป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากจริงๆ
1
ชนาธิป กับธีราทร มีจุดพีกคนละปี แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทั้งคู่ยืนหยัดอยู่ในเจลีกได้อย่างแข็งแกร่งจนถึงทุกวันนี้ และเป็นสัญลักษณ์ที่บอกให้คนเอเชียรู้ว่า คนไทยเองก็มีขีดความสามารถสูงพอที่จะเล่นในลีกระดับท็อปของทวีปได้เหมือนกัน
3
สำหรับอนาคต เจ้าตัวยังไม่มีการเปิดเผยว่า จะอยู่ญี่ปุ่นต่อไปเมื่อไหร่ มีข่าวลือว่า ธีราทรอาจกลับไทยหลังจบซีซั่นนี้ อย่างไรก็ตาม การที่เขาไปสร้างความภูมิใจให้ประเทศไทย ก็ถือเป็นความยอดเยี่ยมที่คงยากจะหาคนเทียบเคียงได้ ในระยะเวลาอันใกล้นี้
โฆษณา