"รักหนู อย่าตีหนูเลย"
ย้อนไป30ปีที่แล้ว
การตีลูกไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะคนไทยมีความเชื่อว่า
"รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี"
แล้วทำไมยุคนี้ถึงบอกว่า อย่าตีลูก?
งานวิจัยหลายชิ้นได้ระบุเอาไว้ตรงกันว่า
การตีลูก เป็นเพียงการหยุดปัญหาที่เกิดขึ้น
ในระยะสั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยให้ลูกเข้าใจและสำนึกผิดอย่างที่พ่อแม่ต้องการ
ลูกอาจจะหยุดเมื่อถูกตี
แต่ลูกจะไม่เคยได้สัมผัสถึงความรัก
ความหวังดีที่พ่อแม่ส่งไปให้
พอถูกตีมากๆ ก็จะมีแต่ความโกรธความกลัว
และเรียนรู้วิธีการ "โกหก" เพื่อเอาตัวรอดไม่ให้ถูกตีอีกในคราวหน้า
พ่อแม่ต้องถามตัวเองก่อนว่า
เป้าหมายในการตีลูกคืออะไร?
ตรงนี้สำคัญมากนะคะ
ลองตรองก่อนจะตีนะคะว่า
ถ้าไม่ตีมีวิธีการอื่นไหม
อย่าลืมนะคะว่าเป้าหมายในการตีลูก
(ที่เราเคยเชื่อหรือพ่อแม่เคยตีเรา)
เพราะต้องการ..........
● ให้ลูกเป็นคนดี
● ให้ลูกเชื่อฟัง
● ให้ลูกเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่สอน
และอีกมากมายหลากหลายเหตุผล
แต่เมื่อเราเลือกที่จะลงโทษเขาด้วยการตี ในระยะยาว เขาจะสูญเสีย Critical Thinking ( ความสามารถในการให้เหตุผลและการคิดไตร่ตรองอย่างอิสระ)
เพราะข้อเสียของการลงโทษด้วยการตี
มีมากมายและส่งผลกระทบหลายอย่าง
● เจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจ
● ทิ้งรอยแผลไว้ในใจลูก
● มีอาการกลัวจนฝังใจ
● เป็นเด็กขี้โมโห ก้าวร้าว
● เป็นเด็กเก็บกด
นอกจากจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ
ทางสมองแล้วยังสูญเสียความสัมพันธ์
ที่ดีกับพ่อแม่อีกด้วย
ฉะนั้นลองถามตนเองว่าถ้าไม่ตีมีวิธีการอื่นไหมที่จะบรรลุในสิ่งที่เราต้องการและ
ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับเขา
#เพราะว่าลูกไม่สามารถเลือกพ่อแม่ได้
#แต่พ่อแม่เลือกที่จะเป็นพ่อแม่แบบไหนได้
#ไดอารี่มนุษย์ลูก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
