30 เม.ย. 2021 เวลา 14:23
หากคุณเคยเป็นโรคซึมเศร้า เราเป็นเพื่อนกัน
หากคุณไม่เคยเป็นโรคซึมเศร้า เรามาทำความรู้จักกันไว้นะ
ไม่ต้องสนิทกันมาก แค่ให้เข้าใจกันก็พอ
ยามบ่ายวันหนึ่ง....หลังจากคำพูดที่ว่า "อยากให้มีปัญหาเพิ่มอีกคนใช่ไหม" ถูกพูดออกมาจากความหงุดหงิด ที่ก็เข้าใจได้ ว่าคนเราอยู่ด้วยกัน มันก็คงจะมีเรื่องเดิมๆให้รำคาญกันอยู่แล้ว
หลังจากนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ น้ำตาของผู้ฟังได้ระเบิดออกมาเหมือนเขื่อนแตก แล้วมันก็ไหลอยู่อย่างนั้นจนไม่สามารถนับชั่วโมงได้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว จนทุกคนในบ้านออกจากบ้านกันไปหมดแล้ว จนบ้านเงียบสนิท เสียงสะอื้นก็ยังคงอยู่ วันรุ่งขึ้นจากวันนั้นก็มีภาพเหตุการณ์คนที่นั่งร้องไห้คนนั้นไปนั่งร้องไห้อีกทีในคลินิกหมอบำบัดโรคซึมเศร้าแห่งหนึ่ง....
มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ และเมื่อย้อนกลับไปมอง ก็บอกตรงๆว่าไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ถามว่าภาพเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดเรื่องวันนั้นเป็นอะไรก็จำได้แม่น
สถานการณ์มากมายที่รุมเร้าในตอนนั้นมีอะไรบ้างก็จำได้เช่นกัน
แต่สิ่งที่อธิบายได้ยากคืออาการของตัวเองในวันนั้นมันเป็นไปได้ยังไง แล้วมันทำให้เข้าใจจริงๆว่าการเสียการควบคุมเป็นยังไง
ต้องออกตัวเลยว่า ไม่ใช่คนสายดราม่า เป็นคนไม่เว้าวอนกับปัญหา แล้วไม่ชอบเห็นตัวเองอ่อนแอกับเรื่องใดๆก็ตามเกิน 48 ชั่วโมง และเป็นอย่างนี้เป็นคนแบบนี้มาตลอดหลายสิบปี ถ้าคุณได้เกิดมาเป็นคนแบบเรา คุณจะคิดภาพตามแล้วบอกได้ว่าเราตกใจแค่ไหนที่เราเป็นแบบนั้นในวันนั้น
มานั่งทบทวนชนวนระเบิด ....
ความสัมพันธ์ที่สั่นคลอน มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเป็นเรื่องของบุคคลที่มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับเรา เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน หรือเป็นผู้ร่วมงาน ก็ทำให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ได้ แค่เกิดความไม่เข้าใจกัน หรือทำให้เกิดเรื่องเสียใจต่อกันและกัน
สิ่งที่คั่งค้าง วันหนึ่งเมื่อคุณหันหลังกลับมามองตัวเอง แล้วเห็นสิ่งที่คุณเรียกว่า "วันนึงจะทำ" กองอยู่สูงพะเนินเกินกว่าที่จะบอกได้ว่ามันสูงแค่ไหน คุณนึกถึงห้องที่มันรกมากๆแล้วคุณไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน แต่ที่คุณรู้แน่ๆคือ ถ้าคุณเคลียร์ห้องให้เป็นระเบียบ ปลายทางของแต่ละจุดในห้อง รวมถึงของแต่ละชิ้น มันจะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จอะไรบ้าง แต่มันปัญหาคือมันเยอะเกินกว่าจะหยิบชิ้นใดชิ้นหนึ่งมาจัดวางแล้วไง นั่นคือประเด็น
คุณค่าที่เสียไป หากใครคนหนึ่งในชีวิต ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณไม่มีตัวตน คุณไม่ได้มีความสำคัญ คุณไม่ได้มีคุณค่าใดๆกับเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดที่พูดออกไป การกระทำที่ทำออกไป หรือแม้กระทั่งตัวตนของคุณที่ยืนอยู่ตรงนั้น มันดูไม่มีมูลค่าหรือมีรูปทรงใดๆสำหรับที่นั้นเลย เขาอาจจะพูดคำบางคำที่ไม่เข้าหูหรือกระทบจิตใจ หรือมีสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขาแล้วทำให้คุณเห็นหรือว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีตัวตนอยู่ตรงนั้นก็ได้ นั่นก็ทำให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้
ปัจจัย 4 ขาดแคลน สิ่งที่ใช้ดำรงชีพที่มันต้องใช้ตอนนั้นจริงๆมันไม่เหลือให้ใช้แล้ว หรือมันกำลังจะหมด แล้วไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว เราเป็นมนุษย์ ที่ยังต้องดำรงชีพอยู่ท่ามกลางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ ในช่วงยุคของเรา มันมีสิ่งจำเป็นที่เราจำเป็นต้องมีจริงๆ ถ้าไม่มีเราอยู่ไม่ได้จริงๆ ในที่นี้คือไม่มีแล้วเอาชีวิตไม่รอดนะ นั่นก็มีส่วนที่ทำให้อาการซึมเศร้าปะทุขึ้นมาได้เช่นกัน
ช่วงระยะเวลาที่อยู่ในอุโมงค์ของอาการซึมเศร้า ต้องขอบคุณตัวเองที่ใฝ่หาแสงสว่างที่ปลายทางอุโมงค์ นอกจากยาที่หมอให้มันจะช่วยได้มากแล้ว นิสัยเดิมๆที่เป็นคนไม่ชอบทำตัวเป็นมนุษย์ดราม่า ไม่ชอบจมปลักอยู่กับความเครียดหรือความเศร้านานๆ ก็ทำให้เราได้ฝึกตัวเองใหม่ฝึกคิดใหม่ ในช่วงที่ตัวช่วยพิเศษของหมอก็ทำงานไปด้วย ช่วงนั้นเราหางานทำ เราฝึกคุยกับคนไม่รู้จัก ช่วยแก้ปัญหาให้เขา ฝึกรองรับอารมณ์ร้ายๆ จากคนแปลกหน้า โดยมองหาแค่ว่าภายใต้อารมณ์ร้ายๆของเขานั้น จริงๆแล้วเขาต้องการอะไร
เราได้ฝึกทำตัวให้ใจเย็นลง และเอ็นดูความคิดที่ต่าง ซึ่งมาจากช่องว่างระหว่างวัย หรือมาจากประสบการณ์ที่ต่างกัน นั่นหมายถึงว่า เราฝึกให้ตัวเองไม่หงุดหงิด ไม่โกรธ ไม่ค่อยถามว่าทำไม แค่ค่อยๆปรับบุคลิกของเรา ให้สอดคล้องกับจังหวะชีวิตของคนอื่น บอกเลยว่าพิมพ์ออกมาให้อ่านง่ายกว่าที่จะทำ มันใช้เวลานะ เราใช้เวลาอยู่ประมาณ 7 เดือน และรู้สึกว่า OK ละเริ่มพัฒนาต่อยอดมันได้อีก
เราหันมาสร้างอะไรใหม่ๆให้ตัวเราเอง เราเลือกการออกกำลังกายคุมน้ำหนัก ไม่ได้มองว่ามันเป็นเป้าหมายที่จะต้องสวยใส่บิกินี่ แค่ได้ทดลองว่าครั้งหนึ่งเราสามารถออกกำลังกายและมีสุขภาพที่ดี สดชื่นแบบคนอื่นเขาไหม แข็งแรงขึ้นไหม กำไรก็คือเสื้อผ้าหลวมหรือน้ำหนักลดลงหรือเปล่า
การแยกตัวออกจากครอบครัวในบางครั้ง ต้องยอมรับว่ามันช่วยได้ส่วนหนึ่ง การที่อยู่กับตัวเอง และเอาชีวิตรอดในสถานที่สถานที่นึงที่ไม่ใช่บ้านเดิมที่เราอยู่ ได้ไปปรับตัวเองเข้ากับกลุ่มคนใหม่ๆที่ไม่ใช่คนเดิมๆ มันกลายเป็นเรื่องท้าทายและสนุกสำหรับเรา เป็นเหมือนเกมที่เราได้ออกมาเล่นเพื่อฝึกทักษะบางอย่าง เราชอบมากเลยนะมันเหมือนเป็นการดีท็อกซ์อะไรบางอย่างออกไป
หันไปคุยกับสิ่งมีชีวิตที่พูดกลับมาเป็นภาษาคนไม่ได้ อารมณ์คล้ายๆสโนไวท์ หรือซินเดอเรลล่า หรือแอเรียลใน little mermaid ฟังดูมันตลกดีนะ แต่เชื่อไหมเวลาที่เราได้กอดร่างกายอุ่นๆ ของหมาที่บ้าน จนหน้าเลอะน้ำลายไปหมด มันทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ รู้สึกสบายใจ เหมือนสมัยเราเด็กๆเลยนะ
ทั้งหมดที่บอกมาคิดว่าคงจะได้รู้สาเหตุ ได้รู้ถึงวิธีการแก้ในแบบของเรา ไม่ได้หวังว่าจะมาเล่าด้วยความภูมิใจ ว่าเคยเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเอง แต่อย่างน้อยถ้ามันทำให้ใครบางคนได้เข้าใจอะไรมากขึ้น ได้หาทางออกกับเรื่องที่เกี่ยวข้องแบบนี้ได้มากขึ้น ได้มองเห็นมันอย่างจริงจังมากขึ้นนั่นต่างหากที่เราจะรู้สึกภูมิใจ แล้วมันจะทำให้เราย้อนกลับไปบอกตัวเองว่า ภูมิใจนะที่กล้าบอกตัวเองในวันนั้นว่า เราเป็นโรคซึมเศร้าแล้วล่ะ
โฆษณา