ยิ่งลดตัวลงตํ่า คุณธรรมยิ่งสูง
ประโยคว่า ..
เมื่อใดที่เราน้อมตัวลงตํ่า คุณธรรมเราก็ยิ่งสูง
ทำให้นึกถึงเมื่อครั้งพถทธกาลองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทนงตรัสต่อพระภิกษุทั้งหลายว่า .. ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงอย่าทำตัวยกหัวชูหางเข้าสู่ตระกูลเลย
ซึ่งนับเป็นพระดำรัสจากองค์พระบรมศาสดาเพื่อยํ้าเตือนให้เหล่าพระภิกษุ เมื่อจะเจ้าไปสู่ชุมชนอย่าเป็นคนถือทิฏฐิมานะ ถือเนื้อถือตัว เจ้ายศเจ้าอย่าง จงเป็นเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน จะทำให้ได้รับความนิยมยกย่องนับถือ และเป็นที่ยอมรับ
หรือแม้แต่หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง ก็มักจะพรํ่าลูกศิษย์ลูกหาว่า "ไปตี้ไหนหื้อเอาง่าว (โง่) ไปตวย" หมายถึง เวลาไปที่ไหนให้เอาโง่ไปด้วย อย่าทำตนเป็นคนอวดรู้ ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนนั่นเอง
และก็ให้นึกถึงต้นข้าว เราจะรู้ได้ทันทีว่า ต้นข้าวต้นไหนเม็ดข้าวสมบูรณ์ หรือไม่สมบูรณ์ ก็ดูที่รวงข้าว หากต้นข้าวต้นไหนมีรวงข้าวที่โน้มตํ่า นั่นแสดงว่าเม็ดข้าวนั้นสมบูรณ์ดีมีนํ้าหนัก ส่วนต้นข้าวต้นไหนมีรวงชูขึ้น นั่นเเสดงว่าเม็ดข้าวนั้นลีบใช้ไม่ได้
ฉะนั้นคนเราก็เช่นกัน หากเป็นผู้ที่มีการน้อมตัวลงตํ่า (อ่อนน้อมถ่อมตน) ก็ย่อมจะเปรียบเหมือนกับต้นข้าวที่มีรวงสมบูรณ์ เป็นข้าวที่มีคุณค่ามีราคา ชาวนาก็หวงแหนรักษา แต่หากผู้ใดไม่อ่อนน้อมถ่อมตน ก็เปรียบเหมือนข้าวที่ลีบ หมดค่าหมดราคา ใครก็ไม่อยากได้
ดังนั้นใครอยากเป็นคนมีค่ามีราคาเป็นที่ต้องการปรารถนาของผู้คน. จงทำตนดังประโยคที่ว่า ..
เมื่อใดที่เราน้อมตัวลงตํ่า คุณธรรมเราก็ยิ่งสูง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
