[ยุคใหม่การตลาดของไทย] อย่างนี้ก็ได้เหรอ “ไม่ซื้อประกันโควิดแล้วโพสต์แช่งบัตรทองเตียงสนามรออยู่” เรื่องนี้มีทางออก ธุรกิจส่วนมากในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดนี้ ต้องพบกับความยากลำบากหรือต้องหยุดชั่วคราวไปหลายกิจการ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

1 พ.ค. 2021 เวลา 02:17 • ธุรกิจ

อย่างนี้ก็ได้เหรอ “ไม่ซื้อประกันโควิดแล้วโพสต์แช่งบัตรทองเตียงสนามรออยู่” เรื่องนี้มีทางออก

ที่มา https://covid-19.kapook.com/view240648.html

ธุรกิจส่วนมากในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดนี้ ต้องพบกับความยากลำบากหรือต้องหยุดชั่วคราวไปหลายกิจการ ทั้งที่ต้องทำตามคำสั่งรัฐบาลและสถานการณ์พาไป ช่วงนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็คุมเข้มร้านอาหารไม่ให้ขายแบบนั่งรับประทานที่ร้าน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าร้านค้าส่วนมากต้องรับผลกระทบทั้งที่ไม่ใช่ผู้ที่เป็นแหล่งแพร่กระจาย ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากบางร้านค้าบางธุรกิจที่ใกล้เคียงที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาด เข้าข่ายว่าปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง

อีกธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างมากก็คือธุรกิจประกันภัยและประกันสุขภาพ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อขนาดไหน จะมีเตียงรักษาหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาเท่าไร ส่วนอีกเรื่องที่น่ากังวลคือหากเกิดการแพ้วัคซีนจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลเท่าไรอย่างไรด้วยถึงแม้ว่าคนไทยที่ได้รับวัคซีนจะมีสัดส่วนประมาณ 1% ยังห่างไกลเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ก็ตามที แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ทำให้เกิดความมั่นใจกว่า ที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายในการป้องกันก็น้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วย

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตเป็นธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยงในเชิงของสถิติ เพราะสัดส่วนที่บริษัทประกันต้องจ่ายเงินออกดูยังไงก็น้อยกว่าเงินที่รับเข้ามา ถึงแม้ว่าจะมีรายงานผู้ติดเชื้อผู้เสียชีวิตมากขึ้นทุกวันก็ตามที แต่เมื่อมาเจาะลึกลงในตัวเลขที่เกิดขึ้นก็ยังคุ้มค่าที่จะขยายธุรกิจการรับประกันภัยโควิด

การที่บริษัทประกันจำนวนมากหันมาส่งเสริมการขายกรมธรรม์โควิด ก็เป็นการทำธุรกิจที่ต้องบอกว่าได้รับผลประโยชน์ร่วมทันทุกฝ่าย ทั้งลูกค้าผู้ซื้อกรรมธรรม์ บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล บุคลากกรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังเป็นการลดภาระทางการเงินการคลังของประเทศ ที่ต้องนำมาใช้จ่ายกับผู้ป่วยโควิดหรือผู้ที่ต้องการตรวจเชื้อโควิด

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

การเสนอขายประกันภัยและประกันสุขภาพโควิดจึงพบเห็นได้ทั่วไป หลายคนก็ออกมาทำงานขายประกันโควิด เพราะสามารถสร้างได้เป็นอย่างดี

ถึงแม้ว่าจะขายง่ายมีคนต้องการซื้อประกันรูปแบบนี้จำนวนมากก็จริง แต่ด้วยตลาดมีขนาดใหญ่เม็ดเงินจำนวนมหาศาล จึงทำให้มีบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยจำนวนมากและที่สำคัญคือมีผู้ขายจำนวนมากด้วย ส่วนมากก็รับพนักงานขายแบบจ่ายเงินตามผลงาน ไม่ได้จ่ายเป็นค่าจ้างประจำ จึงทำให้บางคนที่รู้สึกกดดันเพราะหากขายไม่ได้ก็ไม่มีเงินใช้นั่นเอง

จากข้อมูลข่าวที่มีการเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คของผู้ใช้รายหนึ่ง ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมลงภาพและข้อความ ว่าตนเองได้รับข้อความจากตัวแทนขายประกันของบริษัทประกันรายหนึ่ง หลังจากที่ตนเองได้ทำการปฏิเสธที่จะทำประกันโควิด-19 ข้อความที่ตัวแทนประกันรายนี้ส่งมาว่า "บัตรทอง เตียงสนาม รออยู่" ซึ่งส่งมากจากหมายเลขโทรศัพท์ของตัวแทนคนนี้ จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารย์ในเรื่องนี้ถึงความไม่เหมาะสมถึงการกระทำในครั้งนี้ สุดท้ายแล้วบริษัทต้นสังกัดก็ได้แถลงข่าวออกมาว่าได้ดำเนินการไล่พนักงานคนนี้ออกแล้ว แม้ว่าเขาจะได้โทรขอโทษลูกค้าแล้วและลูกค้าก็ไม่ติดใจเอาความก็ตามที

https://www.amarintv.com/news/detail/77492

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นกรณีที่น่าศึกษาและน่าเรียนรู้ เพื่อที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงการทำงาน แต่ที่สำคัญกว่าคือการเรียนรู้ถึงต้นเหตุของเรื่องนี้ว่ามาจากอะไร แล้วทำไมอดีตตัวแทนประกันรายนี้จึงได้ลงมือกระทำเช่นนี้

เริ่มต้นจากสาเหตุมาจากการที่ถูกปฏิเสธการซื้อแล้วทำให้อดีตตัวแทนประกันรายนี้ไม่พอใจ ดูแล้วน่าจะมาจากความคาดหวังจากรายรับที่จะได้แล้วไม่ได้ แต่ส่วนที่สำคัญที่ต้องคำนึงคือเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งในสังคม เราจะพบเห็นได้หลายครั้ง อย่างเช่นเราพบเห็นคนที่มีความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกันเรา เราก็แสดงความเห็นแบบด่าทอต่อว่า ไม่ได้สนใจว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาคิดต่าง เรื่องนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอดีตตัวแทนรายนี้ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ได้สนใจเหตุผลของลูกค้า

ที่มา Storylog.co

ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กของคนไม่กี่คนแต่สะท้อนถึงวิธีคิดของคนในสังคมที่สนใจผู้อื่นน้อยลง ทำให้ฟังน้อยลงไม่ยอมรับเหตุผลของผู้อื่น เป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากสังคมไทยจะละเลยต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ “ยุคใหม่ฯ”เองไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของอดีตตัวแทนรายนี้ แต่เกิดมาจากของเราๆทั้งสิ้นที่อาจจะส่งเสริมทั้งทางตรงและทางอ้อมของการสนับสนุนให้เกิดเรื่องแบบนี้ ทั้งตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจหรืออาจจะคิอดน้อยหรือไม่คิดเลยก็มี เช่น การส่งข้อข้อมูลที่มีการต่อว่ากันหากผู้นั้นคิดต่าง หรือแม้แต่ออกความเห็นไปในทิศทางเดียวกันผ่านโลกออนไลน์หรือในสังคมที่อยู่ ที่สะท้อนถึงการเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง

ที่มา Richwood Bank

หากเรายังไม่ตระหนักในเรื่องนี้ สังคมไทยที่เคยน่าอยู่ที่เป็นสังคมที่เอื้อเฟื้อต่อกัน มีอะไรก็แบ่งปันใครเดือดร้อนก็ช่วยเหลือกัน อาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้ เพราะปัญหาที่เราเห็นเป็นผลพวงจากสิ่งที้เกิดขึ้นซ้ำๆมานาน เปรียบเทียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งภายใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ได้ซ่อนปัญหาอันมหึมาไว้ หรือขยับมาใกล้ตัวอีกนิดหรือจะติดตัวเราก็เป็นได้คือหัวสิวที่โผล่ขึ้นมา เป็นผลพวงจากการก่อตัวของการอักเสบจำนวนมากภายใต้ผิวเรานั่นเอง

ที่มา Praew Wedding

หาก “ยุคใหม่ฯ” เป็นบริษัทต้นสังกัด สิ่งที่จะดำเนินการจะไม่ใช่การไล่ออก เพราะจะไล่ออกยังไงวิธีคิดแบบเดิมก็ยังคงอยู่ สาเหตุของการเกิดเรื่องนี้ก็ยังไม่ไปไหน สิ่งที่จะแนะนำให้ทำคือ เรียกพนักงานคนนี้กลับมาทำงานหรืออย่างน้อยก็ให้เข้ามาบอกกล่าวเล่าเรื่องที่ทำไมต้องลงมือทำเช่นนี้ แล้วเอาปัญหาที่เกิดขึ้นนำมาหาทางแก้ปัญหา พนักงานที่ไล่ออกหรือจะถูกไล่ออก ก็ประกาศให้สังคมได้รู้ว่าบริษัทได้ให้โอกาสในการปรับปรุงตัวพร้อมกับปรับระบบภายในต่างๆที่จะไม่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอีก

การกระทำเช่นนี้จะสง่างามมากกว่าที่จะไล่ออก เพราะการให้โอกาสคนที่ผิดพลาดหลายครั้งเป็นการให้ชีวิตใหม่เขาด้วย (แต่ไม่ใช่ให้โอกาสตลอดเวลา) ที่สำคัญมากกว่านั้นคือสิ่งที่ดำเนินการที่แม้จะดูว่าเป็นสิ่งเล็กๆ แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อพื้นฐานที่ดีของสังคมไทย ให้หันมาฟังกันมากขึ้นเข้าใจกันมากขึ้นเห็นใจกันมากขึ้น เท่านี้สังคมไทยก็จะน่าอยู่เพราะสังคมดีๆล้วนแล้วเริ่มต้นมาจากสิ่งเล็กๆของการทำเรื่องดีๆ คนไทยเรามีพื้นฐานเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน เรามาร่วมสานต่อสิ่งดีๆที่มีให้แก่กันดีไหมครับ

ที่มา https://www.amarintv.com/news/detail/77492

สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่

Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)

https://www.instagram.com/modernizationmarketing/

Face Book Page: Thailand Modern Marketing

https://www.facebook.com/modernizationmarketing

YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)