Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
on my way
•
ติดตาม
1 พ.ค. 2021 เวลา 11:47 • ปรัชญา
Chapter 5 : “ความเครียด”ที่แทรกซึมในทุกช่วงชีวิต
คนบางคนดูเป็นคนที่มีความสุขมาก จนเราไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรที่มาทำให้เขาเครียดได้
เพราะก็แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่มีใครอยากเปิดเผยด้านลบของตัวเองให้คนอื่นเห็นนัก
เว้นแต่บางเรื่องที่มันหนักเกินรับไหวจริงๆ ความเครียดก็ถูกระบายออก กับเพื่อนบ้าง พ่อแม่บ้าง รวมถึงกับโซเชียลมีเดีย
ทรายค้นพบว่าตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์ ย่อมต้องเจอความเครียดใน ‘ทุกช่วงชีวิต’ ต่างกันตรงเรื่องที่ทำให้เครียด และระดับความเครียดเท่านั้นเอง
เดินทางมาถึงอายุ 21 ปี ก็ถือว่าเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้เลยแหละ แต่วันนี้อยู่ๆก็มีความเครียดขึ้นมา ก็เลยนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ และทบทวนกับตัวเอง แม้ว่าพึ่งเดินทางมาถึงโลกกว้าง แต่ก็มีหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายใน 21 ปีที่ผ่านมา
และในเมื่อทุกช่วงชีวิตก็มีความเครียดที่ต่างกัน ก็เลยอยากมานั่งทบทวนตัวเองดีๆ ว่าตอนนี้เรามาอยู่ในเลเวลไหนแล้วนะ
เราแบ่งระดับความเครียด ในแต่ละช่วงชีวิตแบบกว้างๆ มาได้ประมาณ 3 level
level 1 : เป็นคนที่เพื่อนไม่สนใจ (2007-2012)
ความเครียดเกิดในวัยที่เด็กมากๆ เท่าที่จำความได้ถือประถม ในแต่ละวันเราไม่มีความคาดหวังอะไรมากมาย เราคิดแค่ว่าวันนี้จะได้ไปเล่นอะไรกับเพื่อนที่โรงเรียน อาจารย์จะให้การบ้านเยอะไหม
เราก็เป็นเด็กคนนึงที่จริงจังกับการเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน ต้องได้เป็นเพื่อนสนิทของเพื่อน เป็นคนแรกๆที่เพื่อนนึกถึงในวัยประถม เมื่อเพื่อให้ความสนใจกับเพื่อนคนอื่นมากกว่า ก็เริ่มนอย และเครียด
ความคิดในวัยนี้ คือ จะทำยังไงให้เพื่อนสนใจ และสนิทกับเราที่สุด
Level 2 : จะติดมหา’ลัยที่อยากเรียนไหม? (2017-2018)
เราเป็นคนหนึ่งที่ยอมรับว่ามีอีโก้ มาตราฐาน(ของตัวเอง)สูง แอบมีความ perfectionist พอถึงช่วงชีวิตที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ มันเกิดความเครียด และกดดันมากๆ
ไม่ใช่แค่ว่าอยากมีมหา’ลัยเรียน แต่สำหรับเราต้องเป็นมหา’ลัยที่คาดหวังไว้ และเป็นมหา’ลัยที่มีชื่อเสียง คนในสังคมยอมรับเท่านั้น
จำได้ว่าช่วงใกล้สอบ กับช่วงประกาศผล เราแทบกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แทบไม่ทำให้ตัวเองว่างนอนดูหนังเฉยๆ เพราะเวลานอนไปได้สักพัก จะเริ่มเครียด และรู้สึกว่าต้องลุกไปอ่านหนังสือได้แล้ว เรียกง่ายๆคือทำอะไรก็นึกถึงแต่สิ่งนี้
ใช่ค่ะ มันเครียดถึงขั้นนั้นเลยค่ะ
จนวันนึงเราอ่านหนังสือมาทั้งวันจนเหนื่อยมากๆ เลยนอนกอดตุ๊กตาที่นุ่มมากๆ สายตามองหน้าต่างที่ลมกำลังพริ้วไหว มันมีความสุขแบบบอกไม่ถูก เหมือนใจมันได้พักจริงๆครั้งแรก
ซึ่งเรายังจำความรู้สึกนั้นได้ดี และเราก็ปณิธานกับตัวเองว่า ถ้าสอบเสร็จเมื่อไหร่ เราจะมานอนกอดตุ๊กตาตัวนี้ และมองไปที่หน้าต่างจนพล้อยหลับไปอีกครั้ง
ในที่สุด... เราก็ผ่านมันมาได้ และก็เป็นผลลัพธ์ที่เรา และพ่อแม่ก็ภูมิใจ เราโล่งมาก และคิดว่าฉันหายเครียดแล้ว เย่
แต่!!!! ความเป็นจริงคือ นี่แค่จุดเริ่มต้น หนทางการโตเป็นผู้ใหญ่ยาก และเครียดกว่านี้เยอะ ..
โอเค จะเอาละนะ พร้อมยัง ความเครียดรออยู่นะ
Level 3 : เราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แบบไหนนะ? (2020 until Now)
ในขณะที่เริ่มก้าวเข้ามาสู่รั้วมหา’ลัย แรกๆก็ยังมีสนุกสนานไปวันๆ จนเริ่มโตขึ้นทุกวันๆและรู้สึกว่า
นี่ชีวิตเราจะไม่มีวันหายเครียดสินะ เมื่อหายเครียดเรื่องหนึ่ง ก็จะมีเรื่องเครียดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมเสมอ
และมันไม่แปลกที่เป็นแบบนั้น
เพราะอะไรน่ะหรอ ความต้องการ และภาระหน้าที่มากขึ้นน่ะสิ
และในตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือ การได้ฝึกงานที่ดีๆ เพื่อที่จะได้ฝึกฝนทักษะตัวเอง และสร้างคอนเนคชันดีๆ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มตัว และมีงานดีๆรองรับ
ด้วยความที่เป็นคนอีโก้ ทำงานก็ต้องได้งานดีเท่านั้น เรียนก็ต้องได้เกรดสูงเท่านั้น มันเลยเป็นความเครียด กดดันว่าตัวเองจะต้องทำให้ ‘ตัวเองยอมรับตัวเอง’ ให้ได้
ตอนนี้ก็เดินทางมาถึงความเครียดระดับที่ 3 และเชื่อว่าอนาคตจะเจอลำดับ 456789 ไปอีกเรื่อยๆ แต่อยากมีบันทึกไว้ว่า โอเค ตอนนี้เรามาถึงระดับนี้แล้วนะ สู้ๆนะ
ยังไงชีวิตมันก็ต้องเจอความท้าทายทุกวัน ความเครียดก็เป็นสิ่งที่มาพร้อมความท้าทาย อย่าหยุดพัฒนาตัวเองหละ เพราะถ้าเมื่อใดรู้สึกแบบนั้น ตอนนั้นชีวิตคงไม่พัฒนาต่อแล้ว
ตราบใดที่ยังอยาก grow up ไม่แปลกที่จะเจอ challenge ใหม่ ที่ ใหญ่ กว่าเดิมในทุกวัน
สู้ๆนะตัวฉัน
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย