อยากเป็นหัวหน้าที่มีบารมีต้องทำอย่างไร?
การที่คนเรามีโอกาส"ได้เป็นหัวหน้า"นั้น..จะว่ายากนั้นก็คงไม่ยากเกินไปกว่า..การ"เป็นหัวหน้าที่เป็นได้"อย่างแท้จริง
หัวหน้าที่ดีนั้น จำเป็นต้องมีบารมีติดอยู่ในตนเองเสมอ อย่าคิดว่าตัวเรานั้นมีอำนาจเหนือคน..เพราะ..
หัวหน้าที่มีบารมีนั้น เวลาใครเข้าไปอยู่ใกล้ๆจะมีแต่"ความอบอุ่น"มีความสบายใจ
ต่างจากหัวหน้าที่ไร้ซึ่งบารมี..เพราะเวลาที่คนเข้าไปอยู่ใกล้ๆจะมีแต่"ความอบอ้าว"ชีวิตไม่เป็นสุข
ดังนั้นใครที่บังเอิญได้เป็นหัวหน้า..พึงจะต้องหมั่นสร้างสมบารมีของตนตั้งแต่เนิ่นๆจะรอช้ามิได้ และไม่สามารถจะสร้างได้ในชั่วข้ามคืน
แนวทางการเสริมสร้างบารมีของหัวหน้า 10ประการ ที่ควรเร่งเติมให้เต็มมีดังนี้คือ...
(1) จงหมั่นให้ความรู้แก่ผู้อื่น
การให้โดยมิต้องหวังผลตอบแทนย่อมมีคุณค่าเสมอ การให้ความรู้คือการให้หนทางชี้ทางสว่างแก่ผู้คน ยิ่งให้สิ่งเหล่านี้ยิ่งมีบารมีของ.."ความเคารพนับถือ "ตามมา
(2) จงหมั่นเปิดใจรับฟังสิ่งดีๆ
เมื่อใดที่คนเราเปิดใจฟังในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ย่อมเท่ากับการเสริมพลังเพิ่มพูลให้ตนเองมีพลังเชิงบวกมากยิ่งขึ้น ยิ่งรับฟังสิ่งดียิ่งมีทัศนคติที่ดี จนมีบารมีได้รับ"ความยอมรับ"จากผู้คนมากยิ่งขึ้น
(3)จงหมั่นมีความคิดเห็นที่ถูกต้อง
เมื่อคนเรามีความชัดเจน ว่าสิ่งใดดีและสิ่งใดไม่ดี ย่อมสามารถแยกแยะสิ่งต่างๆได้ถูกต้อง จึงมีความมั่นคงไร้ความหวั่นไหว ยิ่งเห็นชอบชัดเจน จึงยิ่งมีบารมีแห่ง"ความศรัทธา"ตามมาเสมอ
(4)จงหมั่นรู้จักการให้และแบ่งปัน
การให้คือพื้นฐานของการเรียนรู้การเป็นผู้ชนะใจตนเองที่สำคัญ เพราะช่วยลดความเห็นแก่ตัวลงทำให้รู้ตัว..ไม่หลงตนเองได้ ยิ่งให้ก็ยิ่งเพิ่มบารมีทำให้ "มีความสง่างาม"
(5)จงหมั่นรักษาวินัยในตนเอง
เมื่อคนเรามีวินัยในตนเอง จะไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฏระเบียบใดๆมาคอยกำกับติดตามควบคุม จึงมีความอิสระที่จะทำทุกสิ่งอย่างมีสติ ยิ่งมีวินัยจึงยิ่งเพิ่มบารมีให้ผู้คน"ยึดถือเป็นแบบอย่างได้"
(6)จงหมั่นสงบจิตสงบใจอยู่เสมอ
คนที่มีจิตนิ่งใจสงบ ย่อมมีขันติและความอดทนสูง มีความหนักแน่น ยิ่งมีความนิ่งยิ่งเกิดบารมีให้ผู้คนได้สัมผัสถึง "ความเชื่อมั่นเชื่อใจ"และมีคนเดินตาม
(7)จงหมั่นวางตัวให้มีความอ่อนน้อม
ความถ่อมตน ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานเท่ากับการรู้จักวางตนไม่ให้หยิ่งผยองในอำนาจ พร้อมเป็นผู้ถูกสอนได้ ดังนั้นยิ่งอ่อนน้อม ยิ่งมีบารมีทำให้ผู้คน "ให้เกียรติ"มากยิ่งขึ้น
(8)จงหมั่นให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
การช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่านั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ สิ่งสำคัญคือการแสดงออกถึง ความมีน้ำใจ ยิ่งมีน้ำใจ ก็ยิ่งมากบารมี ทำให้เกิด"ความชื่นชมพร้อมร่วมมือ"ตามมา
(9)จงหมั่นแผ่เมตตาด้วยไมตรีจิต
การแสดงออกถึงการเป็นผู้ที่มีจิตใจอันกว้างขวาง ไม่แบ่งแยก ไม่ถือโทษโกธรเคืองใครง่ายๆ พร้อมที่จะเมตตาให้อภัย ไร้อาฆาต ผูกใจเจ็บ ละพยาบาทได้ ดังนั้นยิ่งมีไมตรีจิตอันบริสุทธิ์ ก็ยิ่งมีบารมี "อบอุ่นร่มเย็น"ให้ผู้คน
(10)จงหมั่นยินดีในคุณงามความดีของผู้อื่น
ความรู้สึกพลอยยินดีต่อผู้อื่นนั้น เป็นสิ่งช่วยขจัดความอิจฉาริษยาออกจากใจของคนเราได้ เพราะยิ่งดีใจกับผู้อื่น ก็ยิ่งเท่ากับเสริมบารมีให้ตนเองมี"มิตรภาพที่สูงส่ง"มากยิ่งขึ้นตามมา
กล่าวโดยสรุปแล้ว การสร้างเสริมบารมีของการเป็นหัวหน้าที่ดีทั้ง10ประการที่ได้กล่าวมานั้น จะว่าไปแล้วก็คือการค้นหาเพื่อค้นพบคุณงามความดีในตนเองนั่นเอง
ยิ่งเป็นหัวหน้าที่เปี่ยมด้วยบารมี ก็เปรียบเสมือนว่าตัวหัวหน้าเองนั้นก็จะมี"ร่มคู่ชีพ"คอยช่วยกันแสงยูวี จากแสงแดดอันร้อนแรงได้ และในยามเผชิญพายุฝนฟ้ากระหน่ำก็จะไม่เปียกชุ่มจนเกินไป
บารมีเกิดขึ้นเมื่อ
@มีความเคารพนับถือ
@มีความยอมรับ
@มีความศรัทธา
@มีความสง่างาม
@ยึดถือเป็นแบบอย่างได้
@มีความเชื่อมั่นเชื่อใจ
@มีคนให้เกียรติ
@มีความชื่นชมพร้อมร่วมมือ
@มีความอบอุ่นร่มเย็น
@มีมิตรภาพที่สูงส่ง
ทุกข้อนั้นสำคัญ..แต่3ข้อแรกนั้นเป็นพื้นฐานที่ต้องมีสำหรับคนเรา...
พึงระลึกไว้เสมอว่า
"ลูกน้องไม่มาหาก็เพราะ..บารมียังไม่มี
ลูกน้องไม่หลบหน้าหนีก็เพราะ บารมียังไม่ลด
ลูกน้องไม่หายหมด ก็เพราะบารมียังไม่แห้ง"
...บารมีต้องสร้างซื้อหามิได้.."LL&L2/5/64
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
