2 พ.ค. 2021 เวลา 05:00 • ท่องเที่ยว
Dive 2 Shark ตอนที่ 1
SATTAHIP (อ.สัตหีบ) เป็นถิ่นที่อยู่สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก น้ำทะเลในสมัยนั้นใสสะอาดมาก ครอบครัวผมพักอาศัยอยู่บ้านหลวงในค่ายทหารแห่งหนึ่ง บ้านจึงอยู่ไม่ไกลจากทะเลมากนัก
รูปทรงของเรือที่คุณพ่อพานั่งไปตกปลา เป็นแบบนี้
จำได้ว่าตอนนั้นเรียนอยู่ ป.2 พอช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์และว่างจากการขายของ คุณพ่อของผมและเพื่อนของท่านอีก 2 คน จะพากันเอาเรือลำเล็กๆ ไม่มีเก๋งหรือหลังคาที่จะให้หลบแดด หลบฝน ติดเครื่องหางยาวท้ายเรือ พากันออกไปตกปลาที่เกาะเป็ด
บางทีก็พากันไปไกลถึงเกาะคราม ซึ่งคุณพ่อก็จะพาผมไปด้วยทุกครั้ง และทุกครั้งที่ออกเรือ ผมก็ไม่เคยพลาดที่จะมีกิริยาวาจาที่พิกลพิการยิ่งนัก “แหวะ ๆ ๆ” จากนั้นก็นอนขดตัวทรมานตากแดดอยู่บนเรือลำเล็กๆ นั่นแหละ
พอถึงที่หมายตกปลา คุณพ่อก็โยนสมอลงทะเล อาเรือง อาทศ ก็หยิบรนเบ็ดกันขึ้นมา รนเบ็ดที่ว่าเป็นโฟมหนารูปร่างคล้ายขวดนมเด็กมีเอ็นตกปลาม้วนเก็บอยู่ ปลายสายเอ็นจะผูกตะกั่วรูปร่างคล้ายหัวกระสุนกับเบ็ดเอาไว้  จากนั้นทุกคนก็จะหยิบหมึกสดชิ้นเล็กๆ มาเกี่ยวที่เบ็ดก่อนจะหย่อนเบ็ดลงสู่ท้องทะเล
ส่วนผมก็ชอบชะโงกหน้าก้มลงมองลงไปในทะเล เพราะกลัวเจอฉลามเหมือนในหนังเรื่อง จอว์ส ที่มาฉายกลางแปลงแถวบ้านตอนงานทำบุญตั้งศาลพระเจ้าตากสิน
คุณพ่อก็จะคอยเตือนว่า “ระวังเมาคลื่นนะลูก มองไปไกลๆ จะได้ไม่เมา” คุณพ่อบอกผมได้ไม่ทันขาดคำ “แหวะ ๆๆๆ”  ผมก็ให้อาหารปลาเสียแล้ว พอผมเมาคลื่น พวกอาๆ เขาก็จะบอกให้กระโดดลงทะเลจะได้หายเมา แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่เคยกระโดดลงไปสักครั้ง เพราะว่ายน้ำไม่เป็น
คุณพ่อผมท่านก็รักและเป็นห่วงลูกชายอย่างผม เลยใช้ถังน้ำสังกะสีที่เตรียมมาใส่ปลา ตักน้ำทะเลรดหัวให้ผมหายเมา แต่หายได้พักเดียวก็เมาอีก เมาแล้วก็นอนขดใต้ท้องเรือ แต่ระหว่างที่นอนทรมานอยู่นั้น “ตุ๊ก ๆ ดูฉลามเร็ว”
เต่าตนุ  หัวป้อมปากสั้น เกล็ดต่อกัน
SIPADAN เป็นแหล่งดำน้ำในประเทศมาเลเซียที่คนไทยนิยมไปกัน ซึ่งกฏ ระเบียบการดำน้ำของที่นั่นค่อนข้างเข้มงวดมาก เพราะ Dive leader ของเขาจะขอทดสอบทักษะการดำน้ำของเราก่อนดำ ไม่เว้นแม้กระทั่งผมที่เป็น Instructor
ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีครับ และจากการบอกเล่าของ Dive leader เขาบอกว่า ที่สีปาดันนี้เป็นเขตสัมปทาน ห้ามเรือประมงเข้ามาทำการประมง และคนต่างชาติก็ไม่สามารถมาประกอบอาชีพเป็น Dive leader ที่นี่ได้ เพราะมีกฎหมายบังคับ
ซึ่งต่างจากบ้านเรา ที่ใครอยากมาทำอะไรก็มา ใครอยากเป็นอะไรก็เป็น เป็นแล้วทำแล้ว ได้เงินแล้วก็หอบเงินกลับประเทศตัวเองหรือเอาไปเที่ยวประเทศอื่นต่อ
บางคนก็อยู่หากินที่เมืองไทยยาว ภาษีเงินได้ไม่ต้องเสียให้เมืองไทย แต่เสียค่าสมาชิกการเป็นผู้สอนดำน้ำรายปีให้กับองค์กรที่ตัวเองสังกัด ซึ่งองค์กรที่ว่าก็เป็นของต่างประเทศทั้งหมดไม่เกี่ยวกับประเทศไทย....การท่องเที่ยวต่างๆ ก็เพ้อเจ้อว่าได้เงินจากการท่องเที่ยวดำน้ำปีละหลายร้อยล้านบาท....ไม่อยากเหลา เพราะเหลามา 20 ปี แล้วไม่เห็นมีหน่วยงานใด หรือใครจะกระดิก
สามวันที่ดำน้ำที่นี่ มีสัตว์ใต้ทะเลให้เราดูเยอะมากโดยเฉพาะเต่า ตอนลงดำไดฟ์แรกเจอเต่าตัวไม่ใหญ่มากนัก แต่พวกเราก็ตื่นเต้นกันมาก เพราะที่บ้านเรากว่าจะเจอกันสักตัวแสนลำบากยากเข็ญ แทบจะต้องจุดธูปบนบานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์
แต่ที่สีปาดันนี่ดำกันไปได้สักพักก็เจอ สักพักก็เจอ เจอแต่ละตัวตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น และก็เจอมันทุกไดฟ์ ไดฟ์ละไม่ต่ำกว่า 5 ตัว เรียกว่าเห็นจนเบื่อ เราจึงตั้งกฎกันขึ้นมาว่า ใครเรียกให้ดูเต่าจะโดนปรับ 100 บาท เพราะไม่เรียกให้ดูก็เห็นเองอยู่แล้ว
แล้วผมก็มาถึงบางอ้อว่าทำไมที่เกาะสีปาดันถึงมีเต่าเยอะ เพราะที่ใต้เกาะนี้มีถ้ำซึ่งเป็นสุสานของเต่า และสีปาดันนั้นก็แปลว่า “เต่า”
โปรดติดตามตอนจบ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา