2 พ.ค. 2021 เวลา 02:35 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
6 อนิเมชั่น เยียวยาหัวใจจากค่ายจิบลิ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาระบาดอีกครั้งเป็นระลอกที่ 3 ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากหลักร้อยเป็นหลักพัน และกระจายไปยังหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวไม่คึกคัก
ช่วงเวลาเช่นนี้ การได้ดูภาพยนตร์ดีๆสักเรื่องจะช่วยปลอบประโลมจิตใจให้ผ่อนคลายได้มากขึ้น
สิ่งที่ช่วยยืนยันว่าการดูภาพยนตร์สามารถสร้างพลังงานเชิงบวกได้ เกี่ยวเนื่องมาจากทฤษฎีจิตวิทยาเชิงบวก ได้แก่ ความหวัง การมองโลกในแง่ดี และความสามารถในการฟื้นคืน ซึ่งหมายความว่า ถ้าภาพยนตร์เหล่านั้นสามารถสร้างความหวัง หรือเปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างวิธีคิดที่ดีให้เราได้ ก็ถือว่าพลังงานเชิงบวกได้เกิดขึ้นแล้ว
ผู้เขียนจึงอยากจะเสนอภาพยนตร์อนิเมชั่นสุดประทับใจของสตูดิโอภาพยนตร์อนิเมะของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามาตั้งแต่ยุค 90s นั่นก็คือสตูดิโอจิบลิ ที่จะช่วยสร้างความรู้สึกด้านบวกให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน
My Neighbour Totoro (1989)
โทโทโร่เพื่อนรัก เป็นเรื่องราวความผูกพันธ์ระหว่างเด็กหญิงเมและโทโทโร่ สัตว์ประหลาดขนฟู มีลักษณะตัวอ้วนกลมปานจะกลิ้งได้ ปัจจุบันนี้โทโทโร่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสตูดิโอจิบลิไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ด้วยเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย แต่กลับแฝงไปด้วยความบริสุทธิ์ สะอาด ความอบอุ่น พลังงานบวกจะส่งผู้ชมตลอดการเล่าเรื่อง
Howl’s Moving Castle (2004)
ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (2547) เค้าโครงเรื่อมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของไดอาน่าไวนน์ โจนส์ เขียนบทและกับกำโดยฮายาโอะ มิยาซากิ
เป็นเรื่องราวของหญิงสาว ชื่อว่า โซฟี ลูกสาวร้านขายหมวกที่รับช่วต่อจากคุณพ่อของเธอ จากนั้นมีเหตุให้เธอโดนแม่มดสาปกลายเป็นคนแก่ เธอได้ออกเดินทางและได้เข้าไปยังปราสาทของฮาวล์ ทำให้เธอได้พบกับฮาวล์และปีศาจไฟ ที่มาเกี่ยวพันกับสงครามระหว่าง 2 อาณาจักร ที่มีปราสาทของพ่อมดฮาวล์อยู่ตรงกลางจากนั้นเรื่องราวแสนสนุกของเธอจึงเริ่มต้นขึ้น
When Marnie Was There (2014)
ฝันของฉันต้องมีเธอ (2557) เป็นอนิเมชั่นที่สร้างจากนวนิยายของ โจอัน จี. โรบินสัน ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวของอันนะ ซาซากิ เด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ย้ายมาอยู่ชนบทกับญาติของแม่ เพื่อที่จะรักษาอาการจากโรคประจำตัว ตลอดเวลาที่เธอมาอยู่กับญาติ เธอมักจะฝันเห็นเด็กหญิงผมสีทองวัยไกล้เคียงกันในทุกๆคืน เธอกับเด็กสาวปริศนาคนนั้นจะออกไปเดินเล่น ล่องเรือกันอย่างมีความสุข
1
Princess Mononoke (1997) เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร
โมโนะโนะเกะฮิเมะเป็นภาพยนตร์ย้อนยุคซึ่งมีฉากอยู่ในปลายยุคมุโระมะจิของญี่ปุ่น แต่แต่งเติมด้วยองค์ประกอบจากจินตนาการจำนวนมาก
เนื้อเรื่องกล่าวถึงอะชิตะกะซึ่งเป็นคนภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพลังเหนือธรรมชาติที่ดูแลป่าและผู้คนของโลหะนครซึ่งใช้ทรัพยากรจากป่า ในเรื่องนี้มิได้แสดงถึงฝ่ายดีหรือฝ่ายชั่วที่เด่นชัด และจุดยืนของผู้สร้างภาพยนตร์ก็เปลี่ยนไปมาระหว่างทั้งสองฝ่าย ไม่มีชัยชนะของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ชัดเจน มีเพียงความหวังที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติจะดำเนินเป็นวัฎจักรต่อไป
1
Kiki’s Delivery Service (2003) แม่มดน้อยกิกิ
เป็นเรื่องราวสนุกๆของแม่มดน้อยกิกิที่มีแมวน้อยชื่อ จิจิ แม่มดน้อยกิกิได้ขี่ไม้กวาดเข้าไปในเมืองที่มีผู้คนอยู่มากมาย เกิดเป็นเรื่องราวแห่งการเรียนรู้ที่แม่มดน้อยกิกิต้องพึ่งพาตัวเอง ซึ่งบางครั้งเธอก็ผิดพลาดบ้างทำให้ได้เรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้น
The Tale of Princess Kaguya (2013) เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่
2
ดัดแปลงมาจากตำนานพื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่น เรื่อง “ตำนานคนตัดไผ่”หรือตำนาน “เจ้าหญิงคางูยะ” เป็นเรื่องของตะเกะโตริ โนะโอะกินะ ชายชราผู้เลี้ยงชีพด้วยการขายไม้ไผ่
วันหนึ่งขณะที่เขาเข้าไปตัดไม้ไผ่ในป่าเขาได้มองเห็นปล้องไผ่ต้นหนึ่งส่องแสงเรืองรองเข้า และพบว่าภายในมีเด็กทารกผู้หญิงนอนอยู่ ซึ่งเนื้อหาจากอนิเมชั่นเรื่องนี้จะสะท้อนความเป็นไปของมนุษย์ได้อย่างถึงแก่น นอกจากนี้อนิเมชั่นเรื่องนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลครั้งที่ 87
นอกเหนือจากที่ผู้เขียนได้รวบรวมมาแล้วนั้น สตูดิโอจิบลิมีภาพยนตร์อนิเมชั่นอีกหลายเรื่องที่น่าติดตาม เช่น Pom Poko (1994) ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก (2537),Porco Rosso (1998) สลัดอากาศประจัญบาน (2535),Grave of the Fireflies (1989) สุสานหิ่งห้อย (2531),Whisper of the Heart (1995) วันนั้น…วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู (2538),From Up On Poppy Hill (2011) ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหารย์,Arrietty (2010) อาริเอตี้ มหัศจรรย์ความลับคนตัวจิ๋ว (2553)
 
ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศิลปะแขนงที่ 7 อย่างภาพยนตร์จะช่วยสร้างพลังเชิงบวก สร้างความหวังให้กับผู้คนที่ต้องเผชิญกับวิกฤตในสังคมในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง
“They say that the best blaze burns brightest when circumstances are at their worst.”
.
“ มีบางคนเคยพูดไว้ว่า เปลวไฟที่สวยงามที่สุด อาจเกิดในสถานการณ์ที่มืดมนที่สุด”
Howl’s Moving Castle (2004)
ผู้เขียน : โมโม่ นักเขียนฝึกหัด
โฆษณา