2 พ.ค. 2021 เวลา 07:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Review Die tomorrow 2017: หนังที่พาเราเข้าไปสำรวจความตายในหลายมิติ
1. Die tomorrow เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า-สารคดีที่เข้าฉายในปี 2017 โดยผู้กำกับ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เป็นหนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับความตายที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยผสมระหว่างการแสดงผสมกับฟุตเทจสัมภาษณ์
2. Part การแสดง เป็นการแสดงแบบ long-take ความยาวประมาณ 6-10 นาที โดยเหตุการณ์ในแต่ละ part จะเกี่ยวข้องกับ 8 เหตุการณ์การเสียชีวิตในช่วงปี พ.ศ. 2555-2560 โดยมีทั้งนักแสดงที่เคยร่วมงานกับพี่เต๋อ เช่น จูนจูน พัดชา เมโกะ ชนนิกานต์ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ออกแบบ ชุติมนต์ เต้ย จรินทร์พร และ วี วิโอเลต และนักแสดงที่ยังไม่เคยร่วมงาน เช่น พลอย รัตนรัตน์ หลิว มรกต และน้าค่อม บทสนทนาของแต่ละเหตุการณ์ใน part นี้เป็นบทสนทนาทั่ว ๆ ไป ที่ทำให้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ของการตาย เช่น สาเหตุการตาย (อุบัติเหตุ โรค ดวงชะตา) วัยที่ตาย (หนุ่มสาว คนแก่) มุมมองต่อความตายของคนที่ใกล้ตายกับคนรอบข้าง ความผูกผันระหว่างคนอยู่กับคนตาย (เสียใจ เฉยชา ดีใจ) และ ข้อดีข้อเสียของการตาย
3. Part สัมภาษณ์/ ฟุจเทต/ข้อมูลประกอบ เป็น sub plot ที่เข้ามาเสริมกับ Part การแสดง ได้ดี เช่นข้อมูลการตายเชิงสถิติต่อ 1 วัน วิธีการตาย 10 อันดับที่ได้ผลดีที่สุด แมลงที่มีอายุสั้นที่สุด หรือแม้กระทั่งการสัมภาษณ์มุมมองต่อความตายระหว่างเด็กอายุ 11 ปีที่ search ข้อมูลจาก google ก่อนมาให้สัมภาษณ์ และคุณปู่อายุ 102 ปี ที่ผ่านโลกมาเยอะ โดยถึงแม้ว่าทั้งคู่จะอายุต่างกันแต่มีมุมมองการตายที่เหมือนกันแต่เหตุผลของทั้งคู่นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
3. ดนตรีประกอบในหนัง โดยความคิดเห็นส่วนตัวทำให้เราจดจ่อกับหนังได้ง่ายขึ้น (ผู้เขียนดูผ่าน NF) และค่อยๆ คิดตามแต่ละเหตุการณ์ได้ดี message หลักที่นำเสนอเป็นเรื่องสากล เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และตรงตาม concept ของหนังคือ "ทุก ๆ วันย่อมมีคนจากไป" และ "วันก่อนตายก็เป็นเพียงแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง"
โฆษณา