Guns n' Roses - Appetite for Destruction (1987)
Axl Rose นักร้องนำบอกว่าเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้แต่งขึ้นสมัยที่วงตระเวนเล่นตามคลับในลอสแอนเจลิส หลายเพลงที่ภายหลังปรากฏอยู่ในอัลบั้มถัดมาอย่าง เช่น "Back Off Bitch", "You Could Be Mine", "November Rain" และ "Don't Cry" ก็ถูกแต่งขึ้นในช่วงนี้ สาเหตุที่ "November Rain" และ "Don't Cry" ไม่ถูกนำมารวมในอัลบั้มนี้เพราะพวกเขาตัดสินใจเลือก "Sweet Child 'O Mine" เป็นเพลงบัลลาดหนึ่งเดียวในอัลบั้ม (แต่ทั้งสองเพลงถูกนำมารวมอยู่ในอัลบั้ม Use Your Illusion ซึ่งมีเพลงบัลลาดมากกว่าหนึ่งเพลง)
โปรดิวเซอร์ Spencer Proffer ถูกว่าจ้างให้มาบันทึกเสียงเพลง "Nightrain" และ "Sweet Child o' Mine" เพื่อทดสอบว่าเคมีเข้ากับวงได้มั้ย สุดท้ายพวกเขาบันทึกเสียงไปทั้งหมด 9 เพลงในเซสชั่นนี้มีเพลงอย่าง "Heartbreak Hotel", "Don't Cry", "Welcome to the Jungle" และ"Shadow of Your Love" แม้ว่าวงจะชอบ Proffer แต่กลับไม่ชอบซาวด์ที่ออกมาเท่าไหร่นัก ปลายปี 1986 พวกเขาอัดเดโมร่วมกับ Manny Charlton มือกีต้าร์วง Nazareth และมองหาโปรดิวเซอร์คนใหม่ Paul Stanley นักร้องและมือกีต้าร์วง Kiss เคยเป็นหนึ่งในตัวเลือก แต่เขาพยายามจะเปลี่ยนเซ็ตอัพกลองของ Steven Adler มากจนเกินไปเลยถูกปฏิเสธจากทางวง Robert John "Mutt" Lange (เคยร่วมงานกับ AC/DC,Def Leppard) ก็เป็นอีกตัวเลือกนึง แต่ต้นสังกัดยังไม่อยากทุ่มงบประมาณกับโปรดิวเซอร์ชื่อดัง สุดท้าย Mike Clink ก็เป็นผู้รับตำแหน่งนี้ ทางวงอัดเสียง "Shadow of Your Love" กับ Clink เป็นเพลงแรกเพื่อทำการทดสอบ
หลังจากใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการซ้อม Guns n' Roses เดินทางเข้าสตูดิโอ Rumbo Recorders เพื่อเริ่มบันทึกเสียงในเดือน ม.ค. ปี 1987 พวกเขาใช้เวลา 2 สัปดาห์สำหรับอัดเบสิกแทร็ค Clink เลือกเทคที่ดีที่สุดโดยการใช้ใบมีดโกนตัดเทป ในเดือนต่อมา Clink ทำงานวันละ 18 ชั่วโมงเพื่ออัดโอเวอร์ดับกีต้าร์ของ Slash และอัดเสียงร้องของ Axl Rose ในขณะนั้น Slash ยังหาซาวด์กีต้าร์ที่ถูกใจไม่ได้ สุดท้ายเขาใช้กีต้าร์ที่ก็อปปี้ Gibson Les Paul ต่อเข้ากับแอมป์ Marshall เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงร่วมกับ Clink ในการโอเวอร์ดับและทำท่อนโซโล่ อัลบั้มนี้ใช้งบประมาณในการบันทึกเสียงประมาณ 370,000 เหรียญ Steven Adler มือกลองเล่าว่า เขาใช้เวลาอัดกลองทั้งหมดแค่ 6 วัน แต่เสียงร้องของ Rose นั้นใช้เวลานานมาก เขายืนยันที่จะร้องทีละบรรทัดเพราะความเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ และบังคับให้สมาชิกทุกคนออกจากสตูดิโอขณะที่เขาอัดร้อง ในเพลง "Rocket Queen" นั้นตอนช่วงโซโล่คือเสียงของ Axl Rose กำลังมีเซ็กส์กับหญิงสาวคนหนึ่งในสตูดิโอซึ่งมารู้ในภายหลังว่าเป็นแฟนของ Steven Adler พวกเขาอัดโอเวอร์ดับครั้งสุดท้ายและมิกซ์เสียงที่ Mediasound สตูดิโอ จากนั้นย้ายไปมาสเตอริ่งที่ Sterling Sound ในนิวยอร์ค
หลายเพลงในอัลบั้ม Appetite For Destruction เริ่มแต่งมาจากสมาชิกแต่ละคนเป็นการส่วนตัวก่อนจะนำมาทำต่อให้เสร็จในภายหลัง เช่น "It's So Easy" (โดย Duff McKagan มือเบส) "Think About You" (โดย Izzy Stradlin กีต้าร์) ส่วน "Rocket Queen" เป็นเพลงที่ยังแต่งไม่เสร็จโดย Slash,McKagan และ Adler สมัยอยู่กับวง Road Crew ในขณะที่ "Anything Goes" นั้นแต่งโดยวง Hollywood Rose (วงเก่าของ Axl Rose และ Izzy Stradlin) ก่อนจะนำมาทำใหม่ในอัลบั้มนี้
เนื้อเพลงส่วนใหญ่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของสมาชิกวงและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ตัวอย่างเช่น "Welcome to the Jungle" เนื้อเพลงที Rose เขียนพูดถึงเรื่องราวของผู้คนในนิวยอร์คที่เขาพบเจอตอนที่ย้ายมาจากอินเดียนาใหม่ๆในปี 1981 และ "Mr. Brownstone" เล่าถึงปัญหาการใช้เฮโรอีนของสมาชิกวง ส่วนเนื้อร้องในบางเพลงก็พูดถึงชีวิตในอดีต อย่างเพลง "Out ta Get Me" ที่เล่าถึงการทำเรื่องผิดกฏหมายหลายครั้งในวัยเยาว์ของ Axl Rose สมัยอยู่ที่อินเดียนา
...
#สตูดิโอแลนด์
#GunsNRoses
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
