ผมเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูหนังไต้หวันเท่าไรนัก
จึงไม่รู้แนวทางของหนังประเทศนี้
จนเมื่อไม่นานมานี้ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังไต้หวันทาง Netflix
ที่ชื่อว่า “The Soul” โดยที่ทีแรกคิดว่ามันเป็นหนังฆาตกรรมไล่ล่าสืบสวนทั่วไป
พอดูไปเหมือนจะเป็นหนังผี
พอเลยกลางเรื่องกลับกลายเป็นหนังวิทยาศาสตร์ ไฮเทค
แต่พอเข้าสู่บทสรุปกลายเป็นหนังซาบซึ้งหัวใจ
เรียกได้ว่าขณะที่ผมดูเรื่องนี้ คาดเดาเนื้อเรื่องไม่ถูกเลย
ตัวหนังพร้อมที่จะพลิกไปพลิกมาตลอดเรื่อง
และหากใครที่อยากจะดู The Soul ผมขอแนะนำว่า
อย่าเพิ่งอ่านรีวิว หรือหาข้อมูลอะไรก่อนดู เพราะยิ่งเราไม่รู้อะไรเลย
จะยิ่งทำให้ดูหนังสนุก คาดเดาอะไรไม่ได้ จนทำให้เราลุ้นติดตามไปจนสู่บทสรุปท้ายเรื่อง
ดังนั้นใครไม่อยากโดนสปอย
สามารถข้ามบทความต่อไปนี้ได้ ไว้เมื่อดูเสร็จแล้วค่อยกลับมาอ่าน
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ
The Soul เล่าถึงโลกอนาคตในอีกหลายสิบปีข้างหน้า
เรื่องราวเริ่มขึ้นจากเหตุฆาตกรรม หวังซื่อชง นักวิทยาศาสตร์มหาเศรษฐี เจ้าของ
บริษัทเทคโนโลยีที่พัฒนาการรักษาโรคให้กับมนุษย์
โดยสภาพศพถูกของแข็งตีที่หัวจนตายภายในบ้าน
ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยคือภรรยาสาวของหวังซื่อชงเองที่นอนสลบอยู่ข้างๆ ศพ
กับลูกชายของหวังซื่อชงกับภรรยาคนแรกที่เสียชีวิตไปก่อนแล้ว
เมื่อตำรวจได้มาตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ
ก็ได้พบว่าคดีนี้มันลึกลับซับซ้อนเกินกว่าที่เห็นจากภายนอก
ทางสื่อ ทางสังคมต่างก็จับจ้อง
เพราะถือว่าเป็นคดีใหญ่ เป็นเหตุฆาตกรรมคนมีชื่อเสียง
ตำรวจจึงกดดันเป็นอย่างมากที่จะต้องไขคดีนี้ให้กระจ่างให้ได้
แล้ว เหลียงเหวินเฉา อัยการมือดีที่กำลังพักงานรักษาตัวจากโรคมะเร็ง
ก็ได้อาสารับคดีใหญ่นี้มาทำ ด้วยเพราะอาการโรคมะเร็งของเขาแทบจะไม่มีทางรักษาได้แล้ว
จึงหวังที่จะทำคดีนี้เป็นงานทิ้งทวน แล้วเอาเงินก้อนนี้เก็บไว้ให้ภรรยาเขาที่กำลังตั้งครรภ์ไว้ใช้จ่ายในอนาคต
เหลียงเหวินเฉา เรียกผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนมาสอบสวน
ทั้งภรรยาสาวของหวังซื่อชง และลูกชายของหวังซื่อชง
โดยที่ทั้งสองคนต่างก็มีมูลเหตุแรงจูงใจที่จะฆ่าหวังซื่อชงได้ทั้งคู่
ภรรยาสาวอาจฆ่าเพราะต้องการทรัพย์สมบัติเงินประกันทั้งหมด ที่หวังซื่อชงได้ยกไว้ให้
ส่วนตัวลูกชายอาจจะฆ่าเพราะเจ็บแค้นที่หวังซื่อชงนอกใจแม่เขา
อันเป็นต้นเหตุให้แม่ของเขาต้องฆ่าตัวตาย
เหลียงเหวินเฉา เอากล้องวงจรปิดภายในบ้านหวังซื่อชงมาสืบดู
ก็ค้นพบกับเหตุการณ์ประหลาดมากมาย
ที่เต็มไปด้วยปริศนา
เหตุการณ์ต่างๆ โน้มน้าวประเด็นไปที่เรื่องผีสิงที่กลับมาแก้แค้น
เรื่องอาถรรพ์ คำสาปแช่ง
เหลียงเหวินเฉาไม่ได้ตัดตกประเด็นนี้
แต่ก็มีติดใจถึงผลลัพธ์ของเรื่องว่าใครจะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้มากที่สุด
ยิ่งสอบสวน ยิ่งสาวลึกลงไป เหลียงเหวินเฉาก็พบกับปมในจิตใจ
ของครอบครัวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และทุกสิ่งทุกอย่างมันพุ่งเป้าว่าจุดเริ่มต้น
มันมาจากตัวหวังซื่อชงเองทั้งสิ้น
ก่อนที่หวังซื่อชงจะถูกฆาตกรรม หวังซื่อชงเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย
เขาเหลือเวลาใช้ชีวิตไม่มากนัก เขาสุ่มพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถโอนถ่าย จิตวิญญาณมนุษย์
ไปยังร่างกายคนอื่นได้
เหลียงเหวินเฉา คิดว่าหากเทคโนโลยีเอาชนะอายุขัยของตัวเองนี้ทำได้จริง
เป็นไปได้ไหมที่ตัวหวังซื่อชงเองก็ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมขึ้น
ข้อสมมติฐานของเหลียงเหวินเฉานี้เองที่มันไขความลึกลับทุกอย่างของคดีนี้ออกมาได้ทั้งหมด
จนนำไปสู่บทสรุปหักมุมในตอนท้ายเรื่อง
เรามักเห็นหนังนิยายวิทยาศาสตร์ที่เล่าเรื่องการย้ายร่าง การย้ายวิญญาณ
เพื่อเอาชนะโรคร้ายมาแล้วหลายเรื่อง แต่ไม่มีเรื่องไหนที่กล่าวถึงการก๊อปปี้วิญญาณไปไว้อีกร่างหนึ่ง
ซึ่งมันจะต่างจากการโคลนนิ่ง
หากการโอนถ่ายจิตวิญญาณมนุษย์จากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่งเป็นไปได้จริง
ร่างใหม่ที่ถูกถ่ายโอนวิญญาณมาจะเรียกว่าเป็นวิญญาณของใคร?
แล้วจิตวิญญาณเดิมมันหายไปไหน? หรือถูกผสมหลอมรวมไปกับจิตวิญญาณของเราที่ถูกถ่ายโอนลงไป?
รวมไปถึงร่างเก่าที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็จะยังคงเป็นตัวเราคนเดิมอยู่หรือไม่?
ตัวเราจะยังคงอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีตัวตนเราอีกคนเกิดขึ้นมางั้นหรือ?
แม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีการก๊อปปี้จิตวิญญาณจะยังไม่สามารถทำได้จริง
แต่เราจะเห็นว่าในยุคโซเชียลออนไลน์ที่เราสามารถเข้าถึงกันได้ทั่วทุกมุมโลก
เรากลับมีแนวคิด การกระทำ มุมมอง ที่ถูกหลอมรวมให้ออกมาเป็นแบบเดียวกันได้อย่างง่ายดาย
จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่า
ทุกวันนี้ตัวตนเราจะยังคงมีจิตวิญญาณของเราเองอยู่หรือไม่?
อ้างอิงจากภาพยนตร์
Netflix Original
The Soul
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
