4 พ.ค. 2021 เวลา 12:40 • สุขภาพ
ทำไมเราไม่ควรสนใจแต่ %Efficacy ของวัคซีนมากนัก
5
ในสหรัฐมีวัคซีนหลักๆ 3 ตัวนี้ ซึ่งมีประสิทธิภาพแตกต่างกันไป
Pfizer (95%), Moderna (94%) และ J&J (66%)
ผู้คนไม่อยากฉีด J&J เมื่อเห็น Efficacy ที่ต่ำกว่า
4
เปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีน Source : VOX
ซึ่งเราควรต้องเข้าใจการคำนวณเลขดังกล่าวก่อน
เช่น 95% ของ Pfizer จะคำนวณจากผู้ทดลอง 43,000 คน ที่เค้าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม อย่างละเท่ากัน กลุ่มนึงได้วัคซีนจริง อีกกลุ่มนึงได้วัคซีนหลอก (Placebo)
เมื่อเวลาผ่านไป พบว่า กลุ่ม Placebo ติดเชื้อ 162 คน
กลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริงติดเชื้อ 8 คน
1
คำนวณได้ว่า Efficacy = 95% *ตัวเลขนี้ ไม่ได้แปลว่า 100 คนที่ฉีดวัคซีน จะมี 5 คนติดเชื้อ แต่แปลว่า ทุกครั้งที่เรา Expose กับเชื้อ เรามี Probability จะติดเชื้อน้อยกว่าการไม่ฉีดวัคซีน 95%
9
ดังนั้นจะเห็นว่า ถ้าเราต้องการเปรียเทียบ Efficacy ของวัคซีน การทดลองต้องทำในกลุ่มตัวอย่างเดียวกัน เวลาเดียวกัน ที่เดียวกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้
3
และยังพบว่า Pfizer, Moderna ได้ทำการทดลองในช่วงที่การระบาดต่ำ ขณะที่ J&J ทำการทดลองในช่วงที่การระบาดสูง ประกอบกับ มีการกลายพันธุ์ของเชื้อด้วย
3
ช่วงเวลาที่ Pfizer, Moderna และ J&J ทำการทดลอง
J & J เจอการกลายพันธ์ของเชื้อขณะทำการทดลองใน บราซิล และ แอฟริกาใต้
นอกจากนี้จุดประสงค์ของวัคซีน ไม่ใช่ต้องการป้องกันการติดเชื้อ แต่ต้องการให้ผู้ฉีดวัคซีนมีอาการไม่รุนแรง และ ไม่เสียชีวิต ซึ่งในการทดลองพบว่า กลุ่มที่ได้ยาหลอก บางคนติดเชื้อมีอาการหนัก บางคนเสียชีวิต แต่กลุ่มที่ได้รับวัคซีน ไม่มีใครมีอาการหนัก หรือ เสียชีวิตเลย
6
ดังนั้น ไม่ว่าจะ Pfizer Moderna J&J หรือ Astrazeneca ทางการแพทย์ ก็ยังแนะนำให้ฉีดกัน โดยไม่ต้องไปสนใจ %Efficacy มากนัก
2
เราจึงไม่ควรตั้งคำถามว่า
วัคซีนไหนป้องกันการติดเชื้อได้?
แต่ควรถามว่า
วัคซีนไหนป้องการการเสียชีวิต/อาการหนักได้?
- ซึ่งคำตอบคือทุกวัคซีนป้องกันได้
3
ส่วน Sinovac เท่าที่เห็นตัวเลขมา แม้จะป้องกันการติดเชื้อได้ต่ำกว่า แต่มันป้องกันการเสียชีวิต/อาการหนัก ได้แน่นอน. จึงแนะนำให้ฉีดต่อไป
5
[Why you can't compare Covid-19 vaccines]
ร่วมสนับสนุน เพจ Think Jet ด้วยการกดติดตามใน Blockdit 😀
1
โฆษณา