5 พ.ค. 2021 เวลา 02:41 • การศึกษา
สรุปพระราชบัญญัติ
กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549
ให้ไว้ ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
- ให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของตน
หมวด 1 คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย
(1) นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกซึ่งได้รับมอบหมายเป็นประธาน
(2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลังกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ก.พ. คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
(3) ผู้แทน อปท. จำนวนสิบสองคน ประกอบด้วยผู้บริหาร อบจ. สองคน เทศบาลสามคน อบต. ห้าคน และผู้บริหาร กทม. พัทยาหรือผู้บริหาร อปท.อื่นที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นรวมสองคน
(4) ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสิบสองคน ประกอบด้วยบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการพัฒนาท้องถิ่น เศรษฐศาสตร์ การปกครองส่วนท้องถิ่นในสาขารัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ และด้านกฎหมาย
ให้หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเลขานุการคณะกรรมการ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) อายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์
(3) ไม่เป็นข้าราชการประจำ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เว้นแต่เป็นผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
(4) ไม่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(5) ไม่เป็นสมาชิกสภาหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(6) ไม่เป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรคการเมือง
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปีไม่เกินสองวาระติดต่อกัน และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(5) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม
(6) ได้รับโทษจำคุก
- คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่
(1) จัดทำแผนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท.
(2) กำหนดการจัดระบบบริการสาธารณะ
(3) ปรับปรุงสัดส่วนภาษีและอากร
(4) กำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจ
(5) ประสานการถ่ายโอนราชการ
(6) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีให้มีการกระจายอำนาจ
(7) เสนอแนะมาตรการด้านการเงิน การคลัง การภาษีอากร การงบประมาณและการรักษาวินัยทางการเงิน การคลังของ อปท.
(8) เสนอแนะการตราพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา ออกกฎกระทรวง ประกาศ ข้อบังคับ ระเบียบ และคำสั่ง
(9) เร่งรัดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกา ออกกฎกระทรวง ประกาศ ข้อบังคับ ระเบียบ และคำสั่ง
(10) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการจัดสรรเงินงบประมาณที่จัดสรรเพิ่มขึ้นให้แก่ อปท. เนื่องจากการถ่ายโอนภารกิจ
(11) พิจารณาหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุน
(12) เสนอแนะและจัดระบบตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของประชาชน
(13) เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการในการกรณีที่ปรากฏว่าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจไม่ดำเนินการตามแผนการกระจายอำนาจ
(14) เสนอรายงานเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ต่อคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
(15) ออกประกาศตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(16) ปฏิบัติการอื่นตามที่กำหนด
- สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ
(2) รวบรวมข้อมูล ศึกษา และวิเคราะห์
(3) ร่วมมือและประสานงาน
(4) ติดตามและประเมินผล
(5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด
หมวด 2 การกำหนดอำนาจและหน้าที่ในการจัดการระบบบริการสาธารณะ
- เทศบาล เมืองพัทยา และอบต. มีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองดังนี้
(๑) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
(๒) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ
(๓) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ
(๔) การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ
(๕) การสาธารณูปการ
(๖) การส่งเสริม การฝึก และประกอบอาชีพ
(๗) การพาณิชย์ และการส่งเสริมการลงทุน
(๘) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(๙) การจัดการศึกษา
(๑๐) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
(๑๑) การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น
(๑๒) การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
(๑๓) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
(๑๔) การส่งเสริมกีฬา
(๑๕) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(๑๖) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(๑๗) การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(๑๘) การกำจัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และน้ำเสีย
(๑๙) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(๒๐) การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนสถาน
(๒๑) การควบคุมการเลี้ยงสัตว์
(๒๒) การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
(๒๓) การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัย โรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
(๒๔) การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(๒๕) การผังเมือง
(๒๖) การขนส่งและการวิศวกรรมจราจร
(๒๗) การดูแลรักษาที่สาธารณะ
(๒๘) การควบคุมอาคาร
(๒๙) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(๓๐) การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(๓๑) กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
- อบจ. มีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง ดังนี้
(๑) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง และประสานการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด
(๒) สนับสนุน อปท. อื่นในการพัฒนาท้องถิ่น
(3) การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของ อปท. อื่น
(4) การแบ่งสรรเงินให้ อปท. อื่น
(5) การคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(6) การจัดการศึกษา
(7) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(8) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(9) การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม
(10) การจัดตั้งและดูแลระบบบำบัดน้ำเสียรวม
(11) การกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลรวม
(12) การจัดการสิ่งแวดลอมและมลพิษต่างๆ
(13) การจัดการและดูแลสถานีขนส่งทางบกและทางน้ำ
(14) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(15) การพาณิชย์ การส่งเสริมการลงทุน และการทำกิจการไม่ว่าจะดำเนินการเองหรือร่วมกับบุคคลอื่นหรือจากสหการ
(16) การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
(17) การจัดตั้งและดูแลตลาดกลาง
(18) การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น
(19) การจัดให้มีโรงพยาบาลจังหวัด การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ
(20) การจัดให้มีพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ
(21) การขนส่งมวลชนและการวิศวกรรมจราจร
(22) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(23) การจัดให้มีระบบรักษาความสงบเรียบร้อยในจังหวัด
(24) จัดทำกิจการอันเป็นอำนาจและหน้าที่ของ อปท. อื่นที่อยู่ในเขต และสมควรให้ อปท.อื่นร่วมดำเนินการหรือ อบจ. จัดทำ
(25) สนับสนุนหรือช่วยเหลือส่วนราชการ หรือ อปท.อื่นในการพัฒนาท้องถิ่น
(26) ให้บริการเอกชน ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือ อปท.อื่น
(27) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
(28) จัดทำกิจกรรมอื่นตามกฎหมายกำหนด
(29) กิจการอื่นใดตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
- กทม. มีอำนาจหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะเช่นเดียวกับ อบจ. และ อปท.อื่น
หมวด 3 การจัดสรรสัดส่วนภาษีและอากร
- เทศบาล เมืองพัทยา และอบต. อาจมีรายได้
(1) ภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(2) ภาษีบำรุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่
(3) ภาษีป้ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย
(4) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับจัดสรร ไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(5) ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(6) ภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต ภาษีสุราว่าด้วยสุรา และค่าแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยยาสูบ ซึ่งเก็บจากการค้าในเขต โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิตที่จะจัดเก็บ
(7) ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ รวมเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และค่าธรรมเนียมล้อเลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(8) ภาษีการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(9) ภาษีการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(10) อากรการฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
(11) อากรรังนกอีแอ่นตามกฎหมายว่าด้วยอากรรังนกอีแอ่น
(12) ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่หลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(13) ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมหลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(14) ค่าธรรมเนียมและการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีทุนทรัพย์ภายในเขต ตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
(15) ค่าธรรมเนียมสนามบินตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
(16) ค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกินร้อยละสิบ
(ก) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราตามกฎหมายว่าด้วยสุรา
(ข) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(17) ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าปรับ
(18) ค่าใช้น้ำบาดาลตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล
(19) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะ
(20) รายได้อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
- อบจ.อาจมีรายได้
(1) ภาษีบำรุง อบจ. สำหรับน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก๊าซปิโตรเลียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลงสำหรับรถยนต์ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มสำหรับน้ำมันไม่เกินลิตรละสิบสตางค์ และก๊าซปิโตรเลียมไม่เกินกิโลกรัมละสิบสตางค์
(2) ภาษีบำรุง อบจ. สำหรับยาสูบ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มได้ไม่เกินมวนละสิบสตางค์
(3) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับจัดสรร ไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(4) ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(5) ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ รวมเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และค่าธรรมเนียมล้อเลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(6) ภาษีการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(7) อากรรังนกอีแอ่นตามกฎหมายว่าด้วยอากรรังนกอีแอ่น
(8) ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ให้ได้รับจัดสรรในอัตราร้อยละยี่สิบ
(9) ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม ให้ได้รับจัดสรรในอัตราร้อยละยี่สิบ
(10) ค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ. โดยออกข้อบัญญัติเรียกเก็บจากผู้พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรม
(11) ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าปรับ
(12) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะ
(13) รายได้อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
- กทม. อาจมีรายได้
(1) ภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(2) ภาษีบำรุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่
(3) ภาษีป้ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย
(4) ภาษีบำรุง กทม. สำหรับน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก๊าซปิโตรเลียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลงสำหรับรถยนต์ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มสำหรับน้ำมันไม่เกินลิตรละสิบสตางค์ และก๊าซปิโตรเลียมไม่เกินกิโลกรัมละสิบสตางค์
(5) ภาษีบำรุง กทม. สำหรับยาสูบ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มได้ไม่เกินมวนละสิบสตางค์
(6) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับจัดสรร ไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(7) ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(8) ภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต ภาษีสุราว่าด้วยสุรา และค่าแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยยาสูบ ซึ่งเก็บจากการค้าในเขต โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิตที่จะจัดเก็บ
(9) ภาษีเพื่อการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(10) ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ รวมเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และค่าธรรมเนียมล้อเลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(11) ภาษีการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(12) ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่หลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(13) ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมหลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(14) อากรการฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
(15) ค่าธรรมเนียมบำรุง กทม. โดยออกข้อบัญญัติเรียกเก็บจากผู้พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรม
(16) ค่าธรรมเนียมสนามบินตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
(17) ค่าธรรมเนียมและการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีทุนทรัพย์ภายในเขต ตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
(18) ค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกินร้อยละสิบ
(ก) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราตามกฎหมายว่าด้วยสุรา
(ข) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(19) ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าปรับ
(20) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะ
(21) รายได้อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
- อปท. อาจมีรายรับดังต่อไปนี้
(1) รายได้จากทรัพย์สินของ อปท.
(2) รายได้จากสาธารณูปโภค
(3) รายได้จากการพาณิชย์และการทำกิจการ
(4) ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ค่าปรับ ค่าตอบแทน หรือรายได้อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้
(5) ค่าบริการ
(6) เงินอุดหนุน
(7) เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
(8) รายได้จากการจำหน่ายพันธบัตร
(9) เงินกู้จากกระทรวง ทบวง กรม องค์การ หรือนิติบุคคลต่างๆ
(10) เงินกู้จากต่างประเทศ
(11) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
(12) เงินช่วยเหลือหรือเงินค่าตอบแทน
(13) รายได้จากทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการเพื่อมุ่งหากำไร
(14) รายได้จากค่าธรรมเนียมพิเศษ
(8) (9) (10) (13) ให้ออกเป็นข้อบัญญัติโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
หมวด 4 แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(1) ให้ดำเนินการถ่ายโอนภารกิจการให้บริการสาธารณะที่รัฐดำเนินการอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแก่ อปท. ภายในกำหนดเวลา ดังนี้
(ก) ภารกิจที่ดำเนินการซ้ำซ้อน หรือรัฐจัดให้บริการในเขต อปท. ให้ดำเนินการให้เสร็จภายในสี่ปี
(ข) ภารกิจที่รัฐจัดให้บริการในเขตตอง อปท. และกระทบถึง อปท. อื่น ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสี่ปี
(ค) ภารกิจที่เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ให้ดำเนินการให้เสร็จภายในสี่ปี
(2) กำหนดเขตความรับผิดชอบ ให้ชัดเจน ไม่เกินระยะเวลาสิบปี
(3) กำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ให้รัฐทำหน้าที่ประสานความร่วมมือและช่วยเหลือ
(4) กำหนดการจัดสรรภาษีและอากร เงินอุดหนุน และรายได้อื่นให้แก่ อปท. โดยตั้งแต่ปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ให้ อปท.มีรายได้คิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้า โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ อปท. มีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละสามสิบห้า
(5) การจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในส่วนที่เกี่ยวกับบริการสาธารณะในเขต อปท. ให้รัฐจัดสรรเงินอุดหนุนให้เป็นไปตามความจำเป็นและความต้องการของ อปท.
- ให้คณะกรรมการดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจตามแผนกระจายอำนาจ
โฆษณา