หมวด 3 การจัดสรรสัดส่วนภาษีและอากร
- เทศบาล เมืองพัทยา และอบต. อาจมีรายได้
(1) ภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(2) ภาษีบำรุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่
(3) ภาษีป้ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย
(4) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับจัดสรร ไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(5) ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(6) ภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต ภาษีสุราว่าด้วยสุรา และค่าแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยยาสูบ ซึ่งเก็บจากการค้าในเขต โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิตที่จะจัดเก็บ
(7) ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ รวมเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และค่าธรรมเนียมล้อเลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(8) ภาษีการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(9) ภาษีการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(10) อากรการฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
(11) อากรรังนกอีแอ่นตามกฎหมายว่าด้วยอากรรังนกอีแอ่น
(12) ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่หลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(13) ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมหลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(14) ค่าธรรมเนียมและการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีทุนทรัพย์ภายในเขต ตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
(15) ค่าธรรมเนียมสนามบินตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
(16) ค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกินร้อยละสิบ
(ก) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราตามกฎหมายว่าด้วยสุรา
(ข) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(17) ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าปรับ
(18) ค่าใช้น้ำบาดาลตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล
(19) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะ
(20) รายได้อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
- อบจ.อาจมีรายได้
(1) ภาษีบำรุง อบจ. สำหรับน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก๊าซปิโตรเลียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลงสำหรับรถยนต์ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มสำหรับน้ำมันไม่เกินลิตรละสิบสตางค์ และก๊าซปิโตรเลียมไม่เกินกิโลกรัมละสิบสตางค์
(2) ภาษีบำรุง อบจ. สำหรับยาสูบ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มได้ไม่เกินมวนละสิบสตางค์
(3) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับจัดสรร ไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(4) ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(5) ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ รวมเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และค่าธรรมเนียมล้อเลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(6) ภาษีการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(7) อากรรังนกอีแอ่นตามกฎหมายว่าด้วยอากรรังนกอีแอ่น
(8) ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ให้ได้รับจัดสรรในอัตราร้อยละยี่สิบ
(9) ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม ให้ได้รับจัดสรรในอัตราร้อยละยี่สิบ
(10) ค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ. โดยออกข้อบัญญัติเรียกเก็บจากผู้พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรม
(11) ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าปรับ
(12) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะ
(13) รายได้อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
- กทม. อาจมีรายได้
(1) ภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน
(2) ภาษีบำรุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่
(3) ภาษีป้ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีป้าย
(4) ภาษีบำรุง กทม. สำหรับน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก๊าซปิโตรเลียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลงสำหรับรถยนต์ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มสำหรับน้ำมันไม่เกินลิตรละสิบสตางค์ และก๊าซปิโตรเลียมไม่เกินกิโลกรัมละสิบสตางค์
(5) ภาษีบำรุง กทม. สำหรับยาสูบ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มได้ไม่เกินมวนละสิบสตางค์
(6) ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับจัดสรร ไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(7) ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากร โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
(8) ภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต ภาษีสุราว่าด้วยสุรา และค่าแสตมป์ยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยยาสูบ ซึ่งเก็บจากการค้าในเขต โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพสามิตที่จะจัดเก็บ
(9) ภาษีเพื่อการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
(10) ภาษีและค่าธรรมเนียมรถยนต์ รวมเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และค่าธรรมเนียมล้อเลื่อนตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
(11) ภาษีการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(12) ค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายว่าด้วยแร่หลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(13) ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียมหลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐในอัตราร้อยละสี่สิบแล้ว
(14) อากรการฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
(15) ค่าธรรมเนียมบำรุง กทม. โดยออกข้อบัญญัติเรียกเก็บจากผู้พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรม
(16) ค่าธรรมเนียมสนามบินตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
(17) ค่าธรรมเนียมและการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีทุนทรัพย์ภายในเขต ตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
(18) ค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ โดยออกข้อบัญญัติจัดเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกินร้อยละสิบ
(ก) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุราตามกฎหมายว่าด้วยสุรา
(ข) ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเล่นการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
(19) ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต และค่าปรับ
(20) ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะ
(21) รายได้อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
- อปท. อาจมีรายรับดังต่อไปนี้
(1) รายได้จากทรัพย์สินของ อปท.
(2) รายได้จากสาธารณูปโภค
(3) รายได้จากการพาณิชย์และการทำกิจการ
(4) ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ค่าปรับ ค่าตอบแทน หรือรายได้อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้
(5) ค่าบริการ
(6) เงินอุดหนุน
(7) เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
(8) รายได้จากการจำหน่ายพันธบัตร
(9) เงินกู้จากกระทรวง ทบวง กรม องค์การ หรือนิติบุคคลต่างๆ
(10) เงินกู้จากต่างประเทศ
(11) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
(12) เงินช่วยเหลือหรือเงินค่าตอบแทน
(13) รายได้จากทรัพย์สินของแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการเพื่อมุ่งหากำไร
(14) รายได้จากค่าธรรมเนียมพิเศษ
(8) (9) (10) (13) ให้ออกเป็นข้อบัญญัติโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี