เสือสมิง
บรรยากาศปัจจุบันไปที่ใด เสพข่าวใดก็ไม่พ้นเรื่องโควิด จนบางวันกลับมาถามตัวเองว่า เราเป็นหรือยังหว่า? บางครั้งอ่านอาการคนที่เป็น เอ่อ! ทำไมมีอาการแบบเราเลย เราเป็นป่าวหว่า? วันไหนไม่เสพข่าว เอ่อ! วันนี้เราไม่เป็น จะประสาทรับประทานแล้ว! อิอิ
Jasmine เลยหาเรื่องอื่นๆ มาศึกษาเปลี่ยนบรรยายกาศบ้างดีกว่า พอดีครูท่านส่งเรื่องนี้มาให้ศึกษาเลยเข้าไปเอาข้อมูลนี้ใส่จิตแทนเรื่องโควิดบาง
หลังจากดู v จบ จิตก็เข้าสำรวจ พร้อมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติม จากการบันทึกเรื่องราว คำบอกเล่าของพระเกจิหรือผู้รู้ ที่ได้พบเสือสมิง จึงรู้ลักษณะของเสื้อสมิง โดยขอมองในแง่มุมวิทยาศาสตร์ทางจิตศาสตร์เข้ามาด้วย จะเห็นเป๋น 2 ลักษณะ คือ
• แบบแรก เกิดขึ้นจากฐานของเสือเองเลย โดยเสือตัวนั้น จะมีอุปนิสัยที่ดุร้าย จิตมีพลังในตัวมันเอง เจาะมองลงไปในจิต จิตมันจะกว้าง ใหญ่ มีพลังอำนาจเหนือเหยื่อทุกประการ เมื่อเปรียบเทียบขนาดจะมีรูปร่างที่ใหญ่กว่าเสือปกติ ยิ่งกว่าจ่าฝูง จะมีนิสัยที่อยู่ตัวเดียว ดุร้าย
เมื่อเวลาที่กินเหยื่อทั้งที่เป็นมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดๆเข้าไป จิตของเหยื่อผู้นั้นจะถูกขังไว้ในจิตที่มีพลังของเสือสมิงตัวนี้ เนื่องด้วยเหยื่อนั้นมีความหวาดกลัว ความโกรธแค้น ความเจ็บปวดสุดขีด ทำให้พลังในตัวเหยื่อนั้นอ่อนลง แต่กลับมาเป็นการเพิ่มพลังให้จิตของเสือสมิง ยิ่งมีดวงจิตนำมาจะสะสมมากเข้า จิตเจ้าเสือสมิงตัวนี้มีกำลังมากขึ้น เรื่อยๆ เห็นที่ดวงจิตเสือสมิง จะเห็นพลังจิตของมันล้อมกักขังดวงจิตเหยื่อไว้ภายในจิตของมันเป็นเส้นพลังสีออกเขียวดำๆรัดล้อมดวงจิตเหยื่อไว้
• แบบที่ 2 เสือสมิงที่เกิดจากการมีผู้เล่นไสยเวทมนต์ดำทางเดรัจฉาวิชา ใช้วิชาเสือสมิง เวลาฝึกเค้าจะใช้พลังจิตของเค้าพร้อมด้วยคาถา เอาดวงจิตของเสือผู้เคราะห์ร้ายหรือไม่ก็ครูบาอาจารย์ของเค้านำมาประสิทธิ์ไว้ ให้จิตเค้ามีพลัง
เจาะเข้าไปจะเห็นพลังจิตคนผู้นั้นเป็นสีดำ เมื่อเค้านำเอาดวงจิตของเสือเข้าไปกักขัง (สัตว์เมื่อถูกกักขังมันจะยิ่งดุร้าย) สะสมจำนวนมากเข้าบวกกับการใช้คาถา มนต์ดำกำกับตลอด นานเข้าเค้าสามารถแปลงร่างเป็นเสือได้ และเมื่อไรที่เค้ากินผู้คนเข้าไป สภาวะเค้าจะกลายเป็นเสือไปตลอดกาล ตรงส่วนนี้ได้รับคำบอกเล่าจากพระเกจิหรือผู้รู้อีกที
สภาวะเช่นนี้ Jasmine จึงอยากรู้ว่าจริงไหมหนอ เลยเข้าศึกษาสิ่งที่เห็น เห็นดวงจิตของผู้ไสยเวทผู้นั้นยินดีรับพลัง ยินดีรับอำนาจของดวงจิตเสือเข้าจิตตนเองเปิดจิตด้วยความเต็มใจ พลังนั้นก็เริ่มครอบงำจิตเค้า นานๆเข้า ทำให้มีอุปนิสัย บุคลิกท่าทางของเค้าเปลี่ยนไปราวกับเป็นลักษณะบุคลิกของเสือ
ในบางครั้งที่จิตระเริงตามหรืออยู่ในพะวังค์ที่ควบคุมไม่ได้ หรือปราถนาจะให้พลังนั้นปรากฏ แสดงอภินิหารในตัวเค้า คนพวกนี้จะมีรูปร่างหน้าตาที่ดุดัน มีอากัปกริยาคล้ายเสือ จิตใต้สำนึกมีแนวโน้มไปเป็นเสือ ที่สุดก็สามารถกินผู้คน หรือสัตว์อื่นๆแบบสดๆได้ และผู้รู้กล่าวว่าถ้าเค้าได้ลิ้มกินเลือดมนุษย์ สักครั้งคนผู้นั้นจะกลายเป็นเสือสมิงไปตลอดกาล
สภาวะเช่นนี้ Jasmine เจาะเข้าศึกษาต่อ เห็นดวงจิตของเค้าในช่วงแรกจะสามารถควบคุมพลังดวงจิตของเสือที่เรียกเข้าตัวได้ แต่พอนานๆ ไปจิตตนเอง เริ่มอ่อนแอ หรือไม่ก็ฮึกเฮิมในพลังที่เกิด สภาพดวงจิตของเสือที่อยู่เริ่มแข็งแกร่งจะสามารถควบคุมจิตผู้นั้นได้ (คล้ายการเข้าทรง และวิชาเริ่มกินตัว) จิตใจจึงกลายเป็นเสือ สำนึกของมนุษย์จึงหายไป อย่างที่เค้าว่า คนผู้นั้นจะกลายเป็นเสือตลอดกาล
ทีนี้มาดูจากตัวอย่างที่เล่าขานกันว่า เสือสมิงสามารถ แปลงร่างเป็นคน เป็นพระ เป็นลูก เป็นเมีย หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นคนที่เค้ารู้จักและล่อเหยื่อให้ไว้ใจ และเข้ามาใกล้ ที่สุดก็ถูกหลอกไปฆ่ากินได้
สภาวะนี้ Jasmine เข้าศึกษาดู จึงเข้าใจ ที่จริงเสือสมิงตัวนั้นมิได้สามารถแปลงร่างเป็นคน พระ หรือคนที่เหยื่อรู้จักได้ เพียงแต่มันสามารถควบคุมจิตของเหยื่อให้สามารถเห็นเป็นบุคคลที่คนผู้นั้นรู้จัก หรือคาดคะเนว่าใช่ เช่น ให้เหยื่อเห็นตัวมัน เป็นลูกเมียของเหยื่อ ซึ่งตรงนี้มันจะทำได้กับคนที่มีพลังจิตที่อ่อนกว่ามัน ถ้าผู้มีพลังจิตมีวิชาที่แข็งกล้ากว่าจะดูออกว่าเป็นเสือสมิงมิใช่คนที่เค้ารู้จัก แต่บางครั้งด้วยสถานะการณ์ที่ฉุกละหุก ก็อาจพลาดได้ เพราะจิตไม่อยู่ในสมาธิพอ (สังเกตุว่าบุคคลที่เหยื่อเห็นมักเป็นบุคคลที่เค้ารู้จัก และอยู่ในมโนความคิดของเค้า พลังจิตเจ้าเสือสมิงจะสะกดให้ดวงจิตเหยื่อมโนภาพเห็นร่างของมันเป็นร่างคนที่เค้ารู้จัก) จึงคล้ายราวกับว่ามันแปลงร่างได้
ส่วนคนที่คงแก่เวทย์ที่มีสภาวะกลายร่างเป็นเสือสมิงนั้น แท้ที่จริงก็ยังเป็นร่างคนๆนั่น แต่อัปกริยา และจิตที่ถูกเสือสมิงครอบงำจนดูมีสภาวะที่ดุร้าย ท่าทางราวกับเสือ ด้วยจิตของเหยื่อนั้นถูกครอบงำด้วยอำนาจจิตของเสือสมิงตัวนั้นๆ จึงดูเหมือนว่ากลายร่างเป็นเสือสมิงไปตลอด
ที่นี้เราจะรู้ได้ไงว่า คนที่เราเห็นนั้นเป็นคนที่เรารู้จักจริงๆหรือเป็นเสือสมิงปลอมมา เรื่องนี้Jasmineกราบเรียนถามหลวงปู่มั่น ท่านเมตตาอธิบายว่า
1. เราต้องมีไหวพริบว่า สถานที่ที่เราไปนั้นมันเหมาะกับการที่คนที่เรารู้จักจะเข้าไปหรือ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นป่าลึกรกชัฎ ในเวลาค่ำคืน
2. วางจิตให้สงบมีสติไว้เสมอ เตือนตัวเองว่า ในที่นี้ไม่สามารถไว้ใจใครได้แม้แต่พ่อแม่เราก็ตาม ถ้าไม่ได้มากับเรา
3. วางจิตเป็นกลาง สงบแล้วมองไปที่จิตของผู้นั้น มันจะเห็นร่างที่แท้จริง ปรากฎออกมา
4. สังเกตุสัตว์พวกนี้ถ้าจิตเราแข็งเวลามันคุยกับเรา มันจะไม่มองหน้าเรา พยายามหนีการสบตา เพราะตามันจะเป็นสีวาวของตาสัตว์
5. ถ้าไม่แน่ใจขณะเจรจา ลองโยนสิ่งของให้มันรับ ถ้าเป็นคนจะใช้มือรับต่างจากสัตว์ มันจะเผลอใช้ปากคาบรับแทน
6. ไปที่ใดก็กราบไหว้ ขออนุญาติ เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาคุ้มครองไว้ อย่าคิดว่าเราเก่ง ควรจะถ่อมตัวไว้ อย่าลืม4ตีนยังรู้พลาด
7. เวลาสวดมนต์ภาวนาก็เรียกเจ้าป่า เจ้าเขารุกเทวามาร่วมสวด เริ่มสร้างบุญ และแพร่บุญให้สรรพสัตว์ที่นั้นตลอด เมื่อเราหวังดี ให้เค้ามีหรือที่เค้าไม่ช่วยดูแลเรา
และที่สุดเมตตาเท่านั้นที่จะค้ำจุนเรา
เจ้าค่ะหลวงปู่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
