5 พ.ค. 2021 เวลา 14:58 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Buy in may - ดร.วิศิษฐ์ ผ่านรายการ money chat
• มองเรื่องเวฟ3 ขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีนเป็นหลัก แม้ตัวเลขจะติดเยอะ แต่ตัวเลข GDP ยังอยู่ในระดับ 2% ได้ หลักๆมาจากเรื่องการส่งออกของประเทศคู่ค้า ทั้งสหรัฐและจีน โดดเฉพาะสินค้าเกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร ยางพาราและน้ำตาล อีกอุตสาหกรรมคือ รถยนต์และการส่งออกชิ้นส่วนยางยนต์ที่น่าสนใจ
• การส่งออกดีกว่าการบริโภคภายใน (ต่างจากปีที่แล้วที่การส่งออกได้รับผลกระทบมากกว่าการบริโภค)
• covid รอบนี้จะกระทบบาง sector โดนเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม อีกกลุ่มคือค้าปลีก เพราะโครงสร้างประชากรบ้านเรามีหนี้ครัวเรือนเยอะ
ผู้ได้ประโยชน์คือ กลุ่มโลจิสติกส์ ผู้ผลิตทั้งในกลุ่มปิโตรเคมี รถยนต์และน้ำตาล
• กลุ่มการเงินจะได้ประโยชน์จาก bond yield ปรับตัวขึ้นเยอะ ทั้งนี้ต้องระวัง NPL โดยเลือกบริษัทที่มีการตั้ง coverate ratio เยอะๆจะปลอยภัย
• สภาพคล่องในระบบเยอะ วัดจาก money supply ทั่วโลกเพิ่มกว่า 10% ซึ่งวิ่งไปใน financial asset ไม่ได้ไหลเข้า real sector เลย
• การพื้นตัว ระวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะนำมาซึ่งการลดขนาดการอัดฉีดเงินเข้าระบบหรือ tapering
ดูจาก fed fund futures ปรับตัวขึ้นมารอแล้ว ต้องดูว่าปลายปีนี้จะมีการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่? สังเกตุได้จากเงินเฟ้อเดือนพฤษภาและมิถุนายน ทั้งนี้ราคาน้ำมันและ soft commodity ปรับตัวขึ้นมารอหมดแล้ว เป็นตัวเร่งเงินเฟ้อจากฝั่ง cost push
• ทั้งนี้ในเมกาจะมี demand pull มาเร่งเงินเฟ้อจากการอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้านเหรียญ และประชาชนที่กำไรจากตลาดหุ้นที่ new high จะไหลลงมาในฝั่ง c-consumption
• super cycle ของ commodity ต้องระวัง เพราะเกิดจาก supply disruption คาดว่าจะลากยาวไปอีก 3-6 เดือน ทำให้อาจจะเป็นพีคของราคา commodity ได้ - ให้ระวังเพราะราคาหุ้นจะพีคไปก่อนราคาคอมโมฯจะพีค
Supply ของปิโตรเคมี คาดจะพีคไตรมาส2 เพราะจะมี supply ที่จะเปิดมารออยู่
• คำแนะนำ ดร.คือ buy on dip in May คาดว่าโควิดจะควบคุมได้ใน 1-2 เดือน โฟกัสหุ้นกลุ่มส่งออกเป็นหลัก ซึ่งจะลิ้งค์ไปหาภาค manufacturing ทั้งยายนต์ ปิโตร โรงกลั่น
ที่มา :
โฆษณา